จากกรณีเมื่อเวลา 08.10 น. วันที่ 13 กรกฎาคม 2567 ร.ต.ท.โกศล พุ่มนวล ร้อยเวร สภ.ปากพะยูน จ.พัทลุง รับแจ้งจากพลเมืองดีมีคนร้าย 2 คนขี่รถรจักรยานยนต์ใช้อาวุธปืนยิง นายพงศ์ธนา หรือ สท.แทน อายุ 41 ปี เป็นสมาชิกเทศบาลตำบลดอนทราย อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง และเป็นเจ้าของร้านรับซื้อน้ำยางในพื้นที่ ได้รับบาดเจ็บ โดยขณะที่คนร้ายบุกยิง สท.แทน ได้มีนายกาญจน์ อายุ 52 ปี คนงานของร้านรับซื้อน้ำยางดังกล่าว ได้เข้ามารับกระสุนแทนเจ้านายจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา เบื้องต้นทางพ่อของ สท.แทน คาดว่าน่าจะเกี่ยวกับการขัดแย้งการเมืองท้องถิ่น นั้น




จนกระทั่งเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 9 ตามจับกุมตัวผู้บงการและคนลงมือยิงได้แล้ว 2 ราย ขณะหลบหนีเข้ากรุงเทพมหานคร ทราบชื่อคือนายสุพัฒน์ อายุ 57 ปี อดีตนายกเทศบาลตำบลป่าบอน อ.ป่าบอน จ.พัทลุง และลูกชายชื่อเล่น บิ๊ก มีบาดแผลถูกยิงเข้าบริเวณช่องท้อง อายุ 27 ปี ได้ที่บริเวณแยกปฐมพร จ.ชุมพร และนำตัว 2 พ่อลูกกลับจังหวัดพัทลุงเพื่อดำเนินคดี นั้น


ล่าสุดวันนี้ (17 กรกฎาคม 2567) ทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมายัง สภ.ปากพะยูน เพื่อติดตามการนำตัวผู้ต้องหา 2 พ่อลูก คือ นากยกพัฒน์ และนายเสฏฐวุฒิ หรือบิ๊ก ลูกชายนายกพัฒน์ ผู้ก่อเหตุ ใช้อาวุธปืนยิงถล่มนายพงศ์ธนา หรือ สท.แทน จนได้รับบาดเจ็บ และเป็นเหตุให้นายกาญจน์ ลูกน้องเสียชีวิต ที่ร้านรับซื้อน้ำยาง




โดยเมื่อช่วง 09.30 น. ที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มนักการเมืองท้องถิ่นบางส่วนเดินทางมาเข้าเยี่ยม 2 พ่อลูก ก่อนนำตัวไปฝากขัง ซึ่งทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับนายศักดิ์ชัย (นามสมมติ) หนึ่งในนักการเมืองท้องถิ่นที่เดินทางมาเยี่ยมทั้งคู่ โดยนายศักดิ์ชัย เผยว่า จากเรื่องที่เกิดขึ้นเชื่อว่านายกพัฒน์ไม่น่าจะเป็นคนจ้างวานให้ลูกชายไปก่อเหตุเช่นนี้ เพราะตลอดหลาย 10 ปี ที่ผ่านมา ทางนายกพัฒน์ช่วยเหลือและพัฒนาเมืองพัทลุงกับทุกภาคส่วนอย่างแข็งขันไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสีย จนได้รับการไว้วางใจจากชาวบ้านพอสมควร


ทำให้ตนมองว่า ด้วยความที่นายบิ๊ก ลูกชายที่เป็นคนก่อเหตุ นิสัยส่วนตัวเป็นคนอารมณ์ร้อนและดื้อรั้นพอสมควร ในช่วงนี้ก็ใกล้จะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นแล้ว อาจจะได้ยินว่าอีกฝั่งพูดจาดูถูกถากถางพ่อของตัวเอง ที่ก่อนหน้านี้ก็เพิ่งเลือกตั้งแพ้มาจากที่อื่น แต่จะมาลงเลือกตั้งแข่งกับบ้านใหญ่ของที่นี่อีก ลงไปก็แพ้อยู่ดี จึงเชื่อว่าเมื่อนายบิ๊ก ได้ยินเช่นนี้จึงเกิดอาการโมโห และก่อเหตุดังกล่าวขึ้นเพราะคิดว่า สท.แทน คงเป็นคนไปพูดแต่ในระหว่างลงมือก่อเหตุดันถูกยิงเจ็บ และด้วยความที่นายกพัฒน์ เป็นพ่อของนายบิ๊ก จึงต้องช่วยลูกชายพาไปรักษาและหนีด้วย ก่อนถูกจับกุมพร้อมกัน




ต่อมาเมื่อเวลา 11.30 น. ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัว 2 พ่อลูก ออกจากห้องขังเพื่อนำไปส่งศาลจังหวัดพัทลุง โดยในระหว่างนำตัว 2 พ่อลูกออกมา ทีมข่าวช่อง 8 ได้พยามสอบถามว่าเหตุผลในการก่อเหตุครั้งนี้คืออะไรกันแน่กับทั้งคู่ โดยทางนายกพัฒน์ พูดเพียงคำว่า “ไม่” พร้อมกับทำมือส่ายไปส่ายมา เป็นสัญลักษณ์ของการปฏิเสธ ส่วนนายบิ๊ก ลูกชายผู้ก่อเหตุ เอาแต่ก้มหน้าก้มตา ปิดปากเงียบไม่ตอบอะไรทั้งนั้น ก่อนที่จะขึ้นรถของทางเจ้าหน้าที่และออกไปจากโรงพัก เพื่อไปยังศาลจังหวัดพัทลุงทันที




จากนั้นทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมาพบกับนางอรอุมา อายุ 34 ปี ภรรยาของ สท.แทน ผู้บาดเจ็บ โดยนางอรอุมา เผยว่า ถึงตอนนี้ทางครอบครัวของตนรวมไปถึง สท.แทน สามี ก็ยังงงและสงสัยกันว่าทำไมนายกพัฒน์ และลูกชาย ต้องมาเล่นงานสามีตนด้วย เพราะยืนยันได้เลยว่าไม่เคยมีปัญหาระหว่างกันมาก่อนแน่นอน หากถามว่ารู้จักกันไหม ก็ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว




แค่รู้ว่าเป็นนักการเมืองท้องถิ่นเช่นกัน เจอหน้ากันตามงานแต่งงานศพก็กมือไหว้ตามประสาคนเคารพผู้อาวุโส และก็ไม่อยากจะถามเหตุผลว่าทำไปทำไม เพราะตำรวจจับตัวมาดำเนินคดีแล้ว แต่เพียงตอนนี้ยังคงเป็นห่วงความปลอดภัยของคนในครอบครัวอยู่ ว่าอาจจะมีผู้ไม่หวังดีกลับมาก่อเหตุอีกก็เป็นได้ ส่วนนายกาญจน์ ลูกน้องผู้เสียชีวิต ตอนนี้ก็ยังไม่สามารถติดต่อญาติได้เลยสักคน แต่ถึงแม้จะติดต่อไม่ได้ทางตนก็พร้อมจะทำบุญไปให้ตลอดไป




อย่างไรก็ตาม จากการสืบทราบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่า หลังเกิดเหตุนายบิ๊ก ลูกชายนายกพัฒน์ถูกยิงสวนได้รับบาดเจ็บ ระหว่างทางหลบหนีได้โทร. ให้พ่ออดีตนายกมารับ ก่อนพ่อได้ขับรถเก๋งสีดำมารับ แล้วนำตัวขึ้นรถ ก่อนนำตัวลูกชายที่ได้รับบาดเจ็บไปพักรักษาตัวที่บ้านญาติในพื้นที่ บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ สงขลา แล้วถัดมาอีก 1 วันได้นำตัวลูกชายไปบ้านลูกสะใภ้ที่ อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช แล้วได้สับเปลี่ยนรถจากรถเก๋งเป็นรถกระบะก่อนทั้ง 2 ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบภาค 9 จับได้ดังกล่าว

 

การเมืองท้องถิ่นระอุ! "ลูกนายกพัฒน์" ยิงถล่ม สท.แทน