จากกรณีที่ญาติของ Ms.YAN หญิงชาวจีน อายุ 38 ปี ได้เดินทางมาติดตามและเข้าแจ้งความไว้ที่ สน.บางรัก กทม. ว่าไม่สามารถติดต่อ Ms. YAN ที่เดินทางมาประเทศไทยได้ จนมีการสืบสวนออกค้นหา พบว่าการใช้โทรศัพท์มือถือของ Ms.YAN ครั้งสุดท้ายปรากฏที่บริเวณสวนธารณะ บริเวณใกล้เคียงกับวัดโสธรวราราม ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา เมื่อเวลา 04.58 น. ของวันที 3 ก.ค. 2567 และต่อมาวันที่ 4 ก.ค. เวลา 00.12 น. ปรากฏข้อมูลการใช้ระบบการจ่ายเงินออนไลน์ Wechat Pay จาก Ms.YAN ซื้อของที่ห้างคาร์ฟูร์ มาเก๊า เป็นจำนวนเงิน 9,694.76 หยวน


ต่อมา วันที่ 5 ก.ค. เวลา 09.14 น. พบมีการใช้จ่ายเงินค่าเกี๊ยวน้ำใน เวเนเชี่ยน มาเก๊า เป็นจำนวนเงิน 229 หยวน และวันที่ 6 ก.ค. เวลา 17.04 น. จ่ายค่าซื้อของช็อปปิ้งเป็นจำนวนเงิน 1,043 หยวน และในเวลา 18.40 น. ของวันเดียวกัน ได้จ่ายค่าซื้อของที่ห้างคาร์ฟูร์ มาเก๊า เป็นจำนวนเงิน 9,694.76 หยวน โดยการตรวจสอบพบว่าตัว Ms.YAN ยังไม่ได้เดินทางออกจากประเทศไทย




เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดตามไล่ย้อนภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่าเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ผู้ต้องสงสัย คือ Mr.QINGYAN MA สัญชาติจีน ได้เช่ารถยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นเอชอาร์วี สีขาว โดยบริษัทให้เช่าได้นำรถไปส่งที่โรงแรม ย่านสีลม ซึ่งเป็นโรงแรมที่ผู้ต้องสงสัยเข้าพักก่อนเกิดเหตุ ต่อมาวันที 1 ก.ค. เวลาประมาณ 17.26 น. พบว่ามีรถยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นเอชอาร์วี สีขาว เข้าไปรับ Ms.YAN ที่ไทม์สแควร์ สุขุมวิท 12 ซึ่งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบรถยนต์คันดังกล่าวขับมุ่งหน้าเข้าไปในซอยสุขุมวิท 16


จนกระทั่งเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันที่ 2 ก.ค. พบว่ารถคันดังกล่าวออกจากซอยสุขุมวิท 16 ไปยัง จ.ชลบุรี จนกระทั่งเวลาประมาณ 02.00 น. ของวันที่ 3 ก.ค. พบว่า รถยนต์คันดังกล่าวได้ขับวนกลับมาในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ก่อนที่สัญญาณโทรศัพท์ครั้งสุดท้ายของ Ms.YAN จะหายไปบริเวณสวนธารณะแห่งหนึ่งใกล้วัดโสธรวราราม เวลา 04.58 น.ของวันที่ 3 ก.ค. จากนั้น Mr.QINGYAN MA ผู้ต้องสงสัยได้เดินทางไปได้ทำการเช็กเอาต์พร้อมคืนรถให้กับบริษัทรถเช่า ก่อนจะเดินทางไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ และเดินออกนอกราชอาณาจักร ผ่านสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิก เที่ยวบิน CX654 ไปยังประเทศฮ่องกง ในเวลา 13.46 น. ของวันเดียวกัน




ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ (12 ก.ค. 2567) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบบริเวณสวนสาธารณะ และบริเวณลานจอดรถโดยรอบวัดโสธรวรารามวรวิหาร อ.เมืองฉะเชิงเทรา โดยนำรูป Ms.YAN ให้ชาวบ้านพ่อค้าแม่ค้าในบริเวณนั้นดู เผื่อจะพบว่า Ms.YAN พลัดหลงเดินอยู่ในบริเวณนี้และไม่สามารถติดต่อใครได้ แต่พ่อค้าแม่ค้าก็ไม่เคยพบเห็นและพบความผิดปกติของชาวต่างชาติที่เดินมาในบริเวณนี้ ขณะเดียวกันจากการสำรวจพบว่ากล้องวงจรปิดภายในสวนสาธารณะถูกถอดออกไปหมด เหลือเพียงแต่สายและกล่องสัญญาณบางส่วน ซึ่งทราบว่าได้มีการถอดกล้องวงจรปิดออกไปก่อนหน้านี้ได้ไม่นาน เพราะจะมีการปรับปรุงสวนและติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดใหม่ทั้งหมด


ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา ได้ลงพื้นที่ปูพรมค้นหาหลักฐาน และสิ่งของต้องสงสัยที่คาดว่าจะเป็นหลักฐานของผู้ต้องสงสัย หรือสิ่งของของหญิงสาวชาวจีนที่หายตัวไปอย่างปริศนา เพราะเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจพบ GPS ของรถยนต์พบว่ามีการขับเข้ามาวนเวียนในพื้นที่ฉะเชิงเทราถึง 12 จุด และบางจุดให้เวลานานเกือบ 2 ชั่วโมง โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพนาทีที่รถยนต์ของผู้ต้องสงสัยขับเข้ามาวนเวียนอยู่ในพื้นที่ แถววัดผาณิตาราม ตำบลบางกรูด อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา กับตำบลบางพระ อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา ใกล้เคียงกับวัดท่าอิฐ




ในขณะที่วันนี้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ได้รีบรุดเดินทางมายังที่เกิดเหตุ หลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบจุดที่มีการนำกระเป๋าสะพายของสาวชาวจีนทำเผาทำลายทิ้งในพื้นที่ใกล้กับจุดที่มีการขับรถวนเวียนอยู่ในพื้นที่ ซึ่งจากการตรวจสอบของกองพิสูจน์หลักฐานพบว่า ยังคงมีร่องรอยและหลักฐานที่ระบุว่าเป็นของใช้ส่วนตัวของผู้สูญหาย ส่วนกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ความสูงประมาณเอว สีชมพู ยังตรวจหาไม่พบ ซึ่งคาดว่าผู้ต้องสงสัยอาจนำร่างหรือชิ้นส่วนของสาวชาวจีนยัดใส่ไว้ในกระเป๋า แล้วนำไปทิ้งไว้จุดใดจุดหนึ่งในพื้นที่ 12 จุดที่ GPS ตรวจพบว่ามีการขับรถวนเวียนอยู่ในพื้นที่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยจะได้ระดมกำลังค้นหากันอย่างต่อเนื่องต่อไป ซึ่งฝากประชาสัมพันธ์ประชาชนในพื้นที่ หากเคยพบหรือเห็นรถต้องสงสัยในช่วงก่อนเวลา 01.30 น.ของวันที่ 3 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ให้แจ้งข้อมูลให้ทางเจ้าหน้าที่ทราบเพื่อทำการสืบสวนติดตาม และค้นหาสาวชาวจีนรายนี้ต่อไป


นอกจากนี้ มีรายงานว่า ภายหลัง Ms.YAN หายตัวไปได้มีบุคคลปริศนา ติดต่อไปทางญาติของผู้สูญหาย ว่าได้จับ Ms.YAN ไว้ โดยมีการข่มขู่เรียกค่าไถ่เงิน 1 ล้านหยวน ตีเป็นเงินไทยเกือบ 5,000,000 ล้านบาท และสั่งห้ามแจ้งตำรวจและสถานฑูตเด็ดขาดมิฉะนั้นจะไม่รับรองความปลอดภัย




