ความคืบหน้าจากเหตุการณ์ที่ นายคุน ชิน มัน อายุ 34 ปี ช่างทาสี ชาวเมียนมาถูกแทงเสียชีวิต บริเวณซอยด้านหลังศูนย์การค้าชื่อดังแห่งหนึ่งย่านแฮปปี้แลนด์ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ เมื่อช่วงเย็นวานนี้ ต่อมาหลังเกิดเหตุทราบชื่อผู้กระทำความผิด คือ นายเอกอิสระ อายุ 27 ปี ซึ่งทางตำรวจสนลาดพร้าวกำลังเร่งติดตามตัวนำมาดำเนินคดีให้ได้
ล่าสุดทีมข่าวได้ตรวจสอบกับ พ.ต.อ.ธนาพันธ์ ผดุงการ ผกก. สน.ลาดพร้าว เปิดเผยว่า นายเอกอิสระ ผู้ที่ก่อเหตุได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สน.ลาดพร้าว แล้วช่วงเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ตัวผู้ก่อเหตุยังอยู่ในห้องสืบสวนอยู่ระหว่างการสอบปากคำ ถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและมูลเหตุในการก่อเหตุว่ามาจากสาเหตุใด
ต่อมาทีมข่าวได้สอบถามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลาดพร้าว ทราบว่า หลังจากที่ผู้ต้องหาขอเข้ามอบตัวกับตำรวจ สน.ลาดพร้าว โดยจากการรับสารภาพผู้ต้องหาอ้างว่าระหว่างขับรถจักรยานยนต์มา ถูกกลุ่มผู้ตายขับรถจักรยานยนต์ปาดหน้าโดยไม่ยอมลงมาขอโทษ หลังจากนั้นจึงเกิดมีปากเสียงกัน จนกระทั่งเกิดเหตุทะเลาะวิวาทชกต่อยกัน เเล้วผู้ต้องหาสู้ไม่ได้เพราะตัวเล็กกว่า
ด้วยความโมโหผู้ต้องหาอ้างว่า ได้คว้าอาวุธมีดที่พกติดตัวมาอยู่ก่อนแล้วแทงผู้ตาย 2 ครั้ง หลังจากนั้นจึงขับรถหลบหนี ก่อนที่ช่วงเช้ามืดของวันนี้ผู้ต้องหาจะติดต่อเขาขอเข้ามอบตัว โดยเดินทางมาพร้อมแฟนสาว เเละของกลางคือ อาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุ โดยไม่ได้ขี่รถจักรยานยนต์คันที่ก่อเหตุมา ขณะนี้ตำรวจกำลังอยู่รวบรวมพยานหลักฐานในการพิจารณา เพื่อขอศาลออกหมายจับแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป โดยเบื้องต้นจะเเจ้ง 2 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและพกพาอาวุธมีด
นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้คลิปในห้องสืบสวน เป็นช่วงที่นายเอกอิสระ รับสารภาพกับตำรวจว่า เมื่อวานนี้ฝ่ายผู้ตาย อยู่ในอาการมึนเมาและเดินตัดหน้ารถจักรยานยนต์ของตนกำลังเลี้ยวเข้าซอย เนื่องจากตนเองพักอยู่ในละแวกนั้น โดยตอนแรกตนมาจากทางแฮปปี้แลนด์สาย 1 เลยจุฬาฯ และกำลังจะเลี้ยวซ้ายเข้าซอย ซึ่งตอนนั้นฝนตกถนนลื่นทำให้ล้อรถของตนปัด แต่ฝ่ายผู้ก่อเหตุทั้งสองคนก็เดินมึนไม่รู้เรื่อง จนตนตะโกนถามไปว่า "ไม่คิดจะขอโทษหน่อยเหรอ" หลังจากนั้นทั้งสองคนก็เดินต่อไป
