จากกรณีเมื่อเวลา 00.40 น. วันที่ 7 ก.ค.67 ร.ต.ท.ณ ฌาพัชร กองสุผล รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองเลย จ.เลย ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันที่บริเวณ หน้าโรงไฟฟ้า ต.กุดป่อง อ.เมืองเลย เมื่อรับแจ้งได้รายงานให้ พ.ต.อ.วรชัย บางยี่ขัน ผกก.ทราบ และประสานไปยังชุดสืบสวน เดินทางไปที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบแต่กองเลือดริมฟุตบาตถนน ส่วนผู้บาดเจ็บชื่อนายรณชัย อายุ 38 ปี ไม่ทราบที่อยู่ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดเข้าที่ลำตัวประมาณ 2 นัด ศีรษะ 1 นัด 

 

จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายเป็นหนุ่มสักลายพร้อมด้วยเพื่อนหลายคนมาไลฟ์สดบริเวณฟุตบาทหน้าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ต.กุดป่อง อ.เมืองเลย ขณะที่กำลังไลฟ์สดอยู่นั้น มือถือของผู้ตายจับภาพวัยรุ่นสองคน สวมเมสปิดบังใบหน้า เดินเข้ามาทางด้านหลังผู้ตาย ผู้ตายหันไปมอง จากนั้นก็ถูกสองคนร้ายยิงเข้าลำตัว 2 นัด และศีรษะ 1 นัด จนล้มลงกองกับพื้น ส่วนเพื่อนผู้ตายที่นั่งอยู่ด้านข้าง ตกใจวิ่งหนี จากนั้นเพื่อนๆ ได้ช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลเลย และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

 

ล่าสุดวันนี้ ( 8 ก.ค.67 ) ทีมข่าวช่อง 8 ยังคงไปติดตามความคืบหน้ากรณีดังกล่าว ที่ จังหวัดเลย โดยวันนี้ทีมข่าวได้มีโอกาสไปพบกับ นางกัลยา อายุ 60 ปี เป็นแม่ของผู้ตาย เปิดเผยว่า แม่มีลูกทั้งหมด 3 คน ซึ่งนายรณชัย หรืออู๊ดดี้ ผู้ตายเป็นลูกชายคนโต โดยก่อนเกิดเหตุ 3 วัน แม่ได้โทรศัพท์คุยกับลูก ถึงเรื่องรถที่แม่ฝากไปขาย ซึ่งลูกส่งแชตมาให้ดูว่ารถขายไม่ได้เนื่องจากถูกคนที่มาขอซื้อโกงเงินไป ซึ่งแม่ คิดว่าประเด็นดังกล่าวที่ลูกไปทะเลาะกันคนอื่นเรื่องซื้อขายรถ ไม่น่าจะเป็นเหตุถึงกับต้องมายิงลูกชาย

 

ส่วนเรื่องส่วนตัว ยืนยันว่าลูกชายไม่เคยโทรมาบอกว่า มีคนตามยิง และลูกชายก็ไม่เคยพูดสั่งเสียอะไรไว้กับแม่ ซึ่งก่อนจะเกิดเหตุ ด้วยความเป็นห่วงแม่ ยังเคยชวนลูกกลับมาอยู่ที่บ้านกับแม่ กลับมาประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้างกับแม่ แต่ลูกชายไม่ยอมกลับ โดยบอกว่า จะอยู่ทำมาหากินในอำเภอเมืองเลย โดยจะเปิดร้านขายเสื้อผ้า 

 

ส่วนประเด็นเรื่องที่มีคนร้ายบุกมายิงถล่มที่บ้านของลูก ยอมรับว่าหลังเกิดเหตุ แม่ก็รู้เรื่อง ซึ่งแม่บอกลูกเสมอว่าไปไหนมาไหนให้ระวังตัว ส่วนเหตุการณ์ในคืนเกิดเหตุ หลังจากเพื่อนลูกโทรศัพท์มาบอกว่าถูกยิง แม่รีบเดินทางไปที่โรงพยาบาลทันที ซึ่งระหว่างทางก่อนที่แม่จะไปถึง ลูกเขยที่ไปถึงโรงพยาบาลก่อน ได้โทรศัพท์มาปรึกษาแม่ว่า หมอกำลังปั๊มหัวใจยื้อชีวิตอยู่ แม่จะเอายังไง ซึ่งแม่ก็ตอบไปว่าขอให้หมอยื้อชีวิตเอาไว้ก่อน เพราะว่าแม่อยากจะไปดูหน้าลูกครั้งสุดท้ายตอนที่ยังมีลมหายใจอยู่ โดยขณะที่แม่ไปถึง ก่อนที่ลูกจะสิ้นใจ แม่ได้บริจาคร่างกายของลูกให้สภากาชาดไทย แต่สุดท้ายบริจาคได้เพียงดวงตา เพราะอวัยวะส่วนอื่นใช้การไม่ได้แล้ว ซึ่งศพของลูก ทางแพทย์แจ้งมาว่า สภากาชาดไทยจะทำพิธีมอบร่างลูกโดยแม่ไปติดต่อรับศพกลับมาบำเพ็ญกุศลในวันพุธ ที่ 10 กรกฎาคม

