จากกรณีที่เด็กหญิง อลิส วัย 3 ขวบ หายไปจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านค้อ ตำบลคอนกาม อำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ ก่อนพบจมน้ำเสียชีวิตอยู่ในสระน้ำกลางทุ่งนา ระยะห่างจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ไปประมาณ 800 เมตร เมื่อเวลา 12.40 น. ของวันที่ 14 มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งพ่อแม่ยัน ไม่ปักใจเชื่อลูกตนเองเดินไปยังจุดเกิดเหตุ นั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.พิษณุ วัตถุ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีดังกล่าวว่า ขณะนี้ได้แบ่งการสอบสวนออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1 คือการสอบสวนพยานบุคคล และพยานแวดล้อมต่าง ๆ ทั้งผู้ปกครอง และเด็กที่สามารถสอบปากคำได้บางคนและดำเนินการสอบพยานไปแล้ว แยกเป็นเด็กจำนวน 9 ปาก ผู้ปกครอง 19 ปาก นักจิตวิทยา 3 ปาก และพยานแวดล้อมต่าง ๆ 10 ปาก
ส่วนที่ 2 คือเรื่องของผลการตรวจนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งตอนนี้จากโรงพยาบาลศรีสะเกษ ทางแพทย์ ยืนยันว่า เด็กเสียชีวิตจากการจมน้ำ ส่วนที่ส่งไปตรวจที่โรงพยาบาลตำรวจนั้น ในขณะนี้ผลการตรวจยังไม่แล้วออกมา คาดว่าน่าจะเร็ว ๆ นี้ ประมาณไม่เกิน 2 สัปดาห์ จะสามารถรู้ผลได้ ส่วนเรื่องของวัตถุพยาน ไม่ว่าจะเป็นรองเท้า ผ้าอ้อมสำเร็จรูป กางเกง ตอนนี้ส่งตรวจที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน ซึ่งผลตรวจน่าจะออกมาในระยะเวลาที่ใกล้เคียงกัน
และในส่วนของน้ำในปอดของน้องอลิส ได้มีการเก็บผลเพื่อประสานทำการตรวจแล้ว ซึ่งเป็นการตรวจไดอะตอมที่ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง อาจต้องใช้เวลามากหน่อย เนื่องจากทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้มีผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ และต้องทำการส่งตรวจไปยังสถาบันตรวจแห่งอื่น ซึ่งจากที่ดูขณะที่การสอบสวนพยานหลักฐานในเรื่องของบุคคล ตนมองว่า น่าจะเพียงพอแล้ว รอเพียงผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ วัตถุพยาน ก็สามารถที่จะสรุปสำนวนได้
วันนี้ ทีมข่าวช่อง 8 ยังคงไปติดตามกรณีดังกล่าว ในพื้นที่บ้านค้อ ตำบลคอนกาม อำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ โดยตามรายงานวันนี้ ตำรวจ สภ.ยางชุมน้อย ได้นัดหมายทางพ่อแม่น้องอลิส ให้ไปรับทราบผลชันสูตรอย่างละเอียดจากโรงพยาบาลตำรวจ
แต่ปรากฏว่าเมื่อเวลา 07.30 น. ทางตำรวจ สภ.ยางชุมน้อย ได้มีการโทรศัพท์มาแจ้งพ่อกับแม่ของน้องอลิส ว่าผลชันสูตรจากโรงพยาบาลตำรวจยังไม่มา โดยทางตำรวจ สภ.ยางชุมน้อย พยายามเร่งขอผลชันสูตรไปทางโรงพยาบาลตำรวจแล้ว แต่ทางโรงพยาบาลตำรวจแจ้งมาว่าผลชันสูตรอย่างละเอียดยังไม่แล้วเสร็จ และยังไม่ทราบกำหนดว่าผลชันสูตรจะออกวันไหน
