สยอง! พบศพชาวต่างชาติ เสียชีวิตในโรงแรมหรู ในห้องเดียวกันถึง 6 ศพ ด้านตำรวจ เร่งตรวจสอบหา บุคคลต้องสงสัย และยังไม่ฟังธง เรื่องการถูกวางยา อยู่ระหว่างตรวจสอบเศษผงในถ้วยกาแฟ และขวดสเตนเลสต้องสงสัย 2 ขวด

ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ค. 67 ตำรวจ พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และ ผู้เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบภายในโรงแรมชื่อดังย่านราชประสงค์ หลังแม่บ้าน เข้าไปทำความสะอาดห้องพัก บริเวณชั้น 5 แล้วเจอชาวต่างชาติเสียชีวิตหมู่ ถึง 6 ศพ ทั้งหมดเป็นชาวเวียดนาม ในจำนวนนี้ 2 คน ถือสัญชาติอเมริกัน ประกอบด้วย นางเชอรีน ช็อง อายุ 56 ปี สัญชาติอเมริกัน / นาย ฮัน แดง วาน อายุ 55 ปี สัญชาติอเมริกัน / นางที เหงียน ฟอง แลน อายุ 47 ปี สัญชาติเวียดนาม / นาย ฮง ฟาม ทัม อายุ 49 ปี สัญชาติเวียดนาม / นายดิ่ญ ทราน ฟู อายุ 37 ปี สัญชาติเวียดนาม และนาง ถี เหงียน ฟอง อายุ 46 ปี สัญชาติเวียดนาม พบประวัติ เดินทางเข้าประเทศไทย ช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ตั้งแต่วันที่ 5-12 กรกฎาคมที่ผ่านมา

จากนั้น พลตำรวจโทธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พลตำรวจตรี นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้ลงพื้นที่ด้วยตัวเอง พร้อมชุดสืบสวน และเปิดเผยว่า เบื้องต้นสันนิษฐานว่า อาจเสียชีวิตเพราะวางยาพิษ โดยพบผู้เสียชีวิต อยู่ในห้องพักที่เกิดเหตุ ห้องเดียวกัน ห้องพักนี้เปิดเอาไว้เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม และ ต้องเช็กเอาท์ออก วันที่ 16 กรกฎาคม 67 มีการแพ็กกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว กระเป๋าเดินทางวางพร้อมไว้หน้าห้องที่เกิดเหตุด้วย

ส่วนในห้องพัก พบมีการสั่งอาหารขึ้นมา ประกอบด้วย ข้าวผัดไข่ดาว 6 จาน / ต้มยำกุ้ง 4 ถ้วย / ผัดผัก 3 จาน และ มีน้ำปลาพริก / แต่ยังไม่ได้รับประทาน / มีแค่เปิดพลาสติกซีลอาหารไว้แค่ 1 ชุดเท่านั้น ส่วนแก้วน้ำในห้อง พบ ร่องรอยดื่มเครื่องดื่ม ก้นภาชนะพบเศษผงไม่ทราบชนิด ตกตะกอนอยู่ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบ

ตร.ยังไม่ฟันธงถูกวางยา เร่งหาบุคคลที่ 7 คลี่คดี

จากนั้น ช่วง 20.40 น. พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พร้อมตั้งโต๊ะแถลงเหตุการณ์ ร่วมกับ พลตำรวจโทธิติ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล โดย พลตำรวจโท ธิติ บอกว่า ห้องที่เกิดเหตุ ต้องเช็กเอาท์ในช่วงบ่าย แต่ไม่ได้เช็กเอาท์ พอแม่บ้าน เข้าไปทำความสะอาด จึงเจอศพภายในห้องดังกล่าว อยู่ที่โซนรับแขก 4 ศพ ห้องนอน 2 ศพ ทั้งหมด เดินทางมาเช็กอินที่โรงแรมไม่พร้อมกัน โดยมาวันที่ 13 กรกฎาคม 1 ชุด / 14 กรกฎาคม อีก 1 ชุด พักอยู่ที่ชั้น 7 ของโรงแรม 4 ห้อง และ ชั้น 5 อีก 1 ห้อง รวมเป็น 5 ห้อง และ มีพิรุธ คือ พบการแจ้งจอง 7 คน แต่เช็กอินไว้ 5 คน กลับพบศพ 6 คน / อีกทั้งผู้พัก 4 ห้องที่อยู่ชั้น 7 ได้เก็บกระเป๋าไปรวมไว้ที่ห้องชั้น 5 / แปลว่า ทั้งหมด ต้องรู้จักกัน เชื่อว่าทั้งหมดเสียชีวิตหลังเวลา 13.53 น.

ส่วนเครื่องดื่มภายในแก้วถูกดื่มทั้งหมด มีเศษตกค้างบนถ้วย และในห้องน้ำพบกระปุกชาที่ซื้อมา ลักษณะคล้ายชาอู่หลง พร้อมน้ำเกลือแร่ 1 ขวด น้ำเปล่า 1 ขวด ทั้งสามชิ้นถูกเปิดใช้แล้ว ฝ่ายตรวจพิสูจน์หลักฐาน จะพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้ง

จากการสอบถาม แม่บ้าน พบว่า ประตูถูกล็อกจากด้านใน ต้องเข้าไปทางประตูหลัง ในห้อง ข้าวของยังอยู่เป็นปกติ ไม่มีถ้วยชามแตก ไม่พบร่องรอยหรือบาดแผลจากการต่อสู้

