วันที่ (8 ก.ค.67) ช่วงเช้า เวลา 9.00 น. ทีมข่าวช่องแปดได้ลงพื้นที่ไปยัง ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านค้อทอง โดยวันนี้เป็นการเรียกประชุมผู้ปกครอง เพื่อหารือมติกำหนดการวันเปิดเรียน และมติการเปลี่ยนบุคคลากรผู้สอน ซึ่งมี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคอนกาม ผู้อำนวยกองการศึกษา พร้อม ครูหนุ่ย ครูน้อย ครูปูเป้ และผู้ปกครอง จำนวน 31 คน เดินทางมาร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย
จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้สังเกตว่าคุณครูทั้ง 3 คน มีท่าทีปกติ ซึ่งได้มีการทักทาย ต้อนรับผู้ปกครอง และเด็กๆ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส โดยหลังจากนั้นบรรยากาศเริ่มการประชุม ผู้อำนวยการกองการศึกษา และ นายก อบต.คอนกาม ได้ชี้แจง ด้วยกัน 3 ประเด็น (ประเด็นแรก) การปรับปรุงศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในแต่ละจุด อาทิ รั้ว สนามเด็กเล่น และกล้องวงจรปิด ที่มีการปรับปรุงไปแล้วเบื้องต้น จึงอยากจะขอความคิดเห็นจากผู้ปกครอง เพื่อเสนอแนะแนวทางสิ่งที่ต้องการปรับปรุงเพิ่มเติม
โดยทางผู้ปกครองได้เสนอแนะ วัสดุตาข่ายติดรั้ว เพื่อป้องกันเด็กปีนป่าย , ระบบน้ำก๊อกบริเวณอ่างล้างหน้า ควรมีวาวสั่งปิดใช้เฉพาะยามจำเป็น, โยกย้ายของเล่นไว้ในที่ปลอดภัย ติดตั้งแอร์เพื่อที่จะปิดประตูดูแลเด็กนักเรียนอย่างใกล้ชิด ซึ่งผู้ปกครองอยากจะดูกล้องวงจรปิดด้วย และมีความต้องการขอคัดค้านการเปิดเรียน ให้เลื่อนออกไปก่อน เพราะต้องการให้คดีคลี่คลายและกระจ่างส่วน ห้องน้ำการติดตั้งชักโครก ขอให้จบคดีก่อนแล้วค่อยปรับปรุงใหม่ ซึ่งนายกก็ได้ชี้แจงและรับข้อเสนอนำไปปรับปรุงในแต่ละหัวข้อ โดยจะทำการติดตั้งตาข่ายรั้ว ส่วนห้องน้ำ ก็รอในการอนุญาตซ่อมแซม และกล้องวงจรปิด ก็ต้องของบประมาณต่อไปในการปรับปรุง เนื่องจาก กล้องเป็นเงินส่วนตัวที่ซื้อมาในราคาถูกจึงอาจจะยังไม่สามารถดูได้ในหลายๆคน
ต่อมา (ประเด็นที่สอง) มติการเปิดเรียน โดยขอความเห็นจากผู้ปกครอง เพื่อพิจารณา ซึ่งผู้ปกครองมีความคิดเห็นต่างกัน แบ่งเป็น 2 ฝ่าย โดยฝ่ายแรก นางเกสร ย่าน้องโปรด เป็นตัวแทนแสดงความคิดเห็น ต้องการให้เปิดเรียน ใน วันที่จันทร์ ที่ 15 ก.ค เพราะต้องการนำบุตรหลานมาฝากไว้ หากบางคนต้องไปทำงาน ส่วนอีกฝั่ง ทางด้าน นางศรีสุวรรณ ย่าน้องตะวัน ได้แสดงความคิดเห็นต้องการให้ชะลอการเปิดเรียนในวันที่ 1 ส.ค. เพื่อรอให้คดี มีความคลี่คลายมากกว่านี้ และขอเวลาทำใจในการสูญเสียร่วมกับครอบครัวของน้องอลิส
ซึ่งทางนายก อบต. คอนกาม ได้ชี้แจงว่าในส่วนที่เรียนยังคงต้องดำเนินต่อไป และส่วนเรื่องของคดีต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยต้องคำนึงถึงภาพรวม หากรอผลของคดีก็ยังคงรอกันอีกยาวนาน แต่ถ้าหากผู้ปกครองท่านใดไม่สะดวกก็สามารถนำบุตรหลานมาเรียนได้ภายในเดือนหน้า โดยรับค่าอาหารกลางวันได้ปกติ
จากนั้นมีการยกมือโหวตเป็นเอกฉันท์ผู้ปกครองส่วนมากเห็นด้วยต้องการให้เปิดเรียนในวันที่ 15 ก.ค. นี้ โดยยกมือ จำนวน 17 คน ส่วนคนที่ต้องการให้เลื่อนการเรียนออกไปเป็น วันที่ 1 ส.ค. เห็นด้วย ยกมือ จำนวน 6 คน ซึ่งภายในอาทิตย์นี้จะมีการหาฤกษ์ทำบุญตักบาตรก่อนเปิดเรียนอีกด้วย
