จากกรณีเมื่อเวลา 11.14 น. ของวันนี้ 11 ก.ค. 2567 ตำรวจ สภ.โคกขาม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิตถูกผ้าห่มพันร่าง เสียชีวิตอยู่ที่ซอยเปรียวใกล้กับป่าจาก ถนนบ้านขอม-บ้านขวาง เบื้องต้นพบเป็นหญิงไทย คาดว่าเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 3 วัน และจากการตรวจสอบ พบเอกสารติดตัว เบื้องต้นทราบชื่อคือ นางกฤตยา อายุ 66 ปี ชาวตำบลคลองมะเดื่อ แต่สภาพศพยังไม่สามารถยืนยันได้ชัดเจน ว่ามีร่องรอยของการถูกทำร้ายบริเวณจุดใด เพราะสภาพศพค่อนข้างเน่า จึงต้องมีการส่งชันสูตร นั้น




วันนี้ (11 ก.ค. 2567) ทีมข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า โดยได้เดินทางไปที่ป่าซึ่งเป็นลักษณะซอยเปลี่ยว อยู่ริมถนนบ้านขอม-บ้านขวาง และจุดดังกล่าวนั้น ยังพบว่าเป็นลักษณะคล้ายกองขยะที่ชาวบ้านเอาขยะมาทิ้ง จึงไม่มีคนผ่านเข้าออก เพราะไม่ใช่ทางผ่าน ฉะนั้นจึงต้องเป็นคนที่รู้ว่าจุดดังกล่าวเป็นจุดที่ไม่มีคนพลุกพล่านหรือเป็นกองขยะ จึงได้มีการนำร่างของผู้เสียชีวิตมาทิ้ง




ทีมข่าวตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้ที่เกิดเหตุ พบว่ามีรถต้องสงสัยขับเข้า-ออกใช้เวลาไม่ถึง 3-4 นาที โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดวันที่ 8 ก.ค. เวลาประมาณ 02.58 น. จับภาพรถเก๋งยี่ห้อนิสสันมาร์ช สีขาว ล้อแม็กแต่งซิ่ง และบริเวณกระจกรถซ้าย-ขวา คล้ายนำกระดาษหรือผ้ามาปิดทับเอาไว้ โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพรถคันดังกล่าว วิ่งผ่านถนนบ้านขอม-บ้านขวาง วิ่งเข้าไปที่พบศพ


จากนั้นมีภาพกล้องวงจรปิดบริเวณป่าจุดที่พบศพ จับภาพรถเก๋งคันดังกล่าวเลี้ยวเข้าไป ซึ่งจะเห็นรถขับผ่านกล้องและเงียบหายไปประมาณ 3 นาที ก่อนที่จะเห็นแสงไฟมีการขับออกจากป่าจากจุดพบศพ ซึ่งแสงไฟของรถจะมีการขับออกมาด้วยความเร็ว และหลังจากขับเคลื่อนถนนได้มีการเลี้ยวขวากลับออกไปทางเดิม




และหลังจากที่กล้องวงจรปิดเห็นว่ารถเก๋งสีขาวนิสสันมาร์ช ขับออกจากจุดพบศพ ได้มีการขับเลี้ยวขวาขึ้นมาบนถนนบ้านขอม-บ้านขวาง เพื่อย้อนกลับไปเส้นทางเดิม โดยมีกล้องวงจรปิดเวลาประมาณ 03.02 น. จับภาพรถเก๋งคันดังกล่าวขับผ่าน ซึ่งก็ยังเห็นว่ามีกระดาษหรือคล้ายผ้าปิดทับกระจกเอาไว้เหมือนเดิม


และระหว่าง ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านเอื้ออาทร ซึ่งเป็นข้อมูลตามที่อยู่ของคนตาย ปรากฏว่าทีมข่าวไปเจอกับนางสาวสกาวเดือน (นามสมมติ) เพื่อนข้างห้อง ซึ่งรู้จักกับคนตาย ก่อนที่จะย้ายออกไปแล้วกลายเป็นศพ ซึ่งเจ้าตัวได้มีการให้ข้อมูลกับทีมข่าว พร้อมกับให้คลิปพฤติกรรมของนายน้อง อดีตสามีของเจ๊แหม่ม คนตาย ซึ่งตอนนั้นเป็นช่วง 2 เดือนก่อน โดยเพื่อนบ้านรายดังกล่าวไปมีเรื่องกับนายน้อง อดีตสามีของเจ๊แหม่ม โดยมีเรื่องกันซึ่งกล่าวหาว่าเพื่อนบ้านมีการไปขโมยของจนกระทั่งถูกถ่ายคลิปเอาไว้




