จากกรณี เพจดังมีการลงรูป กลุ่มชายนุ่ง ผ้าคล้ายจีวรพระ พร้อมมีการถกเถียงในความเหมาะสมหรือไม่
ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางมายังบ้านหลังดังกล่าวพร้อมได้พูดคุยกับ อาจารย์สมปอง อายุ 70 ปี หรือ อาจารย์เปี๊ยก ผู้ที่อยู่ในภาพ ได้เผยว่า คลิปที่เกิดเกิดขึ้นมา เป็นในวันพิธีไหว้ครู ซึ่งจะมีการจัดปีละครั้ง ช่วงมีนาคน และบุคคลที่ใส่จีวร เป็นลูกศิษย์ โดยตรงของตนเอง ต้องชี้แจงว่า การใส่จีวร เป็นอะไรที่สืบทอดกันมา ตั้งแต่ปี 2500 ในยุคของ พ่อเยื่อ และก็ถ่ายทอดกันมาจนถึงทุกวัน แต่ไม่ได้ใส่ทุกวัน
ที่นี้จะมีกฎในการปฏิบัติ คือ จะใส่จีวรตามภาพ ในวันไหว้ครูเท่านั้น วันปกติ จะใส่ชุดลายเสือ และลูกศิษย์ทุกคนจะต้องปฏิบัติตาม และการจะมีเป็นลูกศิษย์ที่นี้ ต้องมีหลักการ คือ มาขอพร ดูดวง การสัก แต่อายุต้อง 18 ปีขึ้นไป และไม่เล่นคูณไสย หรือประพฤติสิ่งไม่ดี ไม่ว่าจะมีเงินเท่าไหร่ แต่ไม่เขาตามหลักการตนก็จะไม่สักให้ หรือทำอะไรให้
แต่ก็ต้องยอมรับว่า มันก็มีบางคนที่เอาไปทำในทางไม่ดี ตนก็คงทำได้แค่เตือน ไม่ว่าจะหลอกให้แก้กรรม หรือทำบุญด้วยจำนวนเงินนั้น ตามสมัยโบราณมันไม่มี ทุกอย่างเรายึดหลักตามพระพุทธศาสนา การสืบทอด ก็มีต่อๆ กันมา แต่ใครจะไปครอบครู ก็อยากให้พินิจ พิเคราะห์ ให้ถี่ถ้วน
ตนเปิดมา 50 ปี อยู่ในวงการนี้ เป็นศิษย์สสยตรงคนเดียวที่เหลืออยู่ เป็นคนแรกๆ ที่ได้เดินทางไปสักให้ต่างประเทศ ยึดถึงหลักคำสอนเสมอ
ลูกศิษย์ ตนห้ามหลอกลวงใคร ห้ามเอาความเชื่ มาทำให้เกิดความเสริมเสีย เพราะตนเป็นศิษย์สายตรง แต่หลังจากเกิด ตนได้มีการปรึกษากันว่า จะมีการปรับเปลี่ยนไปนุ่งขาวห่มขาวแทน จะได้ไม่เกิดความสับสน หรือข้อมสงสัย
ทางด้านนายปฏิภาณ อายุ 19 ปี ผู้สืบทอด เผยว่า ทุกๆ ต้นเดือนมีนาคม ในทุกเสาร์อาทิตย์แรก จะมีพิธีไหว้ครู และจะมีการแต่งกาย ด้วยจีวรสีกะดำ ซึ่งในพิธีแต่ละครั้งจะมีการนิมนต์พระเข้ามาร่วมเหมือนเป็นการทำบุญด้วย
ซึ่งสมัยก่อนตนจะสั่งตัดเย็บเอง ไม่ให้เหมือนกับผ้าพระ แล้ววิธีการนุ่งห่มก็จะไม่เหมือนกัน แต่ส่วนลายเสือจะมีการใส่ในทุกวัน และ สาเหตุที่มีการนำเสียงพ่อครัวครอบหัวของผู้ประกอบพิธีในความเชื่อจะทำให้มีการส่งสัญญาณถึงพ่อปู่หรือพ่อแก่ได้อย่างชัดเจน
ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการห่มจีวรสีจะดำหรือการทำพิธีต่างๆที่สำนักตนจะเป็นพิธีที่ได้รับการสืบทอดมาอย่างยาวนานและไม่มีการทำด้านไสยศาสตร์หรือสิ่งไม่ดีต้องถือศีลอย่างน้อย 3-5 ข้อให้ได้ ก่อนจะทำอะไร ต้องให้ลูกศิษย์ เชื่อ และปฏิบัติให้ได้ และจำนวนเงินที่นำมาไหว้ครูก็จะมีการนำเงินไปทำผ้าป่าหรือบริจาคทางวัดทางพวกตนไม่ได้เก็บไว้หรือแม้กระทั่งบางครั้งลูกศิษย์ไม่มีเงินพวกตนก็จะให้เอากลับไปไม่ได้อยากเก็บไว้