จากกรณีที่ “เอก สายเต๊าะ” มีพฤติกรรมก่อกวนลูกบ้านในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ย่านซอยเทิดราชัน 17 เขตดอนเมือง เนื่องจากไม่พอใจหลังถูกดีดออกจากกลุ่มไลน์ของหมู่บ้าน โดยเอาคืนด้วยการจอดรถทางเข้า-ออก และส่งเสียงดังในหมู่บ้านยามวิกาล อีกทั้งยังมีวีรกรรมอีกเพียบรวมถึงคลิปทำท่าเตะนักข่าว จนกระทั่งเพื่อนบ้านจำนวนไม่ต่ำกว่า 30 คน รวมตัวกันเพื่อนำป้าย “ประกาศขายบ้านด่วน” 15 แผ่นป้าย มาติดไว้ที่หน้าบ้านของตัวเอง เนื่องจากทนไม่ไหวกับพฤติกรรมของ เอก สายเต๊าะ รวมไปถึงไม่พอใจกับการแก้ปัญหาของนิติบุคคลและโครงการหมู่บ้าน


โดยต่อมา เอก สายเต๊าะ เดินออกมาจากบ้าน มาเผชิญหน้ากับคนในหมู่บ้านพร้อมกับถือกล้อง live สดไปด้วย พร้อมกับบอกว่า “ถ้าอยากให้ออกจากบ้านหลังนี้ก็มารับซื้อเลย 15 ล้านบาท” ทำให้ชาวบ้านตะโกนโห่ไล่จนทำให้ เอก สายเต๊าะ เดินเลี่ยงหนีออกไป พร้อมกับหันมายิ้มเยาะเย้ยให้กับลูกบ้านคนอื่น ๆ แล้วกลับบ้านไป นั้น




ล่าสุด (20 ก.ค. 2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาลกว่า 30 นาย พร้อมฝ่ายสืบสวนสถานีตำรวจนครบาลดอนเมือง นำหมายค้นศาลอาญาถูกตรวจค้นบ้าน "เอก สายเต๊าะ" ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ภายในซอยเทิดราชัน 17 เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร หลังพบหลักฐานว่า "เอก สายเต๊าะ" ไลฟ์สดโชว์อาวุธปืน รวมถึงอาวุธมีด ลักษณะคล้ายการข่มขู่คนในหมู่บ้าน เมื่อตำรวจได้อ่านหมายนายเอกได้มีท่าทีขึงขังไม่ยอมให้เข้า




โดย "เอก สายเต๊าะ" อยู่ในสภาพใส่เสื้อสีเหลือง นุ่งกางเกงขายาว ก่อนจะให้เข้าตรวจค้นภายในบ้าน อีกทั้งบริเวณหน้าบ้านมีเอกสารถูกฉีกกระจัดกระจายของพนักงานรักษาความปลอดภัย ที่มีปัญหากับนายเอกเมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจจึงได้เชิญตัวพนักงานรักษาความปลอดภัย มาตรวจสอบทรัพย์สินที่นายเอกได้ทำเสียหาย จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำนายเอกเข้าไปตรวจค้นบริเวณชั้น 2 พกอาวุธปืนยาวติดลำกล้อง เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่าเป็นปืนอัดลมอยู่ในสภาพไม่พร้อมใช้งาน เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน


นอกจากนี้จากการตรวจค้นบริเวณจุดอื่นภายในบ้านยังพบมีดหัวตัดอีก 1 เล่ม ซึ่งตรงกับการไลฟ์สดของ "เอก สายเต๊าะ" ตำรวจจึงยึดไว้ทั้งหมดเพื่อเป็นหลักฐาน เอามาไว้บริเวณหน้าบ้าน แล้วได้สอบถามนายเอกว่าใช่ของตัวเองหรือไม่ ซึ่งนายเอกก็ยอมรับว่าเป็นของตัวเองจริง ขณะเดียวกันนายเอกได้หันไปเจอสื่อมวลชน ที่เคยมีปัญหากันมาก่อนที่ สน.ดอนเมือง ทำให้นายเอกไม่พอใจ มีท่าทีโวยวาย เจ้าหน้าที่ต้องเข้าห้ามปรามเพื่อสงบสติอารมณ์ ใช้เวลาเจรจาเกือบ 1 ชั่วโมง ก่อนเชิญตัวนายเอก มาที่สถานีตำรวจนครบาลดอนเมือง เพื่อบันทึกการตรวจคนและจับกุม แต่นายเอกไม่ยอมโดยง่าย ขอตำรวจดูฤกษ์ยามงามดีที่จะมาโรงพัก โดยไม่ยอมขึ้นรถกระบะของเจ้าหน้าที่จะขอขับรถไปโรงพักเอง ทั้งตำรวจและสื่อมวลชนก็ช่วยกันเกลี้ยกล่อมพูดคุยจน "เอก สายเต๊าะ" ยอมขึ้นเอารถกระบะมากับเจ้าหน้าที่




