วันที่ (10 ก.ค.67) เวลา 10.00 น. ทีมข่าวช่องแปดได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านครูหนุ่ย เพื่อสอบถามความรู้สึกหลังการขอขมา แต่ปรากฏว่าไม่พบครูหนุ่ย แต่พบกับป้านิ่มพี่สาวของครูหนุ่ยที่เดินทางมาหาน้องสาวในช่วงเช้าแต่ก็ยังไม่พบเช่นกัน
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้พูดคุย กับป้านิ่ม ในประเด็นจะได้ทำหน้าที่แม่ครัวต่อหรือไม่หลังจากเปิดเรียน โดยให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า พอทราบข้อมูลมาคร่าวๆ ตนอาจจะไม่ได้กลับไปทำงานต่อ ไม่รู้เพราะเหตุผลอะไร แต่ตนนั้นยังยืนยันว่าบริสุทธิ์ใจ หรืออาจเป็นเพราะเหตุผลป้านิ่มเป็นพี่สาวของครูหนุ่ย แต่อย่างไรก็ตามทั้งครู 3 ท่านและแม่ครัวมีความผิดเพียงประมาท และทุกคนก็ยอมรับ แต่แม่ครัวจะได้กลับไปทำงานอีกหรือไม่ ก็ไม่รู้ว่าได้คนใหม่ หรือ ให้ตนกลับไปทำงานยังให้คำตอบได้ไม่ชัดเจน
ส่วนประเด็นหากตนได้กลับไปทำหน้าที่แม่ครัวต่อ ยืนยันว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ไม่เพียงแค่ทำหน้าที่นำอาหารมาให้เด็กบริโภคแต่ตนจะช่วยดูแลเด็กในบางครั้ง แต่จะให้ดูแลเป็นประจำตนอาจทำไม่ได้ เพราะเป็นหน้าที่ของครู
และประเด็นน้องสาวตน (หรือครูหนุ่ย) หลังจากเข้าไปขอขมาได้มาปรึกษาป้านิ่มหรือไม่นั้นป้านิ่มกล่าวว่าน้องสาวไม่ได้เข้ามาหาตนที่บ้านเลย จึงทราบจากข่าวว่าน้องสาวเข้าไปขอขมา ซึ่งป้านิ่มเคยได้ยินครูหนุ่ยพูดให้ฟังตลอด ไม่ใช่ตนไม่อยากเยียวยา แต่คำว่ากฏหมายมันก็มีหลายประเภทและครูก็ไม่ได้เรียนด้านนี้มาโดยตรง แต่มันผิดด้วยหรือ ที่ไม่ประสงค์รับสารภาพที่โรงพัก เพราะทางตนต้องขอโอกาส 1-2 วันได้หรือไม่ ซึ่งยืนยันพร้อมจะเยียวยาเช่นเดียวกับครูทั้ง 2 ท่าน (คือ ครูน้อย ครูปูเป้) ซึ่งวันนั้นครูหนุ่ยเองแกก็เครียด เป็นห่วงพี่สาวด้วยเพราะนอนป่วยอยู่โรงพยาบาล
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้สอบถามประเด็น หลังครูหนุ่ยได้รับเงื่อนไข เงิน 2 แสน มีความกังวลอย่างไร โดยป้านิ่มกล่าวว่า ตนได้ยินข่าวว่าน้องสาวเข้าไปเจรจาแต่โดนเรียกเงินอีก 2 แสนบาท ขนาด เงิน 1 แสนบาทตนก็ยังไม่มีตอนนี้ แล้วอีก 1 แสนบาทก็ไม่รู้จะหาจากไหน ทางครอบครัวก็ลำบาก หาเช้ากินค่ำ เหมือนคนทั่วไป
ส่วนในเรื่องของคดีที่ทางครอบครัวน้องอลิสให้ครูหนุ่ยไปทำบันทึกรับสารภาพ ตนอยากจะฝากไปถึงครอบครัวผู้สูญเสียว่ายอมรับครูประมาทแต่ถ้ามาคิดว่าครูทำร้ายน้องมันไม่ใช่ ตนมองว่าทำเด็กแล้วได้อะไรเป็นไปไม่ได้ เสียเวลา เสียเงิน เสียอนาคต คนที่ไม่รู้ก็พูดมั่วไป หากใครรู้ความจริงก็ให้ไปบอกเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะครอบครัวตนเสียหายหนัก
ส่วนตอนเช้า ที่ตนเดินทางมาหาครูหนุ่ย ยังไม่พบน้องสาวและเป็นห่วงน้องมาก ครูหนุ่ยเป็นคนคิดมาก เพราะเป็นเสาหลักของครอบครัว หนี้สินทุกอย่างก็เป็นครูหนุ่ยรับผิดชอบ
ต่อมาทีมข่าวช่องแปดได้เดินทางไปบ้านของน้องอลิส เพื่อสอบถามกรณี วันศุกร์ที่ (12 ก.ค.)จะมีการทำบุญศูนย์พัฒนาเด็กเล็กคิดเห็นอย่างไรนั้น โดยทีมข่าวได้สอบถาม นายปัญญาและนางสาวพุทธมาลย์ (พ่อกับแม่อลิส) เผยว่า หากมีการชวนตนก็จะไป แต่ต้องรอดู ซึ่งทางด้านนายปัญญา (พ่อน้องอลิส) มีความสงสัยว่าหากไม่เกิดเหตุถึงไม่มีการทำบุญเลย
