จากกรณีที่มี ผู้ใช้เฟสบุ๊ก โพสต์ภาพและข้อความ ฝากตามหาเด็กถูกลักพาตัวจากโรงเรียน หลังไปตรวจสอบพบว่า คนที่พาเด็กไปคือ นายอำพล หรือเหน่ง อายุ 29 ปี ก่อเหตุลักพาตัว น้องอุ๋งอิ๋ง วัย 3 ขวบ จากโรงเรียนองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ 7 บ้านสวนป่า ต.นาจารย์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เมื่อเวลาประมาณ 12.18 น. ของวันที่ 9 ก.ค.67 โดยชายดังกล่าวเป็นคนที่เคยคบหากับแม่ของน้องอุ๋งอิ๋ง และแม่ของน้องได้ขอเลิกคบไปแล้ว

 

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าเมื่อเวลา 8 โมงเช้าของวันนี้ มีชาวบ้านน้อยลวงมอง ตำบลท่าอุเทน จังหวัดนครพนม พบตัวเด็กผู้หญิงสวมใส่เสื้อกีฬาสีส้มทับเสื้อนักเรียนเอาไว้และยังสวมรองเท้านักเรียนชุดเมื่อวาน 

 

โดยชาวบ้านไปเจอยืนอยู่ริมถนน มีท่าทีหวาดกลัว ซึ่งน้องอุ๋งอิ๋งได้บอกกับชาวบ้านว่ามาหาแม่หวาน ก่อนที่ผู้ใหญ่บ้านจะประสานไปยังผู้อำนวยการโรงเรียนใกล้เคียง เพื่อมาดูว่าเป็นนักเรียนโรงเรียนใด 

 

ซึ่งเมื่อ ผอ.โรงเรียนต่างๆ ในพื้นที่มาตรวจสอบทุกโรงเรียนต่างยืนยันไม่ใช่เด็กนักเรียนของตนเองจึงได้ตรวจสอบพบว่าเป็นน้องอุ๋งอิ๋งที่ประกาศตามหาที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ถูกนายอำพล แฟนเก่าแม่พาตัวออกมาจากโรงเรียน ก่อนจะพาน้องอุ๋งอิ๋งขี่รถจักรยานยนต์ไปที่จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านเกิดของนายอำพล ก่อนที่ล่าสุดชาวบ้านจะมาพบน้องอุ๋งอิ๋ง เดินอยู่ริมถนนในพื้นที่บ้านบ้านน้อยลวงมอง (บ้านน้อยลวงมอง) ต.หนองเทา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ห่างจากอำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี เกือบ 170 กิโลเมตร

 

ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางมาที่ สภ.ท่าอุเทน จ.นครพนม หลังตำรวจจับกุมตัวนายอำพล หรือ เหน่ง อายุ 29 ปี ได้ที่บริเวณหน้าสำนักสงฆ์บ้านแก้งส้มโฮง ตำบลพระทาย อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ห่างจากจังหวัดกาฬสินธุ์ประมาณ 155 กิโลเมตร ก่อนจะนำมาคุมตัวไว้ที่ สภ.ท่าอุเทน เพื่อรอให้ตำรวจ จากจ.กาฬสินธุ์ เดินทางมารับตัว

 