โดยในคลิปจะเห็นพฤติกรรมของนายน้อง ผู้ต้องสงสัย ซึ่งในมือถือลักษณะคล้ายไม้หรือร่ม ทำทีจะเอามาทำร้ายร่างกายเพื่อนบ้าน คือนางสาวสกาวเดือน และในคลิปจะมีการด่าทอกัน ซึ่งคลิปดังกล่าวเพื่อนบ้านต้องการอยากให้เห็นพฤติกรรมของนายน้อง ผู้ต้องสงสัย ว่ามีอารมณ์รุนแรงแค่ไหน และตอนนี้ทุกคนก็ปักใจเชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือของนายน้อง


นางสาวสกาวเดือน เผยว่า ตอนที่ตนเองอาศัยอยู่อยู่ที่ตึก โดยเฉพาะช่วงกลางคืนก็จะได้ยินเสียงตัวของนายน้อง มีปากเสียงทะเลาะกับเจ๊แหม่มบ่อยครั้ง แต่ไม่ได้ยินว่ามีเสียงทำร้ายร่างกายกันหรือไม่ เพราะเนื่องจากเกิดเหตุหรือทะเลาะกันในห้อง แต่ส่วนใหญ่ที่เห็นกับตา คือการใช้คำพูดที่ดูหมิ่นเหยียดหยามเจ๊แหม่ม แล้วยังมีการพูดหยาบคาย เวลาที่ไม่พอใจ




เช่นเหตุการณ์เมื่อเดือนก่อน ก่อนที่เจ๊แหม่มจะย้ายไปอยู่ที่อื่น ทั้งคู่กลับเข้ามาห้องตอนเย็นแล้วปรากฏว่าเจ๊แหม่มลืมกุญแจห้องหรือทำกุญแจห้องหาย ทั้งคู่ก็ช่วยกันนั่งงัดประตู แต่ระหว่างที่ช่วยกันงัดประตูนั้นตัวของฝ่ายชายก็มีอารมณ์ฉุนเฉียว ด่าทอเจ๊แหม่มตลอด ซึ่งดูจากพฤติกรรมแล้วก็เรียกได้ว่าเป็นคนอารมณ์ร้อนอารมณ์รุนแรง และโดยทุกครั้งที่เรื่องของการดื่มแอลกอฮอล์เข้าไป ก็จะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ชอบหาเรื่องเจ๊แหม่ม และชอบหาเรื่องเพื่อนบ้าน จนหลายคนไม่ทนกับพฤติกรรมของนายน้อง ฉะนั้นจากกรณีการเจอศพของเจ๊แหม่มครั้งนี้ ก็เชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือของนายน้อง เพราะเป็นเพียงคนเดียวที่เป็นคนที่เจ๊แหม่มต้องหนี




เบื้องต้นจากการชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุ แพทย์เวรได้พบบาดแผลบริเวณหน้าผากของผู้เสียชีวิต ซึ่งมีแผลกว้างประมาณ 5 เซนติเมตร แต่ส่วนตามตัวจะต้องมีการส่งนิติเวชเพื่อตรวจอีกครั้ง เพราะสภาพศพค่อนข้างเน่าจึงยังตรวจรายละเอียดมากไม่ได้ และในขณะนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการแกะรอยจากภาพกล้องวงจรปิดเกี่ยวกับรถต้องสงสัย ในช่วงรอยต่อวันที่ 8-10 ก.ค. ตามไทม์ไลน์ที่คาดว่าผู้เสียชีวิตเสียชีวิตมาแล้วกี่วัน สำหรับรถและพาหนะของนายน้อง ผู้ต้องสงสัย ซึ่งเป็นอดีตสามีของเจ๊แหม่ม จากการสืบสวนทราบว่าเจ้าตัวใช้รถเก๋งยี่ห้อนิสสัน แต่เป็นสีดำ และรถมอเตอร์ไซค์เวฟ รวมถึงยี่ห้ออื่น รวมอีก 4 คัน


ขณะเดียวกันทีมข่าวเดินทางไปที่ทำงานของคนตาย โดยได้พูดคุยกับนางสาวขนม (นามสมมติ) เพื่อนร่วมงาน เผยว่า ตัวของเจ๊แหม่มคนตายเคยทำงานที่นี่ และหายตัวไปพักนึง ก่อนที่จะพบเป็นศพ ซึ่งก่อนที่จะหายไปรับเงินเดือนก้อนสุดท้ายเมื่อวันที่ 30 มิย แต่หลังจากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีกซึ่งไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน และก่อนที่จะหายตัวไป ตัวของเจ๊แหม่มมาทำงานครั้งสุดท้ายบีลักษณะเบ้าตาช้ำเขียว คล้ายถูกทำร้ายมา แต่เมื่อเพื่อนร่วมงานพยามถามว่าเกิดอะไรขึ้นเจ้าตัวก็ไม่ได้บอกว่าถูกใครทำร้าย แต่เข้าใจว่าน่าจะมีเรื่องกับนายน้องเพราะเนื่องจากช่วงหลังมีการตามง้อขอคืนดี เพราะเนื่องจากนายน้องได้มีการเลิกลากับเจ๊แหม่มไปแล้ว