 

ส่วนนิสัยใจคอของลูกชายของแม่ ยอมรับเขาเป็นคนใจร้อน แต่รักเพื่อน รักครอบครัว ไม่ยอมให้ใครมารังแกเพื่อน ส่วนประเด็นสุดท้าย เรื่องปมเหตุที่รุ่นน้องของลูกให้สัมภาษณ์กับช่อง 8 เอาไว้เมื่อวานนี้ว่า ลูกชายเคยไปหักเงินค่ายาเสพติดคนพม่า และมีการท้าทายกันก่อนจะถูกยิง ยืนยันที่ผ่านมาลูกชายไม่เคยพูดให้ฟัง ส่วนเรื่องคดี แม่อยากให้ตำรวจตามไปจับกุมมือปืนให้ได้ เพราะมือปืนก่อเหตุกับลูกอย่างโหดเหี้ยม

 

วงจรปิดก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายกับรุ่นน้อง นั่งสังสรรค์กันอยู่ที่บ้าน กระทั่งผู้ตายนั่งซ้อนรถรุ่นน้องออกจากบ้าน และมีรถกระบะตำรวจขับตามออกไป

 

จากนั้นทีมข่าวได้ย้อนกลับไปไล่กล้องวงจรปิด ที่หมู่บ้านของนายรณชัย ผู้ตาย ซึ่งบ้านหลังดังกล่าว จากการตรวจสอบเป็นบ้านเดี่ยวที่นายรณชัย เช่าอยู่เดือนละ 25,000 บาท และตามข้อมูล ก่อนหน้าที่คนร้ายจะบุกมายิงถล่มบ้านของนายรณชัย นายรณชัย เคยไปแอบคบหากับเมียของตำรวจคนหนึ่ง ซึ่งยังไม่มีข้อมูลว่าตำรวจคนนั้นคือใคร 

 

โดยภาพวงจรปิด ในหมู่บ้านที่มุมกล้องส่องไปที่หน้าบ้ายของนายรณชัย จะเห็นว่า ช่วงเวลา 20.00 น. ที่บ้านปิดไฟเนื่องจากนายรณชัย ไม่อยู่ที่บ้าน กระทั่งเวลา 20.23 น. รุ่นน้องของนายรณชัย ได้ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาจอดที่หน้าบ้าน และเวลา 20.31 น. รถจยย.รุ่นน้องของนายรณชัย ก็จะขับขี่เข้ามาที่หน้าบ้านอีก 2 คัน 

 

จากนั้นเวลา 20.32 น. ก็จะมีรถกระบะสีขาว ขับเข้ามาส่งนายรณชัย ซึ่งจะเห็นว่า นายรณชัย เปิดประตูลงมาจากรถและเดินไปเปิดประตูหน้าบ้าน โดยรถกระบะได้ถอยเข้าไปจอดเอาของลงจากรถ 

 

จากนั้น เวลา 20.35 น. รถกระบะคันสีขาวก็จะขับออกไปจากบ้านของนายรณชัย และหลังจากนั้น นายรณชัย มีการนั่งสังสรรค์กับรุ่นน้องและเพื่อนๆอยู่ภายในบ้าน 

 

จากนั้นเวลา 22.26 น. จะเห็นว่านายรณชัย ผู้ตายมีการซ้อนรถรุ่นน้อง ออกมาจากบ้านเป็นคันแรก และรุ่นน้องอีก 2 คันก็ขับขี่รถตามออกไป โดยคนที่ออกมาเป็นคนสุดท้ายเป็นคนปิดประตูบ้าน

 

จากนั้นวงจรปิดคลิปที่ 6 จะเห็นว่า ในขณะที่นายรณชัย กับรุ่นน้อง ขับขี่รถผ่านกล้องเพื่อออกไปจากหมู่บ้าน ไม่กี่วินาที จะมีรถกระบะอีซุซุ 4 ประตูค่อยๆขับตามกลุ่มของนายรณชัย ออกไป โดยเหตุการณ์ดังกล่าว มีกล้องอีกมุมคือคลิปที่ 7 สามารถจับภาพเหตุการณ์ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งจากการสอบถามผู้จัดการนิติบุคคล ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า รถกระบะคันดังกล่าวเป็นรถของตำรวจภาค4 ที่นำรถมาจอดไว้ที่บ้านของลูกบ้านใกล้กับบ้านของนายรณชัย แต่ไม่มีข้อมูลว่าเกี่ยวข้องกับนายรณชัย หรือไม่ 