โดยจังหวะที่เจ้าหน้าที่ขับรถพา "เอก สายเต๊าะ" ออกมาจากหมู่บ้าน ชาวบ้านได้ปรบมือและโห่ร้องด้วยความดีใจ พร้อมเปิดเผย อยากให้ตำรวจดำเนินคดีถึงที่สุดและทุกข้อกล่าวหา และอยากให้ขังลืมไปเลย จากนั้นตำรวจได้นำตัวมาที่ห้องประชุมเพื่อเตรียมสอบปากคำนายเอก และแจ้งข้อกล่าวหา


ต่อมาเวลา 11.00 น. ที่ สถานีตำรวจนครบาลดอนเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวน สน.ดอนเมือง ได้คุมตัว "เอก สายเต๊าะ" ไปห้องสอบปากคำ หลังนำตัวมา สน.ดอนเมือง ใช้เวลานานถึง 3 ชั่วโมง โดยระหว่างควบคุมตัวนายเอกไปห้อง สืบสวนสอบสวน ไม่ได้มีท่าทีกังวลแต่อย่างใด และระหว่างนำตัว เอก สายเต๊าะ เดินลงมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ไม่มีความรู้สึกผิดแต่อย่างใด




เมื่อสื่อมวลชนถามว่ามีอะไรอยากพูดไหม นายเอกก็ตอบเพียงว่า "รักนะ จุ๊บุ๊ ๆ" พอถามว่าสำนึกผิดไหม นายเอกก็ตอบว่า "ผิดเรื่องอะไรก่อนครับ" และมองหน้าผู้ถาม นอกจากนี้ยังถามผู้สื่อข่าวว่า "พี่เป็นใครเนี่ย" พร้อมยืนยันว่า "ตนไม่เคยกลั่นแกล้งชาวบ้าน มีแต่เขามาแกล้งตนก่อน" โดยนายเอก ยืนยันว่า ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ใครที่ทำดี ตัวเองก็พร้อมที่จะทำดีตอบ ส่วนเรื่องที่ทำให้ประชาชนในหมู่บ้านได้รับความเดือดร้อนรำคาญ ยืนยันว่าตัวเองก็เป็นประชาชนคนหนึ่ง


สำหรับอาวุธมีด นายเอกไม่ขอตอบว่านำมาจากไหน พร้อมปฏิเสธเสียงแข็งว่าเมื่อช่วงเช้าไม่ได้ใช้มีดไล่ฟัน รปภ. หมู่บ้าน นายเอก กล่าวอีกว่า หลังจากถูกจับกุมในครั้งนี้ จะกลับไปทำพฤติกรรมเช่นเดิมหรือไม่ นายเอกปฏิเสธว่า ไม่ได้ทำอะไรผิด โดยระหว่างตำรวจคุมตัว นายเอกยังคงพูดจาลักษณะ วกไปวนมา ไม่ได้ใจความ โดยมีท่าทีไม่ได้สลดกับสิ่งที่กระทำ


เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการแจ้งข้อหาข้อหาชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธ กรณีนายเอกลักทรัพย์เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย โดยยึดเอกสารของ รปภ. มาฉีกทำลายทิ้งทั้งหมด และดึงเอากุญแจรถมอเตอร์ไซค์ออก ก่อนจะนำตัวไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป




ขณะที่ต่อมาตำรวจได้นำตัวนายเอก ออกจากห้องสืบสวนเพื่อมาสอบปากคำที่ห้องสอบสวน โดยนายเอกมีท่าทีสงบลง สามารถตอบคำถามสื่อมวลชนได้อย่างชัดเจน โดยกล่าวคำขอโทษกับประชาชน และยืนยันว่าจะปรับปรุงตัว ด้วยการไม่เสียงดัง ขอโทษที่ทำให้ชาวบ้านตกใจกลัวคำพูดของตนอาจจะรุนแรงไป จะไม่ขับรถเร็วในหมู่บ้าน และจะใช้คำพูดกับเพื่อนบ้านดี ๆ ในอนาคตจะทำได้หรือไม่ตนเองยังไม่รับปากแต่จะพยายาม แต่การออกมาโวยวายยอมรับว่าต้องการติเพื่อก่อ โดยอยากให้นิติบุคคลของหมู่บ้านออกมาปรับปรุงการทำหน้าที่ ส่วนการจะสำนึกผิดหรือไม่ ยืนยันว่าไม่สำนึกผิด เพราะไม่ได้ทำผิดอะไร ส่วนการนอนห้องขังถือเป็นเรื่องธรรมดา ไม่กังวล ทำผิดก็ต้องรับผิด ก่อนที่ตำรวจจะนำตัวนายเอก สายเต๊าะเข้าห้องควบคุมผู้ต้องขังทันที


ขณะที่ชุดสืบสวนยังได้คลิปวงจรปิดจากหมู่บ้านของ เอก สายเต๊าะ เป็นภาพที่ระหว่างนายเอกพยายามใช้มีดฟันรถเจ้าหน้าที่ รักษาความปลอดภัยคนหนึ่ง ที่ประจำอยู่ป้อมยามใกล้บ้านของนายเอก ก่อนที่จะชิงทรัพย์กระเป๋าสะพาน ซึ่งภายในมีกระเป๋าสตางค์และสมุดบัญชีของผู้เสียหาย เมื่อช่วง 04.00 น. ของวันนี้ (20 ก.ค.) ซึ่งระหว่างนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานและเตรียมที่จะแจ้งข้อกล่าวหากับนายเอกคือข้อหาชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธ




ในขณะที่ทีมข่าวเข้าไปอยู่ในหมู่บ้านที่เกิดเหตุ ปรากฏว่าเห็นบ้านพักหลายหลังที่ติดป้ายสีเหลืองประกาศขายบ้านพัก เพราะหลายหลังไม่อยู่ในโครงการดังกล่าวเนื่องจากในเอกเริ่มมีพฤติการณ์คุกคามลูกบ้านรายอื่น ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางสาวหวาย (นามสมมติ) เล่าว่า เหตุผลที่ตนเองประกาศขายบ้านพัก เนื่องจากรู้สึกว่าตนเองไม่ปลอดภัยถ้าหากจะอยู่ในโครงการนี้ต่อ ซึ่งนิติโครงการก็ไม่ทำอะไรเลยแม้ลูกบ้านจะมีการร้องเรียนถึงพฤติกรรมของนางเอก แต่ก็ยังมีท่าทีที่นิ่งเฉยต่อเหตุการณ์ดังกล่าว จึงตัดสินใจขายบ้านเพราะ 1. ไม่อยากเจอปัญหาเพื่อนบ้านแบบนี้อีกแล้ว 2. ไม่อยากหวาดระแวงเหตุการณ์แบบนี้ เพราะคนปกติคงไม่ถือมีดเดินไปทั่วหมู่บ้าน 3. นิติโครงการไม่ทำอะไรเลย


ภายหลังจากที่ตนติดประกาศขายบ้านพัก ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้นถูกนายเอกมากดกริ่งหน้าบ้านช่วงตี 5 เพื่อก่อกวนตน พร้อมตะโกนเรียกชื่อตน ว่าจะขายเท่าไรถ้า 1 ล้าน จะมาซื้อเลย โดยพฤติกรรมของนายเอกค่อนข้างก้าวร้าว หากมีคนในหมู่บ้านตักเตือนในกลุ่มไลน์ก็จะใช้ถ้อยคำหยาบคายตอบโต้กลับอย่างรุนแรงทันที ลักษณะหากใครไปต่อว่าหรือไปทำอะไรเจ้าตัวก็จะตอบโต้ประมาณสามเท่า ถึงเจ้าตัวจะบอกว่าเป็นคนตรงตรงแต่ลักษณะคำพูดที่ออกมาไม่สุภาพคล้ายกับยกสวนสัตว์มาด่าคนอื่น แล้วไม่ใช่ว่าทุกคนจะรับได้ต่อพฤติกรรมแบบนี้