ส่วนกรณี ที่ครูหนุ่ยได้เข้ามาขอขมาเมื่อวานนี้ ทางด้านนางสาวพุทธมาลย์ (แม่น้องอลิส) ขอยืนยันว่าจะให้ใช้เงื่อนไข จำนวนเงิน 2 แสน ดังเดิม ถ้าครูหนุ่ยรับข้อเสนอได้และยอมรับข้อกล่าวหาที่โรงพักเรียบร้อยก็ให้เป็นไปตามนั้น แต่หากรับไม่ได้ก็ให้เจอกันที่ชั้นศาล และทางนายปัญญา(พ่อของอลิส) กล่าวต่ออีกว่า หากรับได้ก็ให้ไปยอมรับทำบันทึกข้อกล่าวหาที่ สภ.ยางชุมน้อยให้เรียบร้อย
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามประเด็น เชื่อหรือไม่ที่ครูหนุ่ยได้แสดงความจริงใจในการขอขมา โดยด้านนายปัญญา(พ่อของน้องอลิส) บอกว่า ไม่เชื่อเพราะน้ำตาเยอะเกินไป ออกเวลาไหนก็ได้
และทางด้าน นางสาวพุทธมาลย์(แม่ของอลิส) จึงย้ำอีกว่า หากทางครูหนุ่ย จะให้ครอบครัวเชื่อใจต้องไปจัดการบันทึกเอกสารยอมรับข้อกล่าวหาให้เรียบร้อยเสียก่อน
ต่อมา หลังจากทีมข่าวทราบข้อมูลมาว่าคณะครูจะมีการเข้ามาทำความสะอาดศูนย์เด็กเล็กก่อนเปิดเรียน โดยช่วงเช้า ในเวลา 11.00 น. ทีมข่าวช่องแปดได้ลงพื้นที่ไปยังศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านค้อ โดยพบว่า มีครูน้อย และครูปูเป้ ครูทั้ง 2 ท่าน แต่ไม่พบคุณครูหนุ่ย ที่ได้เดินทางเข้ามาเช็ดถูทำความสะอาดอาคารเรียน พร้อม ด้วยผู้อำนวยกองการศึกษา ที่มาจัดเตรียมสถานที่ทำบุญ ในวันศุกร์ที่( 12 ก.ค.) นี้ ก่อนเปิดเรียนเพื่อความเป็นสิริมงคลของครูและผู้ปกครองนั้น
จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้พูดคุยกับครูน้อยโดยให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า วันนี้เตรียมทำความสะอาดที่ศูนย์ เพื่อเตรียมความพร้อมทำบุญ โดยปัดกวาดเช็ดถู ในวันศุกร์นี้
ส่วนการทำบุญเริ่มต้นมาจากผู้ปกครองจากการประชุมได้มีการลงมติอยากให้มีการทำบุญก่อนเปิดเรียน เพื่อเป็นความสิริมงคล อุทิศส่วน บุญส่วนกุศลให้เจ้าที่ช่วยคุ้มครองดูแลเด็กๆ ช่วยครูด้วย ตามความเชื่อ โดยจะมีการนิมนต์พระที่อยู่ในวัดข้างศูนย์เด็กเล็ก จำนวน 3 รูป และพระวัดป่ามณีสีชมพู จำนวน 6 รูป ส่วนการทำบุญครูจะทำอาหาร ข้าวหม้อแกงหม้อมาถวาย อีกทั้งจะมีการเชิญชวนผู้ปกครองมาทำบุญโดยตนจะแจกหนังสือเชิญผู้ปกครองภายในเย็นวันนี้
สำหรับการทำบุญ เคยทำเมื่อนานมาแล้ว ตั้งแต่ เปิดศูนย์พัฒนาเด็กเล็กครั้งแรก คุณบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์มาทำให้ ซึ่งครูน้อยจำไม่ได้ค่อนข้างหลายปี ครั้งนี้จะเป็นครั้งที่ 2 ในการทำบุญให้กับศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ซึ่งครูน้อยเองก็อยากทำบุญในครั้งนี้ด้วย
ส่วนตอนนี้ ล่าสุด จากเหตุการณ์ ครูหนุ่ยได้เข้าไปขอขมา ตนยังไม่ได้พูดคุยกับคุณครูหนุ่ย ยอมรับตนเป็นห่วงเพื่อน และเชื่อครูหนุ่ยจะสามารถเอาตัวเองรอดจาก เหตุการณ์ครั้งนี้ได้
นอกจากนี้อยากบอกกับครอบครัวผู้สูญเสียว่า ทำดีมาก 30 ปี มามีประวัติไม่ดี 1 ครั้ง แต่ตอนที่ทำดีมาตลอดแต่มีความผิดแค่ครั้งเดียวติดลบไปหมดเลย จึงอยากบอกกับทางผู้สูญเสียว่าให้มองสิ่งที่เคยทำดีมาหน่อย นิดนึงก็ยังดี