ขณะที่ทีมข่าวได้ภาพวงจรปิดบริเวณปากซอยสุขุมวิท 10 เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 17.11 น. จะเห็นภาพปรากฏหญิงชาวจีนยืนรอรถโดยมีกระเป๋าเดินทางอยู่ด้วยหนึ่งใบ ต่อมาในเวลา 17.25 น. จะปรากฏภาพรถเก๋งสีขาวมาจอดอยู่ริมถนนสุขุมวิท ก่อนจะมีผู้ชายคนหนึ่งในเสื้อสีขาวมาเปิดประตู ด้านหลังต่อมาก่อนที่หญิงสาวชาวจีนจะเดินขึ้นที่ประตูด้านหลังแล้วหายตัวไปซึ่งเป็นภาพสุดท้ายที่ออกจากกรุงเทพฯ ซึ่งข้อมูลระบุว่า ทั้งคู่ลงมาเลือกซื้อทุเรียน




ทั้งนี้ พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ได้ลงพื้นที่ที่พบจุดสิ่งของโดนเผา โดยมาพร้อมกับ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ด้วย ลงพื้นที่บริเวณถนน 3315 อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ใกล้เคียงวัดท่าอิฐ เพื่อทำการตรวจสอบร่องรอยกระเป๋าถือของ Ms.YAN นักศึกษาชาวจีน ซึ่งเดินทางจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย มายังประเทศไทย ในฐานะนักท่องเที่ยวแล้วหายตัวไป ตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2567 ในพื้นที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านสุรวงศ์ โดยได้ให้เจ้าหน้าที่ พิสูจน์หลักฐานจังหวัดฉะเชิงทราเข้าตรวจสอบและทำการเก็บหลักฐานต่าง ๆ ในจุดที่พบกระเป๋า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบร่องรอยการเผาซึ่งเป็นกระเป๋าถือ ด้านในมีเครื่องสำอางต่าง ๆ ถูกไฟไหม้จนเสียหายแต่ยังสามารถพบสายสะพายกระเป๋าที่หลังเหลือจากไฟไหม้ เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมหลักฐานต่าง ๆ ในที่เกิดเหตุ


นอกจากนี้ คาดว่าผู้ต้องสงสัยเป็น Mr.QINGYAN MA สัญชาติจีน โดยได้เช่ารถยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นเอชอาร์วี สีขาว โดยบริษัทให้เช่าได้นำรถไปส่งที่โรงแรม ย่านสีลม เวลาประมาณ 19.00 น. ของวันที่ 30 มิ.ย. ซึ่งเป็นโรงแรมที่ผู้ต้องสงสัยเข้าพักก่อนเกิดเหตุ ต่อมาเวลาประมาณ 06.00 น. ของวันที่ 3 ก.ค. ผู้ต้องสงสัยได้เดินทางไปเช็กอินเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง แถวศรีนครินทร์ จนกระทั่งเวลาประมาณ 12.00 น. ผู้ต้องสงสัยได้ทำการเช็กเอ้าต์พร้อมคืนรถให้กับบริษัทรถเช่า จากนั้นได้เดินทางไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ และเดินออกนอกราชอาณาจักร เวลา 13.46 น. โดยสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิก เที่ยวบิน CX654 ไปยังประเทศฮ่องกง ซึ่งขณะนี้ตามแนวทางการสืบสวนเชื่อว่าผู้ต้องสงสัยชาวจีนรายนี้น่าจะเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุในคดีนี้ และตอนนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามหาผู้สูญหายในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป




ล่าสุด ตำรวจ สน.บางรัก และเจ้าหน้าที่ พฐ. กำลังเข้าเก็บวัตถุพยานที่บ้านเช่าหลังหนึ่ง ในซอยสุขุมวิท 16 เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร หลังมีรายงานว่า พบคราบเลือดในบ้าน ซึ่งสันนิษฐานว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับคดีที่นักศึกษาจีนถูกเรียกค่าไถ่ พบข้อมูลว่ามีการมาเช่าบ้านพักแห่งหนึ่งใน ย่านสุขุมวิท 16 เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ตำรวจ สน.บางรัก, และชุดสืบสวนนครบาล จึงได้ลงพื้นที่ร่วมตรวจเก็บวัตถุพยาน และปรากฎว่าไปพบคราบเลือดเล็ก ๆ ที่ปลอกหมอมและผ้าปูที่นอน เจ้าหน้าที่จึงเก็บไปทำการตรวจสอบ ทั้งไส้ผ้าห่มชั้นใน ผ้ารองนอน หมอน เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี


โดยเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้สอบถามแม่บ้านทำความสะอาดห้อง แจ้งว่าได้ทำความสะอาด ชั้นสามที่เป็นห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำในห้องนอน เพียงห้องเดียวส่วนห้องอื่น ๆ ไม่มีร่องรอยการใช้งาน ซึ่งในห้องที่ทำความสะอาด พบคราบเลือดบนที่นอน และที่หมอน คล้ายประจำเดือนของผู้หญิง ทางแม่บ้านจึงได้ถ่ายภาพไว้ แล้วนำไปซักทำความสะอาดปกติ แล้วจึงเปลี่ยนผ้าปู ปลอกหมอน ผ้าคุมไส้ผ้าห่มใหม่


ทีมข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า โดยได้เดินทางไปบ้านหลังที่มีการตรวจค้น พบว่าปฏิบัติการตรวจค้นได้เสร็จสิ้นลงไปเมื่อช่วงสายที่ผ่านมาแล้ว แต่บ้านหลังนั้นดังกล่าว ยังคงมีการเปิดไฟทิ้งเอาไว้อยู่ แต่ไม่ได้มีคนอาศัยและยังไม่ได้อนุญาตให้ลูกค้ารายใหม่เข้ามาพัก เพราะเนื่องจากยังคงมีการจัดพื้นที่เอาไว้ และขอทางนิติของหมู่บ้านบ้านหลังดังกล่าว ยังไม่มีมีการปล่อยเช่าให้กับลูกค้ารายใหม่ และจากการสังเกตพบว่ายังคงมีผ้าขนหนูสีขาวตากอยู่ที่ชั้น 3 และมีเสื้อผ้าคาดว่าเป็นของผู้หญิงตากเอาไว้อยู่ที่ชั้น 2 บริเวณหน้าบ้านทางเข้ามีรองเท้าวางอยู่ 3คู่




ทีมข่าวสอบถาม นายพงษ์พัฒน์ (นามสมมติ) รปภ.ของหมู่บ้าน เผยว่า เข้าใจว่าการตรวจค้นเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณตีหนึ่งของเมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา และเสร็จสิ้นไปเมื่อช่วงสาย ซึ่งการตรวจค้นนั้นยังไม่ทราบว่าเจออะไรบ้าง แต่บ้านหลังที่เกิดเหตุเป็นบ้านที่มีการปล่อยเช่า ลักษณะทำเป็นบ้านวิลล่า เวลามีลูกค้าเข้ามาก็จะมีการส่งข้อความมาแจ้งกับทางรปภ. เพื่อให้อำนวยความสะดวก ซึ่งในช่วงนั้นก็มีชาวจีนเข้ามาเช่าอาศัยอยู่ แต่ก็ไม่พบความผิดปกติ เข้าใจว่าเป็นกลุ่มลูกค้าทั่วไป


และหลังจากรับรายงานว่าพบรอยคล้ายเลือดภายในบ้านนั้น ตนเองก็ยังไม่ทราบรายละเอียด เพราะเป็นหน้าที่ของตำรวจ แต่เข้าใจว่าน่าจะไม่มีการก่อเหตุภายในบ้านหลังนี้ น่าจะพากันไปก่อเหตุข้างนอกหรือไม่ และที่สำคัญก็ยังไม่ได้รับแจ้งว่ามีเหตุทะเลาะกันในช่วงนั้น จึงทำให้ไม่พบความผิดปกติ


ต่อมาทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังมีรายงานว่าพื้นที่ ต.บางพระ อ.เมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา หลังจากชุดสืบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาลพบว่าเป็นจุดที่นำทรัพย์สินและกระเป๋าของ นักศึกษาจีนที่สูญหายมาเผาทิ้ง โดยพลตำรวจตรีนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า หลังจากที่เมื่อวานญาติของนักศึกษาจีนที่สูญหายได้มาแจ้งความกับตำรวจ สน.บางรัก ซึ่งจากการสืบสวนพบว่าหญิงชาวจีนคนดังกล่าวได้เดินทาง มาจากประเทศสิงคโปร์เข้าประเทศไทย เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2567 ต่อมาในวันที่ 27 และ 28 มิถุนายน ได้เดินทางไปที่ พัทยา และวันที่ 30 มิถุนายน ได้เดินทางกลับเข้ามาที่กรุงเทพมหานคร และไปพักค้างบ้านเพื่อน แถวพระราม 9




ต่อมาในวันที่ 1 กรกฎาคม ได้ว่าจ้างรถแกร็บให้มาส่งบริเวณซอยสุขุมวิท 12 ซึ่งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบมีรถเก๋งสีขาวฮอนด้าซิตี้ มีผู้ชายขับมารับ ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถเช่า และผู้เช่าชื่อ นายคิงยันมา อายุ 34 ปี ชาวจีน ซึ่งเดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน และได้เช่ารถคันดังกล่าวไว้ ก่อนที่จะมารับหญิงชาวจีนที่สูญหาย


โดยจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าวันที่ 1 กรกฎาคม พบภาพทั้งสองคนไปที่ตลาดของเตยไปซื้อทุเรียนกิน ก่อนที่จะไปเช่าบ้านพักอยู่ในซอยสุขุมวิท 16 ซึ่งเพื่อนที่มาแจ้งความระบุว่าตั้งแต่คืนวันที่ 1 กรกฎาคม ก็ไม่สามารถติดต่อหญิงชาวจีนที่สูญหายได้อีก แต่เนื่องจากรถที่เช่ามามีการติดตั้งระบบ GPS ชุดสืบสวนจึงได้ติดตามจนพบว่า วันที่ 1 ต่อวันที่ 2 กรกฎาคม รถยังอยู่ที่ห้องเช่าในซอยสุขุมวิท 16 แต่ต่อมาวันที่สองประมาณ 20.22 น. ได้มีการเดินทางออกจากกรุงเทพมหานคร มุ่งหน้าไปจังหวัดชลบุรี แล้วขับรถย้อนกลับมาในจังหวัดพื้นที่จะเชิงเทราประมาณ 22.00 น. และจากนั้นถึงเวลา 05.00 น. ของวันรุ่งขึ้นรถคันดังกล่าวก็ยังอยู่ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา แต่มีการขับรถวนอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทราทั้งหมดประมาณ 12 จุด ซึ่งสถานที่ต่าง ๆ จะพบเป็นทั้งซอยตันและพงหญ้าและยังเป็นบ่อปลาค่อนข้างจะลึกลับซับซ้อน ชุดสืบสวนจึงเชื่อว่าคนขับคือ นายคิงยันมา น่าจะกระทำบางสิ่งบางอย่างกับ หญิงสาวที่หายตัวไป


จนกระทั่งมาพบร่องรอย ที่มีการเผากระเป๋าและทรัพย์สินของหญิงสาวที่สูญหาย ซึ่งจุดนี้กล้องวงจรปิดจับภาพได้ผู้ก่อเหตุใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนจะขับรถออกไป ก่อนจะขับรถมุ่งหน้าเข้าไปที่กรุงเทพมหานคร และในวันรุ่งขึ้นก่อนเที่ยงก็นำรถคันที่เช่าไปคืนก่อนจะบินออกจากประเทศไทยในวันที่ 3 กรกฎาคม เวลาบ่ายโมง 40 นาที ไปที่ประเทศฮ่องกง และได้นำมือถือของหญิงสาวที่สูญหายไปใช้จ่ายซื้อของผ่านระบบ WeChat จึงเชื่อได้ว่าตัว นายคิงยันมา เป็นผู้นำโทรศัพท์มือถือของผู้สูญหายไป


