กรณีเมื่อปี 2557 เมื่อ “น้องอิคคิว” เด็กชาย 7 ขวบ ชาว จ.อุดรธานี เกิดเหตุลูกชิ้นปลาติดคอและกลายเป็นเจ้าชายนิทรา ตลอดหลายปีที่ผ่านผู้เป็นพ่อแม่และครอบครัว ต่างดูแลน้องอย่างใกล้ชิด และมีการเปิดเพจเฟซบุ๊ก เพื่อเปิดเผยเรื่องราวตลอดจนอัพเดตอาการของน้อง รวมถึงเป็นสะพานบุญให้กับผู้ป่วยรายอื่น จนมีแฟนเพจประมาณ 6 แสนคน ล่าสุดพ่อตั้มแจ้งข่าวเศร้าว่าน้องอิคคิวจากไปอย่างสงบที่ รพ.อุดรธานี เมื่อเวลา 03.59 น. วันที่ 7 กรกฎาคม 2567 สร้างความเสียใจให้กับครอบครัวและแฟนคลับจำนวนมาก

 

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 7 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดทิพยรัฐนิมิต (วัดป่าบ้านจิก) เทศบาลนครอุดรธานี สถานที่ตั้งศพนายณัฐ หรือน้องอิคคิว อายุ 17 ปี โดยมีนายคงศักดิ์ หรือพ่อตั้ม อายุ 46 ปี และ น.ส.อุเทนี หรือแม่ปุ๊ก 43 ปี พ่อและแม่น้องอิคคิว และครอบครัว ได้จัดเตรียมสถานที่เพื่อเตรียมจัดพิธีสวดอภิธรรมศพน้องอิคคิว บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า พ่อตั้มได้เคาะโลงศพบอกลาลูกเป็นครั้งสุดท้ายทั้งน้ำตา ก่อนจัดเตรียมอาหารมื้อแรกหลังจากสิ้นลมตามความเชื่อ เป็นแฮมเบอร์เกอร์พร้อมเครื่องเคียงครบเซ็ต 

 

พ่อตั้ม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากทำกิจวัตรประจำวันเสร็จแล้ว และกำลังพยุงตัวน้องมานั่งไอ น้องไอออกมาเป็นเลือดค่อนข้างเยอะ ก็กลัวว่าน้องจะช็อกจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล หมอบอกว่าเกิดจากฤทธิ์ยาบ้างตัว ที่ทานติดต่อกันมานาน ทำให้ไปกัดกระเพาะ แต่ไม่ใช่สาเหตุหลักที่น้องจากไป หลักๆ เกิดจากสมองน้องเสียหายตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุลูกชิ้นเนื้อปลาติดคอ มันบอบช้ำ ไม่มีการฟื้นตัว ระบบภายในแย่ลงเรื่อยๆ การถอดท่อเป็นเรื่องยากมากทุกครั้งที่เข้าไอซียู 

 

“เราบอกหมอแล้วว่าไม่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจได้ไหม เพียงแค่คีพออกซิเจนได้ไหมแต่ด้วยระบบการรักษา หมอก็จะให้เราเซ็นยินยอมใส่ท่อช่วยหายใจ อาการแผลในกระเพาะหายตั้งแต่ 3 วันแรกแล้ว แต่ที่ต้องนอนรักษานานขนาดนี้ เพราะเกิดภาวะหายใจเองไม่ได้ เป็นอาการเดียวกันกับตั้งแต่เกิดเหตุแรกๆ แต่ตอนนั้นน้องยังเล็ก มียามีเครื่องมือ ตอนนั้นเราก็ดูแลไม่เป็น ใส่ท่อแล้วถอดไม่ได้ แต่ผ่านมา 10 ปี น้องอายุ 17 แล้ว ร่างกายโตขึ้น หลอดลมยาวขึ้น พวกยาและอุปกรณ์นั้นๆช่วยไม่ได้แล้ว หมอเฉพาะทางทำสุดทางแล้ว”  

 

พ่อตั้ม เปิดเผยอีกว่า ถ้าเราจะยื้อจะเอาเค้ากลับมาที่บ้าน ต้องเจาะคอใส่ท่อช่วยหายใจ ก็มองว่าเค้าจะเหนื่อยเยอะ ประกอบกับปอดมีการติดเชื้อมากขึ้น จึงยุติการรักษา เพื่อทำให้เค้าสบายที่สุดในช่วยท้ายของชีวิต ตามที่เคยบอกพี่พี่แฟนเพจบอกไว้ จนกระทั่งน้องจากไปในที่สุด เราก็อยากจะยื้อเค้าไว้ ที่ผ่านมา 10 ปีน้อง ไม่เคยป่วยหนักแบบนี้ จะมีแค่ปีแรกที่เกิดเหตุ เพราะเราก็ยังใหม่ ยังดูแลลูกไม่เป็น ซึ่งวันนี้เป็นพิธีสวดอภิธรรมศพวันแรก จะมีพิธีฌาปนกิจในวันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคมนี้ จากนั้นก็จะนำอัฐิไปลอยอังคาร 

 

“ต้องขอบพระคุณพี่ๆ แฟนเพจที่คอยช่วยเหลือสนับสนุนด้วยดีตลอดมา แฟนคลับน้องต่างก็เสียใจกับน้อง เพราะเกิดขึ้นเร็วมาก แต่ก็ต้องเข้าใจว่าน้องไม่ได้แข็งแรงเหมือนเด็กคนอื่น เราและแฟนคลับทุกคนก็ยอมรับได้ในจุดนี้ อยากให้น้องไปสบาย ไม่อยากให้ทรมานอีก น้องได้รับยามอฟีนก็นอนหลับไม่ตอบสนอง ไม่ได้มีอาการตอบโต้ใดใด ไม่มีเหตุบอกล่วงหน้าว่าน้องจะป่วยหนักจนจากไป แต่มีแฟนคลับท่านหนึ่งทักขณะไลฟ์สดก่อนน้องจะเลือดออกในกระเพาะ พี่เขาทักว่าเห็นผู้หญิงมานั่งอยู่ปลายเท้าน้อง เราก็ฟังหูไว้หู จนน้องต้องเข้าโรงพยาบาล จากนี้ขอทำใจสักระยะ และจะกลับมาให้กำลังใจแฟนเพจ พร้อมกับจะคอยเป็นสะพานบุญให้คนอื่นต่อไป”

ไร้ปาฏิหาริย์ "น้องอิคคิว" จากไปอย่างสงบ หลังป่วยเจ้าชายนิทรากว่า 10 ปี