ฝ่ายสืบสวน อยู่ระหว่างตรวจสอบหา บุคคลที่ 7 ว่า เดินทางเข้ามาประเทศไทยจริงหรือไม่ หากไม่มีเข้ามา ต้องหามูลเหตุจูงใจ ในครั้งนี้ เบื้องต้น คาดว่า ทั้งหมด ไม่ได้ทำร้ายตัวเอง แต่ถูกคนอื่นทำให้เสียชีวิต โดยมีรายเดียวที่มีบาดแผลบนใบหน้า สันนิษฐานว่า น่าจะล้มฟาดโดนวัสดุแข็ง

ส่ง พฐ.พิสูจน์ ขวดสเตนเลสต้องสงสัย 2 ขวด

พลตำรวจโท ธิติ บอกด้วยว่า ตำรวจกำลังไล่ตรวจสอบ กล้องวงจรปิด ตั้งแต่ลงเครื่องบิน จนถึงโรงแรม
แล้วนำไทม์ไลน์มาสรุปอีกครั้ง และ รอตรวจกระเป๋า รอยนิ้วมือ รอยเลือด บนพื้นห้องทั้งหมด พร้อมยืนยัน ยังไม่ได้ตั้งประเด็นว่า ถูกวางยา แต่มีบุคคลคนหนึ่ง ประสงค์ต่อชีวิต จะด้วยวิธีการใดนิติวิทยาศาสตร์จะเป็นคนบอก พร้อมด้วยพยานหลักฐาน ที่นำมาเชื่อมโยงกัน ส่วนคนร้าย จะหนีทางไหน ต้องดูต่อว่า ทางที่จะเดินมายังลิฟต์ มีกี่ทาง

ตอนนี้ กำลังตามหาบุคคลที่ 7 เพราะตัวเลขไม่ตรงกันกับที่เช็กอินไว้ และให้ทางสถานทูตตรวจสอบว่า ทั้งหมด ทำอาชีพอะไร มีจุดประสงค์อะไรในการเดินทางเข้ามายังประเทศไทย โดย ที่เกิดเหตุมีวัตถุต้องสงสัยสองชิ้น เป็นขวดสเตนเลส สองขวด ไม่ใช่ของทางโรงแรม แต่อยู่ในห้องพัก และจากรูปถ่าย เล็บมือ เล็บเท้า ผู้เสียชีวิต มีลักษณะดำคล้ำ แต่อาจเกิดจาก เสียชีวิตมา 24 ชั่วโมงแล้วก็ได้ ต้องรอผลชันสูตรพลิกศพอีกครั้ง ว่าเกิดจากพิษหรือไม่

นายกฯ แถลงด่วน คดีสะเทือนขวัญฆาตกรรมหมู่ 6 ศพกลางกรุง

จากนั้น ช่วง 21.30 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี ก่อนเปิดเผยว่า นี่เป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ที่เกิดเหตุ ไม่มีการชิงทรัพย์ หรือ ประทุษร้ายเกิดขึ้น สันนิษฐานเบื้องต้น ว่าได้รับประทานอะไรเข้าไปหรือไม่ ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวการปล้นทำร้าย อาจมีคนเวียดนามอีกคนเกี่ยวข้อง แต่ยังหาตัวไม่เจอ และเรื่องนี้ไม่ กระทบต่อการท่องเที่ยว

"อนุทิน" รุดตรวจพื้นที่เกิดเหตุนักท่องเที่ยวเสียชีวิต 6 ราย

ขณะที่ช่วงดึก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มาที่เกิดเหตุเช่นกัน พร้อมบอกว่า ยังไม่มีผลสรุปอย่างเป็นทางการ ต้องรอตำรวจแถลงอีกครั้ง เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ที่ถือว่าสะเทือนขวัญ ต้องรอให้ข้อมูลนิ่งก่อน ส่วนจะทำให้ภาพลักษณ์ ประเทศไทยเสียหายหรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า เรื่องนี้ประเทศไทย ไม่ได้มีอะไรเสียหาย ผู้เสียชีวิตก็เป็นนักท่องเที่ยวเข้ามา และ ไม่ได้ถูกคนไทยทำร้าย ต้องแยกแยะ ประเทศไทย กำลังมีนักท่องเที่ยวเข้ามา กำลังสร้างรายได้ให้อย่างมหาศาล ขออย่าพึ่งไปด่วนสรุป อย่าตื่นตระหนก

ขณะที่ เจ้าหน้าที่ร่วมกตัญญู กว่า 20 นาย ได้นำ รถกู้ภัย 6 คัน เข้าเคลื่อนย้าย ร่างผู้เสียชีวิต ส่งไปชันสูตร ที่นิติเวชโรงพยาบาลจุฬาแล้ว พร้อมกันนี้ ได้นำกระเป๋าเดินทาง ของผู้เสียชีวิตทั้งหมด ไปไว้ที่ สน.ลุมพินี เพื่อให้เจ้าหน้าที่ ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

ทีมข่าว ได้พูดคุยกับ คุณโบ๊ท วิบูลย์นันท์ อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู บอกว่า สภาพศพ ทั้ง 6 คน คล้ายกัน คือ มีเลือดออกบริเวณตา หู จมูก และ ปาก หรือ ตามทวารทั้งหมด จากประสบการณ์ น่าจะมาจากการถูกวางยาพิษ หรือ ดื่มกินยาพิษเข้าไป แต่ทั้งนี้ ข้อมูลเชิงลึก ต้องรอเจ้าหน้าที่ ตรวจสอบอีกครั้ง