ระหว่างนี้ทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับนายอำพล หรือเหน่ง ผู้ก่อเหตุ เปิดใจกับเราว่า ตนเองคบหากับ แม่ของน้องอุ๋งอิ๋งมาเกือบจะครบหนึ่งปีแล้ว ซึ่งวันที่ 16 กันยายนนี้ก็จะครบรอบ 1 ปีที่ตนเองคบหากัน ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ตนเองคบหากันกับแม่ของน้องอุ๋งอิ๋งตนก็จะคอยทำงานและส่งเงินส่งใช้ตลอดครั้งละ 500-1,000 บาท แต่ช่วงหลังมาเข้าฤดูฝนทำให้บ่อเกลือที่ตนเองทำงานอยู่ไม่มีงาน จึงทำให้ไม่ค่อยมีรายได้ส่งให้ใช้ ประกอบกับก่อนหน้านั้นทางครอบครัวฝ่ายหญิงต้องการอยากให้ตนหาเงินจำนวน 50,000 บาทเพื่อมาขอแต่งงาน แต่เนื่องจากว่าตนเองยังหาไม่ได้ จึงทำให้ฝ่ายหญิงบอกเลิกตนเองและไปแต่งงานใหม่กับชายคนอื่น จึงทำให้ตนเองรู้สึกน้อยใจ อยากให้อดีตแฟนสาวเข้าใจว่าการขาดใครไปสักคนจะมีความรู้สึกอย่างไร เหมือนกับตนเองตอนนี้ที่รู้สึกตัวคนเดียวและเหมือนขาดคนในครอบครัวไป 

 

นายอำพล ยังบอกอีกว่า วันเกิดเหตุหลังจากที่ตนไปเยี่ยมลูกกับภรรยาเก่าที่จังหวัดร้อยเอ็ด จึงได้แวะรับน้องอุ๋งอิ๋งที่โรงเรียนเนื่องจากว่าเป็นทางผ่านที่ตนจะกลับบ้านที่อุดรธานี และจะไปดูรถมอเตอร์ไซค์ของตนเองที่อยู่บ้านของแฟนสาวด้วย ซึ่งในตอนที่ตนเองไปรับน้องอุ๋งอิ๋งที่โรงเรียนครู ครูก็อนุญาตให้น้องกลับมากับตนเอง เนื่องจากว่าตนเคยไปรับน้องอุ๋งอิ๋งกับอดีตแฟนสาวเป็นประจำ จึงทำให้ครูคุ้นเคยและรู้จักตน 

 

หลังจากนั้นตนตั้งใจว่าจะพาน้องอุ๋งอิ๋งกลับบ้านเกิดที่อำเภอเซกาจังหวัดบึงกาฬ โดยตนได้พาน้องอุ๋งอิ๋งขี่รถจักรยานยนต์มาทั้งคืนไม่ได้หลับไม่ได้นอนนอน แต่ก็มีแวะซื้อข้าวให้น้องอุ๋งอิ๋งกินบ้าง แต่น้องก็ไม่กินเพราะคิดถึงแม่ และร้องไห้ตลอดทาง 

 

จนกระทั่งตนมาถึงที่สำนักสงฆ์ที่ถูกจับกุมตนรู้สึก เพลียและง่วงนอน จึงได้แวะเข้าไปขอพักที่สำนักสงฆ์แต่ไม่มีพระอยู่ที่สำนักสงฆ์ ตนจึงได้งีบหลับไปสักพักโดยที่ไม่รู้ว่าน้องอุ๋งอิ๋งเดินออกมานอกถนนจนทำให้ชาวบ้านเห็น 

 

ตนไม่ได้มีเจตนาที่จะพาน้องอุ๋งอิ๋งไปทำไม่ดีไม่ร้ายเพียงแต่ต้องการอยากจะเรียกร้องความสนใจและประชดแฟนสาวเท่านั้น โดยคาดว่าตนจะพาน้อง อุ๋งอิ๋งไปและจะนำกลับไปส่งให้กับอดีตแฟนสาวในอีก 2 วันแต่ก็มาเป็นข่าวและถูกตำรวจตามจับกุมได้เสียก่อน 

 

ส่วนเรื่องทั้งหมดที่ตนเองทำไปตนเองรู้ว่าผิด แต่ตนเองก็น้อยใจที่ทำงานหาเลี้ยงครอบครัวมาโดยตลอด แต่เหมือนกับถูกหลอกใช้และถูกหลอกให้รัก สุดท้ายก็ถูกทิ้ง

 

