สำนักงานเขตขยายเส้นตายถึง 16 ก.ค.นี้ ให้คอนโดหรูเพิ่มคลอรีน เปิดน้ำทิ้ง 1 ชม. ฆ่าเชื้อปรสิต

ผลการตรวจสอบตามข้อแนะนำให้คอนโดหรูแห่งหนึ่งในย่านห้าแยกลาดพร้าว ดำเนินการแก้ไขปัญหาหลังพบน้ำมีเชื้อปรสิตจนทำให้ลูกบ้านคอนโดมีอาการป่วยได้ดำเนินการแก้ไขแล้ว 2 ใน 3 ข้อเสนอแนะ เนื่องจากยังติดในเรื่องของกรอบระยะเวลา ที่ให้ดำเนินการแก้ไขที่สั้นเกินไป ทางสำนักงานเขตจตุจักรจึงได้ออกคำสั่งขยายระยะเวลาเพิ่มเติมอีก 5 วันให้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จ

วันที่ 11 ก.ค. นางสาวภัทร์กร สินสุข ผู้อำนวยการเขตจตุจักร เปิดเผยถึงผลการตรวจสอบ คอนโดแห่งหนึ่งในย่านห้าแยกลาดพร้าวที่พบเชื้อปรสิตในน้ำประปา จนทำให้ลูกบ้านคอนโดมีอาการป่วยเป็นตาแดง อักเสบ กว่า 200 ราย ซึ่งทางสำนักงานเขตจตุจักรได้ให้คำแนะนำฝ่ายนิติบุคคลอาคารชุดแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนในระยะเวลา 7 วัน (4-10 ก.ค.) ก่อนจะเข้าตรวจสอบผลการดำเนินการแก้ไขในวันนี้ ว่า จากข้อเสนอทั้ง 3 ประเด็นที่ได้เสนอให้นิติบุคคลเร่งแก้ไข ซึ่งประเด็นแรก ที่มีการเสนอให้มีการล้างถังพักน้ำจำนวน 4 ถัง ได้ดำเนินการครบแล้ว

ประเด็นที่ 2 ที่ประชาสัมพันธ์ให้ลูกบ้านในคอนโดได้ถอดหัวก๊อกน้ำหรือฝักบัวอาบน้ำมาฆ่าเชื้อด้วยน้ำร้อน

ข้อเสนอในประเด็นที่ 3 ที่เสนอให้มีการล้างทำความสะอาดระบบท่อประปาทั้งหมด ยังไม่ได้มีการดำเนินการ ซึ่งอ้างว่าระยะเวลาในการดำเนินการแก้ไขนั้นสั้นเกินไป ทางสำนักงานเขตฯจึงได้ออกคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นในเหตุสร้างความเดือดร้อนรำคาญ ขยายเวลาให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนในอีกระยะเวลา 5 วัน หรือจนถึงวันที่ 16 กรกฎาคม 2567

พร้อมทั้งจะต้องมีการตรวจสอบถังเก็บน้ำหลังจากทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วว่ามีรอยรั่วหรือไม่ จึงทำให้มีเชื้อโรคเข้ามาได้ อีกส่วนหนึ่งจะต้องดำเนินการเช็กน้ำ ด้วยกระบวนการใส่คลอรีนเข้าไปในปริมาณเข้มข้นหรือ 50 มิลลิกรัม ก่อนจะปล่อยคลอรีนออกไปแล้วจึงใส่น้ำใหม่เข้ามา พร้อมเติมคลอรีนไว้ให้เป็นไปตามมาตรฐาน หรือไม่ต่ำว่า 0.2 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งส่วนนี้จะต้องประชาสัมพันธ์ให้ลูกบ้านมีการเปิดน้ำทิ้งเอาไว้เป็นระยะเวลา 1 ชม. เพื่อเป็นการฆ่าเชื้อโรคทั้งระบบ

เมื่อดำเนินการครบตามข้อแนะนำทั้งหมดแล้วจะต้องส่งคุณภาพน้ำหลังการแก้ไขไปยังแลปของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเพื่อให้ตรวจสอบว่าน้ำนั้นผ่านเกณฑ์กลับมาอยู่ในค่ามาตรฐานน้ำที่ดีสำหรับอุปโภคบริโภคแล้วหรือไม่ ในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกบ้านคอนโดทุกคน

ขณะที่วันนี้ทางนิติบุคคลฯยังต้องรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ซึ่งมีทั้งหมดการตรวจสอบคุณภาพน้ำและถังเก็บน้ำที่ยืนยันว่าไม่ได้มีการชำรุด ให้กับสำนักงานเขตฯตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย

ส่วนในประเด็นเรื่องน้ำประปาสามารถใช้การได้ตามปกติแล้วหรือไม่ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตจตุจักร ระบุว่า หลังจากที่ได้ทำความสะอาดถังน้ำครบทั้ง 4 ถังแล้ว ตอนนี้ทางนิติบุคคลฯ ได้ดำเนินการเติมคลอรีนในน้ำให้เป็นไปตามมาตรฐานในทุกๆ 2 ชม. เพียงแต่ยังไม่ได้มีการส่งน้ำไปตรวจที่แลป ขณะที่ตนยังสั่งการให้มีการระงับการใช้น้ำในส่วนของสระว่ายน้ำ และห้องซาวน์หน้าก่อน เนื่องจากยังไม่ได้ข้อแน่ชัดว่าเหตุของการระบาดของการติดเชื้อที่ดวงตา จนเป็นโรคเยื่อบุตา นั้นมาจากน้ำเพียงอย่างเดียวหรือไม่ จนกว่าจะมีการแก้ไขหมดทั้งกระบวนการก่อน พร้อมทั้งยังได้เสนอให้นิติบุคคลมีการทำความสะอาดในพื้นที่จุดสัมผัสร่วม โดยการบิ๊กคลีนนิ่งที่จะดำเนินการในวันพรุ่งนี้ด้วย

นอกจากนี้ การดำเนินการตรวจสอบ ยังมีสำนักอนามัย สำนักงานสุขาภิบาลและสิ่งแวดล้อม กทม. กรมควบคุมโรค และหน่วยงานอื่นๆที่ได้เข้ามาช่วยตรวจสอบแบบคู่ขนานไปด้วย ทั้งค่าคลอรีนในน้ำก่อนแก้ไขและหลังแก้ไข รวมถึงสุขภาพของลูกบ้านว่ายังพบว่ามีการระบาดติดเชื้อเพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งค่อนข้างได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนิติบุคคล ในการดำเนินการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ พร้อมส่งผลให้คอนโดมิเนียมในพื้นที่ใกล้เคียงมีการเฝ้าระวังดำเนินการตรวจสอบคุณภาพน้ำเช่นกัน แต่เชื่อว่าคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่ล้วนมีมาตรฐานการดูแลรักษาคุณภาพน้ำอยู่แล้ว จึงไม่น่าจะมีปัญหาในลักษณะนี้มากนัก