เมื่อช่วงก่อนเที่ยงที่ผ่านมา (8 ก.ค.) ได้มีคนร้าย เป็นชาย 1 คน สวมหมวก คลุมหน้า ใส่แว่น รูปร่างสูงผอม ประมาณ 180 ซม. สวมถุงมือใส่รองเท้าบูท และสวมเสื้อแกร็บสีเขียว สะพายกระเป๋า เดินเข้ามาในร้านเมื่อเวลา 11.28 น. โดยพูดสำเนียงภาษาไทยกลาง เบาๆ และ ได้โยนถุง ของร้านสะดวกซื้อ ให้พนักงาน ให้ เก็บทองใส่แต่พนักงานในร้าน 3 คนขัดขืนคนร้ายจึงกระโดดข้ามเคาน์เตอร์เข้าไปกวาดเอาทองในตู้โชว์ เป็นทองรูปพรรณ ไปประมาณมากกว่า 50 บาท ( ขณะนี้ทางพนักงานร้านโกดังตรวจสอบ ทองรูปพรรณที่คนร้ายได้ไป)

จากนั้นคนร้ายได้วิ่งกลับหนีไปยังลานจอดรถ ชั้น 2 ด้านฝั่งทิศใต้ของทางห้างฯก่อนที่จะรีบขับรถ ลงจากลานจอดแต่ด้วยความเร่งรีบ รถยนต์เก๋งของคนร้าย ประตูหลังด้านซ้าย ได้ขูดกับเสาของลานจอดรถจนเป็นรอย แล้ว มุ่งหน้าหลบหนีไปทางถนนเชียงใหม่-ดอยสะเก็ด

หลังจากเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบยานพาหนะของคนร้าย พบว่า รถคนร้ายเป็นรถยี่ห้อ Toyota รุ่น Altis สีขาวป้ายทะเบียน กร 1173 จังหวัดจันทบุรี ทางศูนย์วิทยุนครเชียงใหม่ได้วิทยุสกัดจับคนร้ายไปตามเส้นทางหลบหนีออกจากตัวเมืองเชียงใหม่แต่ล่าสุดยังไม่พบวิดีโอของคนร้ายแต่อย่างใด

นางสาวชมพู่ พนักงาน ร้านทองออร่า ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ก่อนเกิดเหตุ คนร้ายได้เดินเข้ามาในร้านและ ยื่นถุงเซเว่นให้พนักงานให้หยิบทองใส่ ทางหัวหน้าฯหนูบอกว่าอะไรนะคะจากนั้นคนร้ายก็กระโดดข้ามเคาน์เตอร์มาหยิบทองใส่ถุงเองเลย คนร้ายลงมือเก็บทองนั้นพนักงาน 2 คนก็วิ่งออกจากร้านไปและตนก็ติดอยู่ในร้าน ตอนคนร้ายเข้ามานั้นเขาพูดเบาๆสำเนียงภาษากลาง และมีการแต่งตัวรัดกุม

ด้าน ดาบตำรวจไพฑูรย์ มูลรินทร์ ตำรวจสายตรวจสถานีตำรวจภูธรแม่ปิงเมืองเชียงใหม่ซึ่ง ได้ออกตรวจในห้างดังกล่าวอยู่พอดีได้รายงานให้ผู้คับบัญชาว่าขณะที่เดินออกตัวนั้นได้เห็นชาวบ้านวิ่งแต่ตื่นมาบอกว่ามีเหตุปล้นร้านทอง โดนจึงรีบวิ่งมาดู และสอบถามเส้นทางหลบหนีคน ร้ายก่อนจะวิ่งติดตามแต่ไม่ทันเนื่องจากคนร้ายขับรถเก่งหลบหนีออกไปแล้ว

พลตำรวจ ตรีวีรชน บุญทวีรอง ผบช.ภาค 5 ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุและ สัมภาษณ์ว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุในเบื้องต้นพบว่าคนร้ายจะเลือกเอาทองเส้นใหญ่ๆไป เบื้องต้นตรวจสอบแล้วน่าจะเกิน 50-100 บาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจ ทองรูปพรรณที่สูญหายไป

หลังจากเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้วิทยุสกัดจากคนร้ายชวนบุกเดี่ยวรายนี้ทั่วเมืองเชียงใหม่ ขณะนี้ยังไม่พบตัวแต่อย่างใด