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางพุทธมาลย์ และนายปริญญา แม่และพ่อของน้องอลิส เปิดเผยว่า วันนี้ตั้งใจจะเดินทางไปรับผลชันสูตรอย่างละเอียดที่ สภ.ยางชุมน้อย ตามเวลาที่ตำรวจนัดก็คือช่องเวลา 10.00 น. แต่ปรากฏว่าประมาณ 07.30 น. ทางตำรวจได้โทรศัพท์มาแจ้งว่าผลชันสูตรยังไม่ออกไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปที่โรงพัก ซึ่งแม่กับพ่อก็ย้อนถามกับตำรวจว่า ทำไมถึงเลื่อนแล้วเลื่อนอีก โดยตำรวจก็โทรศัพท์มาแจ้งอีกครั้งตอนประมาณ 10.00 น. ว่าทางโรงพยาบาลตำรวจยังไม่มีกำหนดว่าจะส่งผลชันสูตรมาเมื่อไร ซึ่งทางครอบครัวข้องใจการทำงานของตำรวจ เพราะที่ผ่านมาหลังจากสื่อออกไปจากพื้นที่ ตำรวจไม่เคยแจ้งความคืบหน้าทางคดีกลับมาทางครอบครัวเลย ซึ่งถ้าทางครอบครัวไม่โทร. ไปตาถามตำรวจก็ไม่บอกอะไรเลย
ส่วนกำหนดการวางเงินของครูทั้ง 3 คน ในวันที่ 5 สิงหาคม เท่าที่ทราบครูน้อยกับครูปูเป้ พร้อมที่จะนำเงินไปวางตามวันเวลาที่กำหนด ซึ่งตัวครูน้อยก็เข้ามาที่บ้านและให้ความร่วมมือทุกอย่าง หากทางครอบครัวอยากได้เอกสารเกี่ยวกับน้องอลิส แต่ครูหนุ่ยตั้งแต่วันที่เข้ามานั่งร้องไห้ ยังไม่เคยเข้ามาที่บ้านหลังจากวันนั้น
โดยเรื่องที่ทางครอบครัวต้องการให้ครูหนุ่ยวางเงินจำนวน 2 แสนบาท ทางครอบครัวยังยืนยันว่าครูหนุ่ย ต้องวางเงินเต็มจำนวนดังกล่าว และจะไม่ยอมรับเงินหากครูหนุ่ย นำเงินมาวาง 1 แสนบาท เท่ากับครูน้อยและครูปูเป้ ส่วนเรื่องคดีทางครอบครัวยังเชื่ออยู่เหมือนเดิม ว่าน้องอลิสไม่มีทางเดินไปจมน้ำเองได้ ถ้าหากนายตำรวจที่รับผิดชอบคดีฟังอยู่ ก็อยากจะวอนขอให้ตำรวจเข้ามาแจ้งความคืบหน้ากับครอบครัวบ้าง ยืนยันไม่ว่าผลจะออกมายังไงทางครอบครัวก็น้อมรับ
ขณะเดียวกันบรรยากาศที่บ้านของน้องอลิส เมื่อช่วงเที่ยงทางครูน้อยได้นำเอกสารเกี่ยวกับน้องอลิส สำหรับการสมัครเรียนและเอกสารที่ทางศูนย์พัฒนาฯ ทำประกันไว้ให้ เข้ามาให้กับทางครอบครัวของน้องอลิส เพื่อนำไปเบิกเงินประกันที่ทำไว้ ซึ่งทางครอบครัวของน้องอลิส พูดคุยกับครูน้อยตามปกติ และตามข้อมูลทางครูน้อยเป็นครูคนเดียวที่ให้ความร่วมมือกับทางครอบครัวของน้องอลิสทุก ๆ เรื่อง
จากนั้นในขณะที่ครูน้อย กำลังเดินกลับไปขึ้นรถ ทีมข่าวก็ถามว่ายังกังวลเรื่องอะไรอยู่บ้างหรือไม่ ซึ่งครูน้อยไม่ขอตอบคำถามเรื่องคดี เพราะที่ผ่านมาให้สัมภาษณ์ไปหมดแล้ว ส่วนเรื่องเงินที่ต้องนำไปวางจำนวน 1 แสนบาท ทางครูน้อย บอกว่าตอนนี้หาเงินได้บางส่วนแล้วแต่ยังไม่ครบ 1 แสน ซึ่งครูน้อย คาดว่าจะหาเงินได้ครบตามจำนวนและทันวันเวลาที่ตำรวจนัดให้นำเงินเข้าไปวาง ซึ่งเรื่องคดีทางครูน้อย ไม่ได้กังวลอะไร มีเรื่องที่กังวลเรื่องเดียวคือเรื่องเงินที่ต้องหาให้ครบ ส่วนเรื่องครูหนุ่ย ทางครูน้อย ไม่ได้คุยกับครูหนุ่ยเลย เพราะครูน้อยต้องเข้าไปดูแลเด็กที่มาเรียนทุกวัน