 

โดยวันนี้ทีมข่าวได้ไปเจอกับ นายพิเชษฐ์ หรือนายเจ๋ง อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนกับผู้ตาย เปิดเผยว่า ที่ผู้ตายไปหาในคืนวันก่อเหตุช่วงหัวค่ำ ตามภาพวงจรปิด คืนวันนั้น นายรณชัย และนายเอ็ม ได้เดินทางมาหาตนเองที่บ้าน ซึ่งมาเป็นครั้งแรก โดยก็ได้พูดคุยกันไม่กี่นาทีและทักทายแม่ตนเองและขอต้นไม้ตนเองไปสองต้น แล้วตนเองก็แบ่งยาโรคเกาต์ให้นายรณชัย ไปกิน ก่อนที่เจ้าตัวจะชักชวนไปกินดื่มที่บ้านเพื่อนอีกคนหนึ่ง แต่ตนเองปฎิเสธไปเพราะว่าเป็นโรคหัวใจ หลังจากนั้น ตี 5 เพื่อนอีกคนก็โทรศัพท์มาบอกว่านายรณชัยถูกยิงเสียชีวิตไปแล้ว จึงรู้สึกตกใจ ว่านายรณชัย เหมือนมาสั่งลาตนเองที่ถึงที่บ้าน 

 

ส่วนตัวไม่กล้าคาดเดาว่าเป็นใคร เพราะตนเองไม่ได้ใกล้กับตัวนายรณชัยมากนัก แต่จะไปเจอนายรณชัย ตามงานเตะฟุตบอลจึงได้รู้จักกัน และพอรู้นิสัยใจคอว่าเป็นคนเสียงดัง โผงผางเพราะว่าต้องคอยคุมลูกน้องที่เป็นเด็กวัยรุ่น บุคลิกภายนอกเลยแสดงออกมาเป็นแบบนั้น แต่นิสัยใจคอจริงเป็นคนสนุกสนาน ชอบโพสเฟซบุ๊ก ไลฟ์สด เคยเห็นอยู่พักหนึ่งที่โพสรูปรถออดี้ สีเหลือง แต่ระยะหลังนี้ไม่เห็นแล้ว และตนเองก็ไม่รู้ว่ามีปัญหาเกี่ยวกับการซื้อขายรถคันนี้ เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของนายรณชัย

 

ส่วนนายเอ็ม ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับผู้ตาย วันนี้เจ้าตัวพาครอบครัวไปเที่ยวต่างอำเภอ แต่ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวผ่านทางวีดีโอคอลว่า ก่อนจะเกิดเหตุยอมรับว่าตนเองอยู่กับนายรณชัย ตั้งแต่ช่วงค่ำ ซึ่งหลังจากไปเอาต้นไม้ที่บ้านนายเจ๋ง ประมาณ 4 - 5 ทุ่ม ก่อนที่นายรณชัย จะไปนั่งไลฟ์สดที่จุดเกิดเหตุ นายรณชัย ได้พาน้องๆไปแวะไปกินข้าวที่บ้านตนเอง และหลังจากกินข้าวกันเสร็จ ยอมรับว่านายรณชัย ก็ชวนตนเองออกไปนั่งเล่นในที่เกิดเหตุ แต่ตนเองไม่ไปเพราะเมียไม่ให้ออกจากบ้านตอนกลางคืน 

 

ส่วนประเด็นเรื่องการซื้อขายรถ ยอมรับว่าตนเองรู้จักกับเจ้าของรถออดี้คันสีเหลือง แต่ไม่ได้สนิทกัน ยืนยันเรื่องซื้อขายรถ เท่าที่รู้ นายรณชัย เคยบอกว่าเคลียร์ปัญหากับเจ้าของรถจบแล้ว แต่ไม่รู้ว่าลึกๆเขาติดใจอะไรกันอยู่หรือไม่ เพราะเรื่องรถ ส่วนมากนายรณชัย จะไปคุยกันเป็นการส่วนตัว

 

ส่วนประเด็นเรื่องที่นายรณชัย เคยไปหักเงินยาเสพติด ยอมรับว่าตนเองก็รู้เรื่อง เพราะหลังจากที่โดนยิงถล่มบ้าน นายรณชัย เคยมาพูดให้ตนเองฟังว่าน่าจะโดนยิงเพราะเรื่องที่ไปหักยาคนพม่าหรือคนชาวเขามา ซึ่งตนเองไม่แน่ใจว่าหักเงินค่ายามามูลค่าเท่าไหร่

หนุ่มปากแจ๋วผ่านโซเชียล ถูกบุกยิงกลางไลฟ์