ผู้เสียหายร้องกองปราบ ถูกหลอกขายโควตาลอตเตอรี่ทิพย์ เสียหายกว่า 70 ล้านบาท
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 10 ก.ค.67 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม. น.ส.นลิน โรจนวัทธิกร ผู้ก่อตั้งเพจห้วยแถลง พร้อมผู้เสียหายจากอำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมาเดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.พีร ปยุทธนันท์ ผกก.(สอบสวน)บก.ปคบ.นำเอกสารเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจกองบังคับการกองปราบปราม หลังถูกหญิงสาวรายหนึ่ง อ้างว่ามีนักการเมืองอยู่เบื้องหลัง มีตำแหน่งเป็นนายทะเบียนพรรคการเมืองแห่งหนึ่ง หลอกขายโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล มูลค่าความเสียหายกว่า 70 ล้านบาท
ผู้เสียหาย ให้ข้อมูลว่า สาวรายนี้อ้างตัวว่ามีตำแหน่งเป็นนายทะเบียนพรรคการเมืองแห่งหนึ่ง ทำให้รู้จักกับผู้หลักผู้ใหญ่ที่กองสลาก สามารถนำโควตาสลากออกมาขายให้ได้เป็นจำนวนมาก ทำให้ผู้เสียหายกว่า 15 คน หลงเชื่อนำเงินมาซื้อโควตาลอตเตอรี่ รวมเป็นเงินกว่า 70 ล้านบาท แต่เมื่อถึงเวลาส่งมอบลอตเตอรี่ กลับถูกหญิงรายดังกล่าว บ่ายเบี่ยงอ้างว่า จะนำลอตเตอรี่ดังกล่าวไปขายให้เอง แล้วจะนำกำไรมาส่งมอบให้เป็นเงินแทนประมาณ 1.9 ล้านบาท แต่ 2 งวดที่ผ่านมา ไม่มีลอตเตอรี่มาส่งให้ ทำให้เกิดความสงสัยจึงติดตามสอบถาม แต่ผู้ก่อเหตุกลับส่งทนายให้มาคุยแทน โดยอ้างว่าถ้าหากต้องการเงินคืนจะจ่ายเป็นเช็คให้ ซึ่งกลุ่มของผู้เสียหายไม่รับ เพราะต้องการลอตเตอรี่ตามที่ตกลงเพื่อที่จะนำไปขายเอง
เมื่อมีการสอบถามตำรวจไปในหลายท้องที่ กลับพบว่า มีชื่อของหญิงสาวรายนี้ มีประวัติการก่อเหตุฉ้อโกงในลักษณะเช่นเดียวกันนี้หลายคดี รวมถึงคดีเกี่ยวกับเช็ค และคดีเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ทำให้กลุ่มผู้เสียหายเกิดความกังวลใจ จึงนำเรื่องเข้าร้องเรียนกับตำรวจกองปราบปราม เพราะเกรงกลัวว่าอาจจะมีกลุ่มผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง
หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวอีกว่า รู้จักกับผู้ก่อเหตุที่สถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา โดยมีหนึ่งในกลุ่มลูกศิษย์ด้วยกันแนะนำให้รู้จักกับหญิงรายนี้ อ้างว่าได้รับโควตาสลากจากหญิงดังกล่าว มาขายแล้วได้กำไรเป็นจำนวนมาก โดยมีการพูดจาหว่านล้อม พร้อมทั้งนำภาพถ่ายคู่กับสลากลอตเตอรี่จำนวนมากมาแสดงให้ดูทำให้กลุ่มผู้เสียหายหลงเชื่อ รวมเงินกันซื้อโควตาลอตเตอรี่ดังกล่าว
หลังจากได้รับเงินผู้ก่อเหตุกลับบ่ายเบี่ยง อ้างว่ากำลังรวบรวมสลาก แต่ไม่สามารถจัดหาได้ทัน แต่เมื่อเข้างวดที่ 2 ยังอ้างเช่นเดิมอีก จนเชื่อว่าถูกหลอกลวง จึงได้รวบรวมหลักฐานเข้าร้องเรียนกับตำรวจกองปราบปราม เพื่อให้ดำเนินคดีกับหญิงรายนี้
พ.ต.อ.พีร รับหนังสือแล้วเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป