ตร.เร่งคลี่ปมนักท่องเที่ยว ชาวเวียดนาม ดับยกก๊วน 6 ศพ ในโรงแรมดัง ย่านราชประสงค์ ล่าสุดพบคนที่ 7 แล้ว ซึ่งเป็นหญิงชาวเวียดนาม ที่เดินทางมาพร้อมกับ พี่สาววัย 47 ปี แต่เธอเดินทางกลับในวันที่ 10 ก.ค. ก่อนพี่สาวถูกวางยา พร้อมเพื่อนเชื้อชาติเดียวกันอีก 5 ราย ในโรงแรม คาดปมเหตุเกิดจากหนี้สิน
พลตำรวจตรีธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งจากการสืบหาบุคคลที่ 7 หลังมีข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุสลด มีการแจ้งเข้าพักในโรงแรม 7 ราย แต่พบผู้เสียชีวิต 6 ราย ล่าสุดสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง พบเบาะแสบุคคลที่ 7 พบแล้ว คาดว่าเป็นน้องสาวของ 1 ใน 6 คนที่เสียชีวิต ตอนนี้ได้ทราบชื่อทั้งหมด 7 คนแล้ว และคนที่ 7 คนนี้ได้บินกลับประเทศไปตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เบื้องต้นสันนิษฐานว่าน่าจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต
การเสียชีวิตในครั้งนี้เกิดจากบุคคล 1 ใน 6 ที่เสียชีวิต เป็นผู้กระทำให้คนวางยาทั้งหมด ก่อนจะเสียชีวิตเป็นรายสุดท้าย โดยมีสาเหตุมาจากปมหนี้สิน หลังเจ้าหน้าที่เรียกลูกสาวของหนึ่งในผู้เสียชีวิตมาสอบสวน เนื่องจากตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้วไม่พบบุคคลอื่นเดินทางเข้าออกห้องนี้ สำหรับมูลเหตุจูงใจ พบว่าผู้ก่อเหตุ เป็นหนี้หลักล้าน หลังจากได้ทำการกู้หนี้ยืมสิน ส่วนประเด็นความขัดแย้งอื่น ๆ นั้นยังไม่มี
ส่วนสารที่ใช้ผสมในเครื่องดื่มนั้น ยังไม่สามารถระบุได้ว่า เป็นสารชนิดใด มีรายงานจากกองพิสูจน์หลักฐาน ว่า มันคือสารที่คล้ายกับไซยาไนด์ แต่มีฤทธิ์ที่แรงกว่า ไซยาไนด์มาก ส่งผลทำให้เสียชีวิตแบบเฉียบพลัน
ต่อมา พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการ สพฐ. กล่าวว่า จากการตรวจวัตถุพยานทั้งหมด ขณะนี้ผลการตรวจสอบในเบื้องต้นของของเหลวลักษณะคล้ายกาแฟดำ ในกระบอกน้ำสเตนเลส 1 ใน 2 กระบอก ที่พบในที่เกิดเหตุ ซึ่งผู้เสียชีวิตได้นำมาเองไม่ได้เป็นของโรงแรมนั้น พบว่า มีสารพิษปนอยู่ในกาแฟ ส่วนเป็นสารพิษชนิดใดขอแจ้งกับชุดสืบสวนก่อนจะแถลงข่าวอีกครั้ง ส่วนมีความรุนแรงถึงขั้นทำให้เสียชีวิต และมีปริมาณสารพิษมากน้อยแค่ไหนนั้น ขอยังไม่เปิดเผย เพราะจะรอข้อมูลทั้งหมด และจะมีการแถลงข่าวรายละเอียดทั้งหมดอีกครั้ง