หลังจากที่วันนี้ได้มีการพบหลักฐานที่ถูกเผา จะระดมกำลังตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลรวมถึงกรรมการตำรวจภูธรจังหวัดจะเชิงเทรา ปูพรมเพื่อค้นหา 12 จุด ที่นายคิงยันมา ขับรถวนเวียน เพื่อค้นหาว่าผู้สูญหายยังมีชีวิตอยู่หรือหากเป็นศพแล้วจะถูกหมกไว้หรือมีการแยกชิ้นส่วนทิ้งหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้พบคราบเลือดในห้องพักซอยสุขุมวิท 16 ซึ่งได้ให้กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบแล้ว เพื่อนำไปเปรียบเทียบดีเอ็นเอของพ่อผู้สูญหายที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยแล้ว ยืนยันว่าวันนี้ทั้งคืนต่อเนื่องจะติดตามตัว ผู้ที่สูญหายและหากเสียชีวิตแล้วก็จะ หาร่างหรือชิ้นส่วนหากผู้สูญหายเสียชีวิตแล้วให้ได้ และพรุ่งนี้จะมีการเรียกประชุมชุดสืบสวนทั้งหมดอีกครั้งในเวลา 10.30 น. เพื่อติดตามความคืบหน้าหลังจากที่มีการแบ่งงานกันไปทำ


โดยล่าสุดชุดสืบสวนนครบาลได้มีการเรียกประชุมทั้งส่วนของเจ้าหน้าที่สืบสวนภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา สภ.ภูแสนดาษ เจ้าของพื้นที่เพื่อผนึกกำลังค้นหาจากข้อมูล GPS รถยนต์ของชายชาวจีนต้องสงสัย พบว่าขับวนอยู่ในพื้นที่ทั้งหมด 12 จุด โดยล่า สุดตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้ตรวจพบคราบเลือดที่บริเวณท้ายรถเช่าชายชาวจีนเช่า และใช้รับผู้สูญหายก่อนจะ เดินทางกลับไป ส่วนการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ทั้งหมต้องหยุดชะงักลง เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักทำให้เจ้าหน้าที่ต้องวางแผนใหม่ในการค้นหาในวันพรุ่งนี้ เวลา 10.00 น.


ทั้งนี้จากการตรวจสอบพื้นที่บริเวณจุดนี้ เป็นลักษณะถนนสองข้างทางเป็นปลา และมีบ้านเรือนประชาชนสลับเป็นบางจุดส่วนป่าข้างทางนั้น บางจุดก็จะเป็นจุดทางเข้าแพปลาส่วนบุคคล และมีทั้งจุดที่เป็นจุดตกปลาที่ประชาชนสามารถเข้าไปหาปลาริมแม่น้ำบางปะกงได้




นอกจากนี้ ทีมข่าวได้รับภาพกล้องวงจรปิดใกล้จุดที่เผาเสื้อผ้าของสาวชาวจีน เป็นเวลา 04.57 น. วันที่ 3 ก.ค. พบเห็นรถคันสีขาวเข้ามาจอดอยู่ริมถนน จากนั้นจะเห็นควันไฟลอยขึ้นมา คล้ายเผาบางสิ่งอยู่ จนถึงเวลา 05.55 น. ก็พบว่ารถยังจอดเผาบางสิ่งอยู่


ขณะที่ตำรวจได้ค้นพบจุดต้องสงสัยเผากระเป๋าของผู้เสียหายอยู่บริเวณถนน หมู่ 9 ตำบลบางพระอำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยพบว่าจุดแรกที่มีการเผากระเป๋านั้นอยู่ห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 50 เมตร เข้าไปในป่าซึ่งเป็นทางไปตกปลาของชาวบ้านโดยพบว่าด้านข้างทางเข้าป่ามีร่องรอยเผา วัตถุบาง อย่างเป็นวงกว้าง ทีมข่าวพบ นางสาวส้ม (นามสมมติ) ผู้ที่อยู่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า บริเวณจุดนี้เป็นทางเข้าไปตกปลาของชาวบ้าน หากไม่ใช่คนแถวนี้ก็จะไม่รู้จักแต่จะเข้า-ออกได้




