จากกรณี เพจ Social Hunter 2022 ได้แชร์คลิปวงจรปิด โดยระบุว่าคลิปเตือนภัย !! โจรโรคจิตแอบปีนเข้าไปในบ้านหลังหนึ่ง ถอดเสื้อผ้าออกจนหมด แล้วนำเสื้อผ้าผู้หญิง ของคนในบ้านมาสวมใส่แทน จากนั้นโจรโรคจิตรายนี้ ได้เดินเข้ามาในห้องนอน พร้อมกับถืออาวุธมีดเข้ามาด้วย และบังคับให้สาววัยรุ่น ที่กำลังนอนอยู่ถอดเสื้อผ้าออก แต่สาววัยรุ่นต่อสู้ขัดขืน และได้ตะโกนขอความช่วยเหลือ ทำให้โจรโรคจิตตกใจ รีบวิ่งหนีออกจากบ้านไป ผ่านไปไม่ถึง 2 ชม. ชาวบ้านและตำรวจ ช่วยกันตามจับโจรรายนี้เอาไว้ได้ #อุดรธานี นั้น
ล่าสุด (13 กรกฎาคม 2567) ทีมข่าวได้หลักฐานภาพวงจรปิดตัวเต็ม พบว่า นายวงศกร ผู้ก่อเหตุ ได้เดินวนเวียนเข้าออกบ้านผู้เสียหายถึง 2 รอบ โดยวงจรปิดตัวที่ 1 ซึ่งเป็นมุมข้างบ้านจะเห็นว่า เวลา 23.18 น. วันที่ 7 กรกฎาคม นายวงศกร คนก่อเหตุ ซึ่งสวมใส่เสื้อก้ามสีเหลืองกางเกงขาสั้น ได้เดินเข้าบ้านผู้เสียหายทางด้านที่คิดอยู่กับไร่มันสำปะหลัง โดยเมื่อเดินเข้ามาถึง นายวงศกร ได้เดินตรงไปที่ราวตากผ้า ซึ่งตามข้อมูลนายวงศกร ได้มีการปลดชุดชั้นในของผู้เสียหายออกจากราวตากผ้าก่อน จากนั้นก็เริ่มปลดเสื้อผ้าของผู้เสียหายติดมือไปด้วย ซึ่งผู้เสียหายให้ข้อมูลว่า นายวงศกร มีพฤติกรรมนำชุดชั้นในของผู้เสียหายไปนั่งดมในไร่มันสำปะหลัง
จากนั้นหลังจากนายวงศกรเอาชุดชั้นในไปดม จะเห็นว่าเวลา 23.22 น. นายวงศกรได้เดินอ้อมไปที่หน้าบ้านและมีการปีนเข้าไป ซึ่งนายวงศกรมีการใช้เสื้อสีดำของผู้เสียหายคลุมหน้า และได้เดินไปแงะประตูจนหลุด และพอประตูหลุด นายวงศกร ได้มีการยืนมองเข้าไปในบ้านเพื่อดูว่าใครอยู่ในบ้านบ้าง แต่ยังไม่เข้าไปในบ้าน ซึ่งจะเห็นว่านายวงศกร ได้เดินย้อนกลับมาปีนออดไปจากบ้านตรงจุดที่ปีนเข้ามาและก็หายตัวไปเป็นชั่วโมง
จนกระทั่งกล้องวงจรปิดตัวที่ 4 จะเห็นว่าเวลา 00.34 น. นายวงศกร ได้เดินย่องเข้าไปภายในบ้าน ซึ่งรอบนี้มีเสื้อคลุมสีดำสวมทับเสื้อตัวในเดินตรงเข้าไปที่ห้องของแม่ผู้เสียหาย จากนั้นได้เดินถือกระเป๋าเงินของแม่ผู้เสียหายออกมา ซึ่งกล้องวงจรปิดตัวที่ 5 จะเห็นว่าพอนายวงศกร ถือกระเป๋าออกมา กล้องมุมหน้าบ้านจะเห็นว่าเขามีการนำกระเป๋ามาวางที่โต๊ะหน้าบ้าน พอวางเสร็จก็เดินย้อนกลับไปที่ประตูบ้าน
จากนั้นวงจรปิดตัวสำคัญซึ่งเป็นเหตุการณ์ตามต้นเรื่อง แต่ภาพวงจรปิดชุดนี้ช่อง 8 ไปได้เสียงในกล้องมาด้วย ซึ่งจะเห็นว่า เวลา 00.36 น. วันที่ 8 กรกฎาคม หลังจากนายวงศกรเดินเข้ามาในบ้าน นายวงศกรได้มีการแวะถกกางเกงช่วยตัวเองตรงโซฟาที่ลูกสาวผู้เสียหายนอนอยู่ จากนั้นพอนายวงศกร ยืนถกกางเกงช่วยตัวเองตรงโซฟา จากนั้นคลิปที่ 7 จะเห็นว่านายวงศกรได้เดินไปช่วยตัวเองต่อตรงหน้าห้องของคุณนัตตี้ ผู้เสียหาย