ต่อมาตนก็ขับรถไปซื้อน้ำแข็งที่ร้านค้า หลังจากนั้นก็เห็นว่าฝ่ายผู้ตายทั้งสองคนเดินอยู่บริเวณหน้าร้านค้า ตนจึงตะโกนถามอีกครั้งว่า "ไม่คิดจะขอโทษกันหน่อยเหรอ รู้เรื่องไหมว่าเมื่อกี๊เดินตัดหน้ารถ" ตนยอมรับว่าตอนแรกโมโห นายตัน (สวมเสื้อแดง เพื่อนผู้ตาย) ส่วนผู้ตายที่สวมเสื้อสีขาวไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เลย แต่ตอนนั้นตนไม่รู้และได้ลงมือไปแล้วก่อนจะกล่าวขอโทษ
หลังจากนั้นตนก็ชักมีดออกมาและกำลังชักมีดออกมาขู่ ซึ่งตอนนั้นตนก็ไม่รู้ว่าฝ่ายผู้ตายจะเข้ามาทำร้ายตนหรือไม่ หลังจากนั้นตนกำลังจะเก็บมีดและกำลังเก็บกระเป๋าเป้เพื่อที่จะขึ้นรถ ฝ่ายผู้เสียชีวิตก็ตะโกนด่าถึงพ่อเเม่ตน และทำท่าจะเดินย้อนกลับมา ตนจึงโมโหเเละวิ่งเข้าใส่แต่ก็โดนฝ่ายผู้ตายต่อยหน้า หลังจากนั้นตนจึงได้ชักมีดที่เมื่อครู่เก็บไปแล้วออกมาจ้วงแทงผู้ตายไป2 ครั้ง ยืนยันว่าตอนนั้นตนยังไม่ได้ถอดมีดออกจากปลอก แต่ตอนนั้นตนจำรายละเอียดได้ไม่หมดเพราะถูกต่อยจนหัวสั่น ก่อนจะเอามีดออกมาให้อีกฝ่ายดูและเห็นว่ามีรอยเปื้อนเลือด ตนจึงตะโกนกลับไปอีกว่า “เนี่ยเลือดมึง มึงต่อยกูก่อนนะไอ้สั-ว์เย็-แม่” ก่อนที่ตนจะวิ่งกลับขึ้นรถและหลบหนีไป
ล่าสุดเมื่อเวลา 12.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สน.ลาดพร้าว ได้ควบคุมตัวนายเอกอิสระ ผู้ต้องหาในคดีฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาและพกพาอาวุธมีด ออกมาจากห้องสอบสวนเเละพาตัวเข้าห้องสืบ โดยในช่วงจังหวะนั้น ทีมข่าวได้มีโอกาสสอบถามนายเอกอิสระ โดยเจ้าตัวบอกว่า ตนเองรู้สึกผิดอย่างมาก และฝากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามอีกว่า ที่ทำไปเพราะใจร้อนหรือไม่ ผู้ก่อเหตุพยักหน้ายอมรับว่า "ใช่ครับ" จากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้เกิดจากการที่ถูกกลุ่มผู้ตายด่าทอต่อว่าก่อน และกระทำไปเพราะขาดสติ รวมทั้งตัวผู้ก่อเหตุไม่เคยรู้จักกับกลุ่มผู้ตายมาก่อนใช่หรือไม่ ผู้ก่อเหตุพยักหน้าตอบให้กับผู้สื่อข่าวทุกคำถาม ก่อนที่จะถูกนำตัวเข้าห้องสืบสวน ผู้สื่อข่าวได้สอบถามทิ้งท้ายว่า อยากจะกล่าวอะไรอีกไหม ผู้ก่อเหตุกล่าวออกมาทิ้งท้ายเพียงแค่ว่า "ผมขอโทษครับ" ก่อนจะนำตัวเข้าห้องสืบสวนไป
ทั้งนี้ ทางทีมข่าวพบภาพวงจรปิด ช่วงเวลาขณะเกิดเหตุ วันที่ 21 กรกฎาคม 2567 เวลา 17.23 น. พบว่าขณะที่นายเอกอิสระ ผู้ต้องหา ขี่รถมอเตอร์ไซค์ดัดแปลงแบบคัตต้อม คันสีดำ กำลังจะเลี้ยวเข้าซอยแฮปปี้แลนด์เซ็นเตอร์ ในขณะที่นายคุน ชิน มัน และนายตัน เดินเลียบถนนใหญ่กันมา กำลังจะเลี้ยวเข้าซอย ในจังหวะเดียวกันจึงทำให้รถของนายเอกอิสระ เกือบเฉี่ยวโดนตัวนายตัน เพื่อนของผู้เสียชีวิต จึงเป็นฉนวนในการก่อเหตุครั้งนี้