ส่วน (ประเด็นที่สาม) ได้มีการขอความคิดเห็นจากผู้ปกครองที่ต้องการเปลี่ยนบุคลากรครูให้ดูแลบุตรหลาน จำนวน 1 คน โดยทุกคนยกมือโหวตให้กับ ครูน้อย ส่วนครูปูเป้ และครูหนุ่ย ทั้ง 2 ท่าน จะต้องเปลี่ยนสลับไปสอนที่ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านคอนกามชั่วคราวจนกว่าคดีจะคลี่คลาย และจะเป็นครูหน่าย และครูดาย อาสามาสอน แทน คุณครู ทั้ง 2 ท่านดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ผู้อำนวยการกองการศึกษาได้ชี้แจงให้ผู้ปกครองรับทราบถึงมาตรการในการ รับ-ส่งนักเรียน ที่จะต้องมีการระบุเวลาที่ชัดเจน และ มาตรการของครูผู้สอนที่จะต้องมีการจัดเวน ยืนรับส่งนักเรียน รวมทั้ง ห้าม ขาด ลา มาสาย อย่างเคร่งครัด จนกว่าผู้ปกครองจะให้ความไว้วางใจ
จากนั้น เวลา 11.00 น. หลังเสร็จสิ้นมติการประชุมประเด็นมติการเปิดเรียน และมติเลือกบุคคลากรครูผู้สอน ผู้สื่อข่าวจึงได้เข้าไปพูดคุย กับ ครูหนุ่ย โดยเปิดใจกับทีมข่าวว่า ยอมรับและเคารพในมติของผู้ปกครอง ที่คิดว่าเป็นสิ่งที่ดีแล้วสำหรับ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โดยตนไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าจะไม่ได้รับผลโหวต ซึ่งคิดเพียงตนได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว ตามความเป็นจรรยาบรรณของครู
ส่วนประเด็นที่ย้ายการสอน และฝั่งผู้ปกครองบางส่วนของศูนย์บ้านคอนกามอาจจะไม่เห็นด้วย โดยครูอยากจะสื่อสารกับกลุ่มผู้ปกครองดังกล่าว ว่า อยากจะขอความรักความเมตตากับผู้ปกครองด้วยครูจะได้อยู่ในสังคมอย่างอบอุ่น
ขณะเดียวกัน ประเด็นการเตรียมตัว ที่จะไปสอนที่ใหม่ ทางครูหนุ่ยก็พร้อมจะนำประสบการณ์การสอนทั้งหมด มาพัฒนา และที่ผ่านมาตนไม่เคยมีความกังวล เพราะประ ประสบการณ์สอนของตนไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน ซึ่งระยะเวลา กว่า 19 ปี โดยตนมีความเชื่อมั่นการตัดสินใจของผู้ปกครอง เพื่อให้ครูได้เว้นระยะความรู้สึก ของผู้เสียหาย ซึ่งอนาคตทางผู้ปกครองอาจจะให้โอกาสตนได้กลับมาสอนที่เดิมอีกครั้ง
นอกจากนี้ตนยังรู้สึกเสียใจที่จะได้มีการโยกย้าย เนื่องจาก คิดถึงผู้ปกครองและลูกศิษย์ของตนทุกคน ที่เคยอยู่กันมาแต่ตนก็ยอมรับในมติของผู้ปกครอง เพื่อกลับไปพิจารณาตนเองในข้อผิดพลาดที่ประมาทไม่สามารถดูแลน้องได้ ส่วนประเด็นการไกล่เกลี่ย ครูหนุ่ยก็หวังทางครอบครัวน้องจะให้โอกาสและเงื่อนไขเดียวกับคุณครูทั้งสองท่าน ซึ่งตนยอมรับในวันนั้นรู้สึกกังวลหลายๆอย่าง แต่ถ้าวันนี้ครอบครัวน้อง ยังให้โอกาสอีกครั้งตนก็พร้อมที่จะเข้าไปเจรจา
หลังจากนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับครูปูเป้ โดยเผยว่า มติตามที่ผู้ปกครองได้ยกมือเลือก คุณครู สำหรับตนเคารพการตัดสินใจของผู้ปกครอง ซึ่งได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว และได้มีการส่งเสริมพัฒนาการเด็กในทุกๆด้าน ในฐานะที่เป็นผู้ช่วยคุณครู ซึ่งก่อนหน้านี้ตนไม่ได้คิดว่าทางผู้ปกครองจะเลือกใคร โดยให้ความคิดเห็นจากผู้ปกครองอย่างเต็มที่