จากนั้นกล้องวงจรปิดคลิปที่ 8 ซึ่งคลิปนี้จะมีเสียง ซึ่งจะเห็นว่าพอนายวงศกร มันแง้มประตูเห็นผู้หญิงอยู่ในห้อง จู่ ๆนายวงศกรก็เปิดประตูห้องเข้าไป ซึ่งเมื่อเข้าไปแล้วจะได้ยินเสียงคุณนัตตี้ ร้องขึ้นมาว่า "เฮ้ย หยุด กูไม่รู้" จากนั้นก็จะได้ยินเสียงคุณนัตตี้ ส่งเสียงร้องกรี๊ดขอความช่วยเหลือให้แม่ได้ยิน แล้วก็จะเห็นนายวงศกรวิ่งออกมา จากนั้นก็จะเห็นว่าแม่ของคุณนัตตี้ ได้วิ่งออกมาจากห้องและวิ่งตามนายวงศกร ออกไปที่หน้าบ้าน ซึ่งคลิปที่ 9 จะเห็นว่าเมื่อนายวงศกร วิ่งออกมาที่หน้าบ้าน นายวงศกร ได้วิ่งไปตรงจุดที่ปีนเข้ามาแล้วก็กระโดดปีนหนีออกไปจากบ้าน
ส่วนวงจรปิดคลิปที่ 11 และคลิปที่ 12 จะเห็นว่าเวลา 03.41 น. หลังจากตำรวจจับตัวได้ ตำรวจได้มีการนำตัวนายวงศกร เข้าไปชี้จุดทำแผนทันที ซึ่งช่วงท้ายคลิปที่ 12 จะได้ยินเสียงตำรวจถามว่า "เอ็งเข้าไปในห้องเขายังไง ทำอะไรบ้าง" ซึ่งนายวงศกร ตอบว่า "ไม่ได้เข้าไป" จนทำให้คุณนัตตี้ โมโหและชี้หน้านายวงศกร บอกว่า "มึงเข้าห้องกู"
ขณะเดียวกัน ทีมข่าวได้มีโอกาสไปเจอกับ นางสำราญ อายุ 52 ปี แม่ของผู้เสียหายที่อยู่ในเหตุการณ์ โดยได้พาทีมข่าวไปดูตรงประตู โซฟา และภายในห้องนอนที่นายวงศกร คนก่อเหตุย่องเข้าไปขโมยกระเป๋าในขณะที่แม่นอนหลับอยู่ภายในห้อง โดยนางสำราญ แม่ของผู้เสียหาย เปิดเผยว่า คืนเกิดเหตุตนเองนอนอยู่ภายในห้องข้าง ๆ ห้องของลูกสาว ซึ่งเหตุการณ์ตอนที่นายวงศกร ย่องเข้าไปหยิบกระเป๋าในห้องและเข้ามาขโมยชุดชั้นในของลูก รวมถึงมันเข้ามาช่วยตัวเองในบ้าน ยืนยันว่าตนเองไม่รู้สึกตัวเลยแม้แต่นิดเดียว และก็มารู้ว่ากระเป๋าหายไปตอนที่ตำรวจไปยึดของกลางมาได้
ส่วนเหตุการณ์ตอนที่ได้ยินเสียงลูกสาวส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ ซึ่งพอได้ยินก็วิ่งออกมา โดยเห็นตัวคนก่อเหตุแต่วิ่งตามไปไม่ทันเพราะมันกระโดดหนีเข้าไปในป่ามัน และตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าไอ้คนก่อเหตุมันเป็นเพื่อนกับลูกชาย จึงโทรศัพท์ให้ลูกอีกคนแจ้งตำรวจให้เข้ามาที่บ้าย ซึ่งระหว่างออกตามหาตัวคนก่อเหตุ ตำรวจไปเจอกับนายวงศกร ในขณะที่เขากำลังจะปั่นจักรยานหลบหนี ซึ่งตอนที่ตำรวจพาตัวมาทำแผน ตนเองก็ถามว่าทำไมถึงทำแบบนี้ แต่นายวงศกร ตีมึนยืนเฉยไม่ยอมพูด ไม่ยอมรับกับตำรวจว่าเป็นคนบุกเข้ามา แต่พอตำรวจไปเปิดกล้องให้ดูที่โรงพักถึงมายอมรับว่าขโมยกระเป๋าบุกเข้ามาในห้องลูกสาว
ยอมรับนายวงศกร คนก่อเหตุ เป็นเพื่อนกับลูกชาย และก่อนหน้านี้เขาก็เคยมาที่บ้าน ซึ่งตอนที่มาเขาไม่เคยมีพฤติกรรมที่จะเป็นคนโรคจิตให้เห็น ตนเองจึงไว้ใจให้เข้ามาในบ้าน ไม่คิดว่าคนที่ไว้ใจจะกล้าลงมือก่อเหตุได้ถึงขนาดนี้ ซึ่งเงินในกระเป๋าจำนวน 20,000 บาท ก็ยังไม่ได้คืน ชุดชั้นในลูกสาวที่เขาขโมยไปก็ยังหาไม่เจอ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็อยากจะฝากเตือนคนดูช่อง 8 ถ้าจะนอนก็ควรเช็กให้ดีว่าประตูปิดสนิทหรือไม่ เพราะตนเองพลาดที่ไม่เช็กประตูบ้านให้ดีก่อนเข้านอน และไม่ควรไว้ใจคนใกล้ชิด ซึ่งคนที่ตนไว้ใจยังกล้าทำได้ถึงขนาดนี้