สำหรับตัวของเจ๊แหม่มเองช่วงหลังยอมรับว่าใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวง เพราะกลัวว่านายน้องจะเข้ามาทำร้าย ประกอบกับมีการพยามเปลี่ยนที่อยู่หนี ไม่กล้าอยู่ที่เดิม กลัวว่าจะถูกย้อนกลับมาทำร้ายหรือกลับมาง้อ เพราะล่าสุดก็เห็นว่าย้ายไปหลายที่ แม้แต่ที่ทำงานก็ไม่กล้ามาทำ กลัวว่านายน้องจะมาถึงที่ทำงาน


และวันเดียวกันนี้ ทีมข่าวช่อง 8 เดินทางย้อนกลับไปยังข้อมูลตามบัตรที่พบกับศพผู้เสียชีวิตในป่า โดยได้เดินทางไปที่บ้านเอื้ออาทร หมู่ 3 ตำบลคลองมะเดื่อ จังหวัดสมุทรสาคร ทันทีที่ทีมข่าวเดินทางไปถึงปรากฏว่าห้องหมายเลข 27 ชั้น 7 ซึ่งเป็นที่อยู่ของคนตาย พบว่าห้องปิดล็อกไม่มีคนอยู่


ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางบัวเพ็ญ (นามสมมติ) เพื่อนสนิท ในฐานะคนรู้จักกับคนตาย เปิดใจว่า ผู้เสียชีวิตชื่อเล่นคือ “เจ๊แหม่ม” เคยอาศัยอยู่อยู่ที่นี่ เพราะเป็นห้องที่เจ้าตัวซื้อและผ่อนจนครบตามสัญญาแล้ว และช่วงประมาณปีกว่า ก่อนหน้านี้ ได้คบหากับนายน้อง แล้วได้มีการพาน้องมาอาศัยอยู่ด้วย แต่พักหลังเจ้าตัวถูกทำร้ายร่างกาย และทนพฤติกรรมความรุนแรงไม่ได้ จึงได้มาเล่าให้ตัวเองฟัง ว่าจะย้ายไปอยู่ที่อื่นและจะเลิกกับนายน้อง ซึ่งหลังจากที่เจ้าตัวหายไปเดือนเศษก็เข้าใจว่าน่าจะไปทำงานและอยู่ที่ทำงานใหม่ ไม่คิดด้วยซ้ำว่าเจ้าตัวจะกลายเป็นศพถูกทิ้งอยู่ป่า




และจากกรณีที่เจ๊แหม่มเคยเล่าให้ตนเองฟัง ว่ามีเรื่องถูกทำร้ายร่างกายบ่อยครั้ง จนกระทั่งวันนี้พบเจ้าตัวเป็นศพ ซึ่งก็เชื่อมั่นว่ายังไงก็เป็นฝีมือของนายน้อง เนื่องจากตัวของเจ๊แหม่มไม่ได้มีศัตรูหรือไปมีเรื่องกับใคร แต่เข้าใจว่าน่าจะเป็นฝีมือของนายน้องที่พยายามตามง้อขอคืนดี หรือไปตามที่อยู่จนกระทั่ง ไปเจอกันแล้วง้อไม่สำเร็จ อาจมีการทำร้ายร่างกายเจ๊แหม่มแล้วเอาศพไปทิ้งหรือไม่


แต่ส่วนพฤติกรรมของคนที่อยู่ในครอบครัว โดยเฉพาะลูกชายหรือญาติคนอื่น ก็ไม่มีใครเคยทำร้ายเจ๊แหม่ม ซึ่งก็มีแต่เพียงนายน้องคนเดียวที่เจ๊แหม่มเคยเล่าให้ฟัง และหลายครั้งตนเองเห็นเดินลงจากตึกมีเนื้อตัวช้ำเขียว แต่ตอนนี้เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าลูกชายหรือญาติย้ายไปอยู่ที่ไหน เพราะหลังจากที่มีการย้ายออกจากที่บ้านเอื้ออาทรเพื่อหนีนายน้อง ก็เลยไม่รู้ว่าครอบครัวเค้าไปอยู่ที่ไหนกัน

 

ฆ่าโหดสาวใหญ่ขนศพหมกกองขยะ ช่อง 8 เจอเก๋งขาวลึกลับโผล่ใกล้จุดพบศพ