เบื้องต้นตนรู้สึกเสียใจ เพราะได้คลุกคลีกับเด็กมาในระยะเวลาหนึ่งปี ตนได้ทำหน้าที่สุดความสามารถ จนกระทั่ง เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น ต้นก็รู้สึกเสียใจ
ส่วนประเด็นทางฝั่งผู้ปกครองบ้านคอนกาม ที่มีการคัดค้านและไม่เห็นด้วย ครูปูเป้มองว่า ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้ปกครองแต่ละคน โดยตนขอความเชื่อมั่นจะพัฒนาตนเอง เตือนตนเองตลอด ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ตามหน้าที่ของครูผู้ช่วย ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับทางผู้ปกครองด้วย
นอกจากนี้ ในส่วนประเด็นที่มีการอาบน้ำให้น้องอลิส และน้องโปรด ตนได้ให้ข้อเท็จจริงกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้ว จึงขอความร่วมมือไม่ก้าวก่ายในเรื่องของคดี
ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับครูน้อย โดยเปิดใจกับทีมข่าวว่า ตนรู้สึกดีใจที่ถูกเลือก แต่ก็รู้สึกเสียใจ เพราะอยากให้คุณครูทั้งสองท่าน อยู่ด้วยกัน โดยเฉพาะครูหนุ่ย ที่ร่วมสอน ตั้งแต่เริ่ม มากับตน ประมาณ 19 ปี แต่ตนก็ยอมรับและเคารพมติของผู้ปกครองทุกท่าน และครูน้อยขอสัญญา ผู้ปกครองทุกท่าน พร้อมขอบคุณ ที่ไว้วางใจครูน้อยต่อจากนี้ไปครูน้อยจะดูแลและทำหน้าที่ให้ดียิ่งขึ้นสมกับความไว้วางใจ
ส่วนประเด็น ที่เด็กออกมาพูด ในวันเกิดเหตุ อลิสและโปรดเล่นน้ำ จนถูกครูด่าหรือครูตี ครูน้อยเผยว่า ไม่มีถูกตี ส่วน เด็กที่เล่นน้ำ จะมีเสื้อที่ถูกถอดตาก แต่ตนเองจำไม่ได้ว่าเป็นของใคร ส่วนที่ผ่านมาบทลงโทษเด็กคุณครูทั้งสามคน ไม่เคยลงโทษอย่างรุนแรง จะมีว่ากล่าวตักเตือนบ้าง ในเวลาที่ซุกซน โดยทำให้นักเรียนสามารถไว้วางใจคุณครูได้ และจะไม่ทำให้กลัวคุณครูจนเกินไป
ช่วงเย็น เวลา 18.00 น. ทีมข่าวได้เดินทางไปหาผู้ปกครองของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านคอนกาม เพื่อสอบถามข้อมูลความคิดเห็นหลังจากมีมติการโยกย้ายครูหนุ่ยและครูปูเป้
จากนั้นได้พูดคุยสอบถามกับ นางลำไพ อายุ 57 ปี โดยให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า วันนี้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านคอนกาม โดยผู้อำนวยการกองศึกษาได้นัดประชุมผู้ปกครอง ในช่วงเวลา 14:00 น. ซึ่งทางผู้ปกครองยืนยันว่าไม่ให้คุณครู ทั้ง 2 ท่าน เข้ามาสอนแทน หากครูฝั่งตน จะไปสามารถไปได้ แต่ครูไม่ต้องมา เนื่องจากผู้ปกครองส่วนใหญ่ไม่ไว้วางใจ
จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงสอบถามว่าหาก ทำการสลับครู บุคลากรบ้านคอนกามจะเพียงพอหรือไม่ ซึ่งนางลำไพ เผยว่า คุณครูมีอยู่จำนวนสี่คน หากย้ายไปช่วยสอน ก็จะเหลือสามคน ซึ่งสามารถดูแลเด็กเด็กได้อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ก็ได้พูดคุยมีการเสนอ ให้ครูปูเป้ ขึ้นมาคนเดียว และให้ครูฝั่งคอนกามไปช่วย สอน 2 คน แต่ผู้ปกครองก็ไม่ยินยอม ถึงแม้จะให้ครูคนไหน เข้ามาสอน หากคดียังไม่คลี่คลาย ทางผู้ปกครองก็ไม่ยินยอม ทั้งนี้หากคดี คลี่คลาย ก็สามารถให้โอกาสกับคุณครูทั้งสองได้ โดยครูจะเริ่มสอนในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้