ส่วนภาพวงจรปิดอีกมุมเวลา 17.23.45 น. พบว่านายเอกอิสระขี่รถมอเตอร์ไซค์มาตามถนนทางปกติ ก่อนจะเลี้ยวเข้าซอยแฮปปี้แลนด์เซ็นเตอร์ในจังหวะเดียวกันนายคุน ชิน มัน และนายตัน เดินเลียบถนนมา และกำลังเลี้ยวเข้าไปยังซอยนี้เช่นกัน จึงทำให้รถของนายเอกอิสระเกือบเฉี่ยวชนนายตัน หลังจากนั้นทั้งสามคนจึงเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นเวลา 17.26 น. ขณะที่นายเอกอิสระ ผู้ต้องหา ต่อสู้กันกับนายคุน ชิน มา และนายตัน และเวลา 17.27 น. ก่อนที่นายเอกอิสระ จะคว้ารถมอเตอร์ไซค์ขี่ชิ่งหนีไป ผ่านบริเวณหน้าร้านค้าแห่งหนึ่ง ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 10 เมตร
ต่อมาทีมข่าวได้เข้าไปพูดคุย นายซี อายุ 16 ปี เพื่อนรุ่นน้องของคนก่อเหตุ เผยว่า ปกติเเล้วคนก่อเหตุไม่ใช่คนใจร้อนที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีปัญหากับใคร เเละยังไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาท ส่วนเรื่องอาวุธมีดที่เขาพกก็เพิ่งจะพกเมื่อวาน เพราะว่าอีกฝ่ายเป็นคนระมัดระวังตัว เพราะเวลาเขาขับรถจักรยานยนต์ก็มักจะมีกลุ่มวัยรุ่นมาหาเรื่องอยู่เป็นประจำ
ส่วนเมื่อวานนี้ตนเองก็เพิ่งจะทราบเหตุจากข่าวและจำเพื่อนได้ทันที หลังจากที่เห็นภาพของเพื่อนในกล้องวงจรปิดตอนนั้นตนจึงพยายามที่จะติดต่อเพื่อนทุกช่องทาง แต่เหมือนว่าณตอนนั้นอีกฝ่ายจะปิดเฟซบุ๊กไปแล้ว ตนจึงไม่สามารถที่จะพูดคุยกับเพื่อนได้ ซึ่งตนดูจากภาพกล้องวงจรปิดแล้วรู้สึกว่าเพื่อนทำรุนแรงเกินกว่าเหตุไปมาก และอยากจะขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตแทนเพื่อนด้วย
หลังจากนั้นเช้าวันรุ่งขึ้นคือวันนี้ ตนก็เพิ่งจะมาทราบว่าเพื่อนได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ที่ตนเดินทางมาก็เพื่อที่จะมาคอยดูว่าตำรวจจะคุมตัวเพื่อนจะมาทำแผนฯ หรือไม่ ในการก่อเหตุครั้งนี้ขณะที่แทงผู้เสียชีวิต ตนเองคาดว่า นายเอกอิสระคงตั้งใจแทงผู้เสียชีวิตให้ตาย
ต่อมาในเวลา 13.40 น. ครอบครัวของผู้เสียชีวิต ได้นิมนต์พระสงฆ์ 1 รูป พร้อมกับไปรับศพผู้ตายมาจาก นิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อมาทำพิธีเชิญดวงวิญญาณยังจุดเกิดเหตุ โดยพระสงฆ์ได้มีการเขียน ชื่อจริง นามสกุล เเละอายุ วันเกิด เเละวันที่เสียชีวิตของผู้ตายลงบนผ้าขาว ก่อนจะนำไปทำพิธีเชิญวิญญาณ เเละได้มีการเตรียมอาหารคาวหวาน