ขณะเดียวกันวันนี้ ครูนิดหน่อย ซึ่งเป็นครูประจำชั้นของน้องอุ๋งอิ๋ง แต่ไม่ใช่ครูคนที่ออกมาส่งน้องอุ๋งอิ๋ง ตามภาพวงจรปิดให้กับนายอำพล ได้พาทีมข่าวไปชี้จุดหน้าอาคารเรียนตรงใต้ต้นไม้ ซึ่งเป็นจุดที่นายอำพล นำรถจยย.ไปจอด ส่วนโต๊ะม้าหินซึ่งเป็นจุดที่นายอำพล เข้าไปรับน้องอุ๋งอิ๋ง จะอยู่บริเวณหน้าห้องอนุบาล2

 

ส่วนห้องเรียนอนุบาล 1 ของน้องอุ๋งอิ๋ง จะอยู่ห้องซ้ายสุด ซึ่งครูนิดหน่อย ที่เป็นครูประจำชั้นอนุบาล1 ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ปกติครูนิดหน่อย จะเป็นคนรับส่งเด็กกับตัวผู้ปกครอง แต่วันเกิดเหตุ ครูนิดหน่อย ไม่ได้อยู่ที่ห้องเรียนเพราะต้องไปสอนวิชาภาษาอังกฤษแทนครูที่ลาให้กับเด็กโตอีกอาคารเรียน จึงฝากครูน้อยหน่า (นามสมมติ) ซึ่งเป็นครูประจำชั้นอนุบาล2 ดูแลเด็กนักเรียนชั้นอนุบาล 1 แทน ระหว่างที่ไปช่วยสอนภาษาอังกฤษให้กับเด็กโต

 

ขณะเดียวกันบรรยากาศที่บ้านพักของแม่ น้องอุ๋งอิ๋ง ในพื้นที่ ต.นาจารย์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เมื่อเวลา 19.00 น. ทางยายพร้อมด้วยแม่ของน้องอุ๋งอิ๋ง และทางครอบครัวได้รับน้องอุ๋งอิ๋ง กลับมาถึงบ้าน ซึ่งเมื่อมาถึงญาติๆได้เข้าไปช่วยอุ้มน้องอุ๋งอิ๋ง ลงจากรถ 

 

จากนั้นเมื่ออุ้มตัวน้องอุ๋งอิ๋ง เข้าไปในบ้าน โดยพี่สาวของยายน้องอุ๋งอิ๋ง ซึ่งมีศักดิ์เป็นยายได้มีการผูกแขนเพื่อรับขวัญให้กับน้องอุ๋งอิ๋ง โดยน้องอุ๋งอิ๋ง มีสภาพร่างกายค่อนข้างอิดโรย

 

ด้าน น.ส.จิตนา อายุ 24 ปี เป็นแม่ของน้องอุ๋งอิ๋ง บอกว่าเมื่อวานนี้ตนเองเป็นคนขี่รถไปส่งลูกที่โรงเรียน ซึ่งตอนไปส่งไม่ได้เจอกับนายอำพล ตามทาง จากนั้นตอนไปรับลูกถึงรู้ว่านายอำพล ลักพาตัวลูกไป 

 

ส่วนประเด็นที่ครู ให้ข้อมูลกับนักข่าวว่าเคยเห็นนายอำพล ไปรับส่งลูกกับตนเอง ยอมรับว่าตนเองเคยพานายอำพล ไปรับส่งลูกจริง และคำพูดที่ลูกเรียกนายอำพล ว่าพ่อ นายอำพล สอนให้ลูกให้ลูกเรียกในขณะที่คบหากับตนเองอยู่ ส่วนเหตุผลที่ตนเอง ต้องตีตัวออกห่างจากนายอำพล เนื่องจากทางบ้านไม่ชอบที่นายอำพล มักจะมาพาตัวตนเองไปบ้านที่จังหวัดอุดรฯ และก่อนหน้านี้นายอำพล ก็เคยทำร้ายร่างกายตนเองเอง ยืนยันไม่ให้อภัยนายอำพล และหลังจากนี้ก็จะไม่เอาผู้ชายคนนี้อีกแล้ว

เจอแล้ว! "อุ๋งอิ๋ง" 3 ขวบ ถูกแฟนเก่าแม่ลักพาตัวไปทิ้ง