ทั้งนี้เรายังได้รับการเปิดเผยคลิปวงจรปิดที่อยู่ในซอยบ้านพักเดียวกันกับนางสาวหวาย ซึ่งมีการติดป้ายประกาศขายบ้านเช่นเดียวกัน ในคลิปจะเห็นว่าในเอกถือก้อนหินก้อนใหญ่ที่มือแล้วเดินมาอยู่หน้าบ้านพักที่ประกาศติดป้ายขายบ้าน โดยเป็นเหตุการณ์เกิดขึ้นช่วง 08.59 น. ของวันที่ 19 กรกฎาคม ที่ผ่านมา


ต่อมาทีมข่าวได้โทร. สอบถามกับนายวุฒิ (นามสมมติ) เป็น รปภ. ของหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นคนเดียวกันกับที่ปรากฏในภาพนิ่งขณะที่ใส่ชุด รปภ. ของโครงการแล้วไปนั่งกินกาแฟในบ้านของนายเอก และยังปรากฏในไลฟ์สดของนางเอกที่เป็นคนหยิบมีดขณะที่ในอีกยื่นให้เพื่อฝากถือชั่วคราว


นายวุฒิ เผยว่า ตนเองต้องเจอแบบนี้บ่อย ถ้าหากว่าแข็งใส่นายเอกพวกตนก็อยู่ไม่ได้ ยืนยันเหตุการณ์ที่เข้าไปนั่งกินกาแฟภายในบ้านพักของนายเอกเพราะถูกบังคับ โดยนายเอกบอกว่าถ้าหากไม่เข้าไปนั่งจะฟันเบาะรถของลูกน้อง โดยอยากให้ลูกบ้านและสังคมเข้าใจหน้าที่รักษาความปลอดของลูกบ้านก็สำคัญ ชีวิตตัวเองก็สำคัญ แข็งกับนายเอกไปก็อยู่ยาก อ่อนเกินคุยดีไปก็หาว่าเป็นลูกน้อง




แม้กระทั่งเมื่อวานนี้ตอนที่นายเอกกลับมาที่บ้านพัก ตอนที่เขาขับรถออกจากโครงการขับผ่านประตูโครงการที่บริเวณหน้าหมู่บ้าน แต่ตอนกลับมีการขับเข้ามาที่ประตูหลังหมู่บ้านซึ่งถูกล็อกไว้และปิดสนิท ซึ่งยังได้บังคับให้ตนเป็นคนไขกุญแจประตูหลังเพื่อให้นายเอกเข้ามาในหมู่บ้าน ยืนยันว่าตนเป็น รปภ. ที่เฝ้าอยู่หน้าบ้านพักของเอกเพื่อดูความเคลื่อนไหวของเอกและเพื่อรักษาความปลอดภัยของคนในหมู่บ้าน ไม่ได้มาดูแลรักษาความปลอดภัยเฉพาะของนายเอกเท่านั้น




ต่อมาทีมข่าวยังได้หลักฐานวงจรปิดเพิ่มบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านโครงการเดียวกันกลับนายเอกส่งมาให้เป็นหลักฐาน เนื่องจากทนพฤติกรรมของนายเอกไม่ไหว เพราะนายเอกยังไปคุกคามลูกบ้านในโครงการเดียวกันที่ประกาศขายบ้านเพื่อหนีนายเอก โดยกล้องวงจรปิดวันที่ 18 กรกฎาคม จะเห็นนายเอกเดินเข้าไปยังประตูรั้วเพื่อนบ้านที่ติดป้ายขายบ้านเพื่อหนีตนเอง จากนั้นถ่ายป้ายพร้อมกับไลฟ์สดเรื่องเพื่อนบ้านประกาศขายบ้าน


กล้องวงจรปิดวันที่ 19 กรกฎาคม ช่วง 05.49 น. นายเอกเดินเข้าไปในซอยแห่งหนึ่งในโครงการ พยายามหากริ่งหน้าบ้านเพื่อกดให้เพื่อนบ้านออกมา แต่ปรากฎว่าไม่ทีกริ่ง เจ้าตัวเลยตะโกนถามว่า “ไหนมีใครอยู่บ้านไหมบอกกูด้วย กูจะบอกเพื่อนมาซื้อ ขายเท่าไรจ๊ะ จะหาเพื่อนมาซื้อ”

 

จับยัดกรง "เอก สายเต๊าะ" เพื่อนบ้านโล่ง แฉก่อนโดนรวบถาม "ขายบ้านกี่บาท?"