ช่วงบ่ายที่ผ่านมา พลตำรวจตรีวีรชน บุญทวีรองผู้บัญชาการตำรวจภาค 5 ได้นำตำรวจพิสูจน์หลักฐานเชียงใหม่พร้อมด้วยพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรแม่ปิง พนักงานสอบสวนสถานมีตำรวจภูธรภูพิงค์ข้าราชนิเวศน์เจ้าของท้องที่และสุนัขดมกลิ่นจาก กก.ตตชด 33 เข้าตรวจสอบรถยนต์เก๋ง Toyota Altis สีขาวป้ายทะเบียน กร 1173 จังหวัดจันทบุรี ซึ่งเป็นรถคนร้ายที่ก่อเหตุชิงทองที่ร้านทองออร่าในห้างแห่งหนึ่งที่เชียงใหม่ เมื่อช่วงก่อนเที่ยงที่ผ่านมาถูกนำไปจอดทิ้งไว้ในป่าข้างทางใกล้กับวัดผาลาดทางขึ้นดอยสุเทพ อำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่

ทางเจ้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าวพบว่า ภายในเบาะนั่งคู่คนขับด้านหน้ามีคราบเลือด และหมอนเปื้อนเลือด และบริเวณใต้พรม พบหัวกระสุนปืน สีทองแดงจำนวน 1 หัว

นอกนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้ตรวจค้นภายในรถ ยังพบ เอกสาร รูปถ่าย โทรศัพท์มือถือ กางเกงขาสั้น สีดำ หมอน พิง เบาะนั่งเปื้อนเลือด กระเป๋า สะพายสีดำเสื้อแจ็คเก็ตลายพรางทหาร

ส่วนคนร้ายผู้ก่อเหตุชิงทองนั้นคาดว่าจะหลบหนีไปแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ปูพรมไล่ล่าเดินเท้าเข้าไปตาม ป่า ดอยสุเทพซึ่งค่อนข้างจะรกทึบพร้อมกับสุนัขดมกลิ่น ขณะรายงานข่าวนี้ยังไม่พบตัวผู้ก่อเหตุแต่อย่างใด

พลตำรวจตรีวีรชนฯ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 กล่าวว่า รถยนต์เก๋งที่พบคันดังกล่าวเป็นรถคันเดียวกันที่คนร้ายใช้ก่อเหตุชิงทอง เมื่อช่วงก่อนเที่ยงวันนี้และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเราพบคราบเลือดอยู่ในรถซึ่งเป็นคราบเลือดของมนุษย์ บริเวณเบาะที่นั่งข้างคนขับและเบาะหลังปริมาณเลือดมากพอสมควร และเจอหัวกระสุนปืนอยู่ในรถซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าคนอยู่ในรถคันนี้คนใดคนหนึ่งต้องถูกยิง ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังปะติดปะต่อกันอยู่ว่ารถคันดังกล่าวเนี่ย เป็นของผู้ใดและใช้อยู่ที่ไหน ส่วนคนอยู่ในรถต้องมี 2 คนอยู่แล้วแต่ปัญหาก็คือว่ากองเลือดที่พบในรถนั้นมันจะเป็นเหตุที่มันเกิดก่อนที่จะไปชิงทรัพย์หรือ หลังจากที่วิ่งราวทรัพย์ ตอนนี้เรายัง ประมาณไม่ได้ว่าคนร้ายจะหลบหนีเข้าไปในป่าบนดอยสุเทพหรือไม่ เพราะกำลังติดตามร่องรอยอยู่ อย่างไรก็ตามทางรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 กล่าวว่าขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพอจะรู้ว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องในเคสชิงทรัพย์นี้ว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้าง ตอนนี้ทางตำรวจเรารู้แล้วว่ารถเก๋งคันดังกล่าวนี้ใครเป็นเจ้าของตอนนี้เรายังไม่เจอเจ้าของและคนใช้รถคันนี้ และจะเกี่ยวข้องกับคาบเลือดที่พบในรถหรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่าเจ้าของรถคันนี้เป็นคนอำเภอแม่แตงจังหวัดเชียงใหม่

อย่างไรก็ตาม ที่สถานีตำรวจภูธรแม่ปิงเมืองเชียงใหม่ ขณะนี้ ตำรวจกำลังประชุม วางแผน ลำดับเหตุการณ์ ตรวจสอบ ขยายผลเพื่อเชื่อมโยงว่าจะมาเกี่ยวข้องกับคดีชิงทองได้อย่างไร หรือว่าคนร้าย จะ ลวงเจ้าของรถมาชิงรถก่อนที่จะขับมาชิงทอง