จากนั้นทีมข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของคนก่อเหตุ โดยจากการตรวจสอบ พ่อของคนก่อเหตุค่อนข้างจะมีฐานะ โดยนายสมบูรณ์ (นามสมมติ) พ่อของคนก่อเหตุ ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ตนเองมารู้ว่าลูกชายไปก่อเหตุหลังจากตำรวจจับไปดำเนินคดีแล้ว ซึ่งลูกชายคนนี้ มีเมียมีลูกแล้ว แต่ติดยางอมแงม ที่ผ่านมาพ่อตามใจลูกมาตลอด อยากได้อะไรพ่อก็หาแต่สิ่งดี ๆ ให้ ซึ่งพ่อหาสิ่งที่ไม่ดีให้มันไม่ได้ ลูกมันก็เลยออกไปหาสิ่งที่ไม่ดีให้กับตัวมัน ที่ผ่านมาตั้งแต่ลูกชายติดยามา 8-9 ปี ถูกตำรวจจับเข้าคุกเป็นว่าเล่น ซึ่งออกมาพ่อก็ให้โอกาสมันตลอด
โดยครั้งล่าสุดที่ลูกออกมาจากคุก พ่อให้มันสัญญาว่าจะไม่กลับไปยุ่งกับยาเสพติดอีก และพ่อก็พูดต่อหน้ามันว่า ถ้ามึงถูกจับอีก พ่อจะตัดห่างปล่อยวัด ซึ่งที่มันถูกจับล่าสุดนี้ พ่อก็เลยไม่ไปเยี่ยมไม่ไปประกันตัวมัน และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พ่อเชื่อว่าลูกชายไม่น่าจะไปก่อเหตุในลักษณะโรคจิตช่วยตัวเองหรือลักขโมยชุดชั้นในมาดม เพราะคนที่เสพยาส่วนมากมันจะไม่ยุ่งกับผู้หญิง ซึ่งภาพในกล้องมี่มันช่วยตัวเอง พ่อก็ไม่รู้ว่ามันคิดอะไรอยู่
ที่ผ่านมาพ่อจ้างมันนอนอยู่บ้านเดือนละ 15,000 บาท มันก็เอาเงินไปซื้อยาเสพจนหมด ซื้อรถให้ 3-4 คัน มันก็เอารถไปขายแลกยาเสพจนหมด ซึ่งลูกคนนี้ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยทำให้พ่อแม่ภูมิใจ ส่วนแม่ผู้เสียหาย จริง ๆ ก็รู้จักกับตนเอง เนื่องจากลูกของเขาเป็นเพื่อนกับลูกชาย และลูกเขาก็เสพยาด้วยกันกับลูกของตนเองมาตลอด ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พ่อรู้สึกเสียใจอยู่ที่ลูกถูกจับติดคุก แต่ถ้ามันเป็นคนดีไม่ได้ก็อยากให้มันตายไปเลย และอยากจะฝากถึงหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ช่วยมาจัดการปัญหาเรื่องยาเสพติดหน่อย เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นปัญหามันมาจากยาเสพติด ใครเสพยาค้ายาฆ่าตัดตอนมันได้ขอให้ฆ่ามันให้ตายไปให้หมด เพราะคนพวกนี้อยู่ไปก็หนักแผ่นดิน
อย่างไรก็ตาม ตำรวจได้แจ้งข้อหากับนายวงศกร ทั้งหมด 3 ข้อหา คือ 1. บุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธและพาอาวุธไปในทางหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต 2. ลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืน 3. เสพยาเสพติดให้โทษประเภทหนึ่ง และได้นำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดอุดรธานี ในวันที่ 9 กรกฎาคม ที่ผ่านมา