เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.พยุหะคีรี เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่กู้ภัยและแพทย์เวรโรงพยาบาลพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ เข้าตรวจสอบซากศพในไร่อ้อยพื้นที่หมู่8 ตำบลท่าน้ำอ้อย อำเภอพยุหะคีรี หลังมีชาวบ้านได้พบศพบริเวณดังกล่าวก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ
จากการลงพื้นตรวจสอบเจ้าหน้าที่พบว่าจุดพบศพเป็นไร่อ้อยที่อยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 5 กิโลเมตร ในป่าอ้อยพบศพเป็นเพศชายไม่ทราบอายุ มือทั้งสองข้างถูกตัด และพบผ้าสีแดงลักษณะคล้ายถุงนอนอยู่ที่ศพและไม่พบหลักฐานใดๆติดตัว จากสภาพศพคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมานานกว่า 2 สัปดาห์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามกับผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่ตำบลท่าน้ำอ้อยให้ข้อมูลว่า ผู้เสียชีวิตอาจไม่ใช่คนในพื้นที่เนื่องจากในพื้นที่ยังไม่มีการแจ้งบุคคลสูญหาย ซึ่งคาดว่าศพดังกล่าวอาจเป็นบุคคลพื้นที่อื่นถูกฆาตรกรรมและนำมาทิ้งเพื่ออำพรางคดี ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้นพศพดังกล่าวส่งไปยังโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อตรวจสอบเอกลักษณ์บุคคลและการเสียชีวิตแล้ว
ล่าสุดวันนี้ทางทีมข่าวช่องแปดลงพื้นที่ไปยังตำบลท่าน้ำอ้อย อำเภอพยุหะคีรี พบปนัดดาอายุ 52 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 เปิดเผยกับทางทีมข่าวว่า คนที่ไปพบศพเป็นคนแรกคือนายบุญยัง ซึ่งเป็นเจ้าของไร่อ้อยแห่งนั้น อีกทั้งเป็นลูกบ้านของตน โดยนายบุญยัง เดินทางไปที่ไร่เพื่อไปฉีดหญ้า พร้อมลูกจ้างอีกสองคน ซึ่งปกตินายบุญยังไม่ได้เดินไปในโซนนั้น แต่ในขณะเจอศพ เดินไปหาที่ปัสสาวะ เหลือบไปเห็นเท้า จึงรีบเดินไปดู พบกับสภาพศพ จากนั้นจึงรีบโทรมาแจ้งตน
ตนจึงประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรีบลงพื้นที่ เมื่อไปถึง จากสภาพศพคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วเกือบหนึ่งเดือน เป็นผู้ชายนอนคว่ำหน้า มีรอยสักบริเวณขาขวา แขนข้างซ้ายถูกตัดข้อมือ ข้างขวาถูกตัดจนถึงข้อศอก ร่างถูกห่อด้วยเปล สวมใส่เสื้อกล้ามสีแดง กางเกงลายทหารสีเขียว คล้องสร้อยพระ ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร ข้างๆศพ เจอหมวกอะแด๊บเตอร์ตกอยู่ โดยนายบุญยัง เจ้าของไร่ ยืนยันว่าไม่ใช่หมวกของตนเอง จึงคาดการณ์ว่าน่าจะเป็นหมวกของผู้เสียชีวิต หรือไม่ก็อาจเป็นห่วงของผู้ก่อเหตุหรือไม่ ส่วนร่องรอยอื่นๆ อย่างเช่น คราบเลือด ไม่เห็นเลย เพราะช่วงนี้ฝนตกหนัก น่าจะชะล้างหลักฐานไปหมดแล้ว
หลังจากได้รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามไปยัง ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ผู้ใหญ่บ้านละแวกใกล้เคียง รวมทั้งหมู่บ้านของตน ขณะนี้ยังคงไม่พบบุคคลสูญหายภายในหมู่บ้าน หรือละแวกใกล้เคียงเลย ผู้เสียชีวิตน่าจะถูกฆ่ามาจากพื้นที่อื่น และนำมาทิ้งอำพรางที่นี่ เพราะปกติแล้วพื้นที่บริเวณจุดทิ้งศพ คือพื้นที่เปลี่ยว มีเพียงป่าไร่อ้อยของชาวไร่ ติดกันหลายไร่ อีกทั้งช่วงนี้ต้นอ้อยมีขนาดสูงใหญ่ จึงอาจอาศัยเป็นสถานที่อำพรางหรือก่อความผิดได้ง่าย