จากกรณีที่เด็กหญิง อลิส วัย 3 ขวบ หายไปจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านค้อ ตำบลคอนกาม อำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ ก่อนพบจมน้ำเสียชีวิตอยู่ในสระน้ำกลางทุ่งนา ระยะห่างจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ไปประมาณ 800 เมตร เมื่อเวลา 12.40 น.ของวันที่ 14 มิ.ย. 67 ซึ่งพ่อแม่ยัน ไม่ปักใจเชื่อลูกตนเองเดินไปยังจุดเกิดเหตุ

วันที่ 7 ก.ค. 67 เวลา 10.00 น. ทีมข่าวช่องแปดได้เดินทางไปหาครูหนุ่ย เพื่อสอบถามพูดคุยในประเด็นสาเหตุการกลับคำในการเกลี่ย ครั้งที่ 2 และหวังจะเจรจากับครอบครัวน้องอลิสใหม่ นั้น 

ครูหนุ่ย เปิดใจกับทีมข่าวช่องแปดว่า เจตนาตนไม่ได้ตั้งใจไม่อยากไกล่เกลี่ยและจะไม่เยียวยาครอบครัวของน้อง ตนยืนยันไม่รู้กฎหมาย และขณะเดียวยอมรับตนอยู่ในสภาวะกดดันหลายอย่างในครอบครัว โดยสามี และพี่สาวป่วย ตนจึงมีความกังวลในสิ่งที่จะเกิดขึ้นมากเกินไป จึงเกิดความลังเล จึงอยากจะกลับมาปรึกษากับทางครอบครัวเพื่อความชัดเจน 

ขณะเดียวกัน หลังจากคิดทบทวนสักครู่ตนจึงได้กลับเข้าไปพูดคุยเพื่อขอโอกาสการเยียวยา และเงื่อนไขเช่นเดียวกับครูทั้ง 2 ท่าน กับทางคอบครัวน้องอลิส อีกครั้ง และทางครอบครัวก็ยืนยันไม่ให้โอกาสครูแล้ว ครูจึงพยายามขอโทษและขอโอกาส แต่ก็ไม่สำเร็จ ตนจึงขอถอยไปตั้งหลักก่อน และเป็นห่วงพี่สาวมากจึงรีบไปที่โรงพยาบาลด้วย เพราะไม่มีใครดูแล

เบื้องต้น ครูขอยืนยัน อยากจะไกล่เกลี่ยอีกครั้ง เหมือนเพื่อนครู ทั้ง 2 ท่าน ซึ่งเข้าใจความรู้สึกของผู้สูญเสียเป็นอย่างดี 

ส่วนประเด็นที่ทางคุณพ่อน้องอลิสยืนยันยังให้โอกาสครูหากเข้ามาเจรจาด้วยตนเองที่บ้าน ครูหนุ่ยอีกว่า ต้องขอบคุณที่ให้โอกาสในวันนี้ หลังจากวันที่ไกล่เกลี่ยกันทางครอบครัวไม่ได้ให้โอกาส ครูจึงได้ถอยกลับออกมาก่อน

นอกจากนี้ สภาพจิตใจล่าสุด ตนยอมรับค่อนข้างเครียด เพราะว่ายอดเงินค่อนข้างมากที่ต้องรอชำระ และไปชำระเงินอีกบางส่วนที่ศาลอีก ซึ่งตนมีภาระที่ต้องแบกรับค่อนข้างเยอะ เช่น ลูกตนที่ยังเด็ก สามีที่ป่วย และแม่ชราที่ต้องดูแล ซึ่งตนมีรายได้เพียงทางเดียว รวมถึงภาระหนี้สินที่ยังมีอยู่

นางหมอนคำ อายุ 51 ปี (ยายน้องบูบู) เผยว่า ในวันเกิดเหตุ หลานของตนไม่ได้เล่นน้ำ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยถูกครูตี ขณะเดียวกันวันที่ยายไปรับหลานก็ได้พาน้องบูเดินไปเข้าห้องน้ำ โดยยายสังเกตุเห็นเสื้อผ้าของเด็กอยู่ในห้องน้ำตรงบริเวณขอบอ่างพอดี จึงได้ถามน้องบูว่าเป็นเสื้อผ้าของใคร “หลานก็บอกว่าเป็นของน้องโปรด โปรดเล่นน้ำกับอลิส จนครูด่าเท่านั้น “ แต่ไม่ได้บอกว่าใครเป็นคนอาบน้ำให้ ซึ่งวันนั้นเสื้อผ้าในห้องน้ำตนสังเกตเห็นเพียงเสื้อผ้าเพียงชุดเดียวของน้องโปรด สีลักษณะจะดำก็ไม่ดำ โดยช่วงที่ตนไปรับหลานก็เป็นช่วงชุลมุนกันพอดี กำลังจะกลับบ้านพอดีหลานอยากจะเข้าห้องน้ำก็เลยพาไป