โดยก่อนหน้านี้ช่วงวันที่ 3 หรือ 4 กรกฎาคม ช่วงเวลาประมาณตีสาม มีชาวบ้านออกไปซื้อของมาขายก็พบเห็นชายคนหนึ่งกำลังเผาสิ่งของบางอย่างอยู่บริเวณจุดนี้ จึงเกิดความสงสัยแต่ไม่ได้จอดดูว่าเผาอะไร จนกระทั่งมารู้วันนี้ที่ตำรวจลงพื้นที่แล้วมาขอดูกล้องวงจรปิดที่ร้าน แต่กล้องที่ร้านของตนส่งไปไม่ถึงจุดที่ทำการเผา เมื่อรู้ข่าวการหายตัวไปของนักศึกษาชาวจีนและพบทราบกระเป๋ามาถูกเผาเช่นนี้ ตนเองก็ตกใจแต่ก็ภาวนาขอให้อยากเจอเรื่องเลวร้าย และได้พบตัวนักศึกษาคนนี้โดยเร็ว




นอกจากนี้ จากการตรวจสอบพิกัดของ GPS ที่รถเก๋งสีขาวของผู้ต้องสงสัยจอดแต่ละพื้นที่ โดย 7 จุดสีส้ม เป็นการแวะแต่ไม่ได้จอด ส่วนจุดสีแดง คือมีการแวะเป็นหยุดจอดรถอยู่ 6 ที่ด้วยกัน อีกทั้งทีมข่าวได้รับภาพวงจรปิดภาพสุดท้ายของสาวชาวจีน นั่นคือเวลา 19.43 น. วันที่ 1 ก.ค. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เดินซื้อทุเรียนกับชายต้องสงสัย ตั้งแต่ช่วงเย็นของภาพกล้องก่อนหน้านี้




ล่าสุดทีมข่าวได้หลักฐานจากกล้องวงจรปิดช่วงที่ชายต้องสงสัยเข้ามาประเทศไทยครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. เวลา 01.48 น. โดยเดินทางมากับแท็กซี่เพื่อมายังโรงแรมที่พัก ย่านสีลม ซึ่งเป็นจุดที่ชายคนนี้เข้าพักก่อนจะไปนัดพบสาวจีน จากนั้นเวลา 09.57 น. วันที่ 1 กรกฎาคม พบว่า ชายต้องสงสัย ได้ทำการเช็กเอาต์ออกจากโรงแรมโดยมีการลากกระเป๋าเดินทางของตัว และเช่ารถเก๋งสีขาวคันดังกล่าวเพื่อจะไปเจอกับสาวจีน ตามไทม์ไลน์เวลา 17.25 น. วันที่ 1 กรกฎาคม จากนั้นก็เดินทางไปซื้อทุเรียนด้วยกัน ซึ่งเป็นสถานที่สุดท้ายที่พบสาวจีนก่อนหายตัวไป




อย่างไรก็ตาม ทาง พฐ. ได้เก็บหลักฐาน รถเก๋งคันสีขาวดังกล่าว โดยมีการฉีดน้ำยาตรวจสารพันธุกรรม พบขึ้น สีฟ้าบริเวณท้ายรถกระโปงรถที่เก็บสำภาระด้านหลัง และที่พักเท้า เบาะนั่งหลัง นำแผ่นยางปูที่เก็บสำภาระ และแผ่นยางวางเท้าหลังซ้าย จากนั้นเก็บดีเอ็นเอ บริเวณประตูรถด้านหน้า เบาะรถ ทั้งหน้าและหลังคนขับ เพื่อนนำไปตรวจพิสูจน์ จากนั้น พฐ. ประสานร้อยเวรให้ส่งมอบรถไปตรวจละเอียดอีกครั้ง และขอให้ร้อยเวรทำหนังสือไปนิติบุคคลบ้านพักของสาวจีนที่พบคราบเลือด รวมถึงห้องพักของชายต้องสงสัยอีกด้วย

 

แกะรอย 12 จุด! นศ. สาวชาวจีนหายตัวปริศนา หนุ่มสนิทเผ่นหนีโผล่ฮ่องกง