น้ำแดงน้ำเปล่ามา ดอกไม้ธูปเทียน ทั้งหมด 2 ชุด โดยมีการทำพิธีเซ่นไหว้เจ้าที่เจ้าทางก่อน เพื่อเปิดทางให้กับดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิตได้กลับบ้าน หลังจากนั้นจึงมาทำพิธีสวดถอนดวงวิญญาณ กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้กับดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิต ซึ่งพี่สาวเเละน้องสาวต่างร้องไห้ตลอดเวลา ทั้งนี้ นายใจดี อสต.เชียงราย (อาสาสมัครต่างด้าว) ได้เป็นคนนำสวดภาษาปะโอ ประจำเผ่า เพื่อเป็นการเชิญดวงวิญญาณผู้ตายกลับไปฟังสวดที่วัดตามประเพณีชนเผ่า
ในส่วนของศพผู้เสียชีวิตนั้นทางครอบครัวและญาติญาติได้เคลื่อนย้ายมาที่วัดบางเตย กทม. ซึ่งวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่นำตัวผู้ต้องหาออกมาทำแผนประกอบความรับสารภาพแต่อย่างใด ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางมาที่วัดบางเตย ศาลา 3 โดยเมื่อเวลา 16.00 น. ญาติพี่น้องและครอบครัวของผู้เสียชีวิต ได้เปิดฝาโลงเพื่อดูหน้าผู้ตายเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะนำเสื้อผ้าผู้ตาย ชุดประจำเผ่าใส่ในโลงศพ ก่อนที่ญาติ ๆ จะมานั่งปรึกษากันเรื่องการจัดงานศพ โดยมีกำหนดว่าจะมีการสวดพระอภิธรรม 1 คืน เเละจะเผาร่างผู้ตายในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากครอบครัวไม่มีเงิน
ทางด้านนางมาตู อายุ 33 ปี น้องสาวเเท้ ๆ ของผู้ตาย เเละนางหงส์ อายุ 36 ปี ภรรยาคนปัจจุบันของผู้ตาย เผยว่า ตนทราบเหตุการณ์เพราะแฟนผู้ตายโทร. หา บอกว่าพี่ชายถูกแทงเสียชีวิตแล้ว ตอนนั้นอยู่คนละที่จึงรีบมาดูที่เกิดเหตุ พอมาถึงพี่ชายก็เสียชีวิตไปแล้ว ยอมรับว่าช็อกและก็ไม่รู้สาเหตุว่าทำไมถึงทำ พี่ชายไม่ได้ทำอะไร มาทำถึงขนาดนี้ ใจหายเเละ ทำใจไม่ได้ ซึ่งพี่ชายเเละคนก่อเหตุไม่รู้จักกันมาก่อน มองว่ารุนแรงเกินไป ถ้าทะเลาะกันหรือตีกันก็ได้
โดยพี่ชายตนเพิ่งมาอยู่ไทยได้ประมาณ 2 ปีกว่า ก่อนเกิดเหตุเป็นวันพระ แล้วพี่ชายกลับไปอยู่กับเมียจึงยังไม่ได้คุยกัน เเต่เชื่อว่าเมื่อวานนี้พี่ชายต้องการจะเดินมาหาตนที่บ้าน ส่วนเรื่องการดื่มเหล้า พี่ชายของตนมักจะดื่มเหล้าทุกวันอยู่เเล้ว หลังจากเลิกงาน ส่วนประเด็นที่บอกว่าพี่ชายของตนเเละนายตัน ญาติเดินตัดหน้ารถ ตนได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว ก็ถือว่าคนก่อเหตุทำรุนเเรงเกินกว่าเหตุไปมาก
ล่าสุดตอนนี้ทราบว่า จับผู้ต้องหาได้แล้ว พวกตนก็อยากจะเห็นหน้าคนก่อเหตุ เเละอยากถามว่าทำไมถึงทำขนาดนั้น "หรือเห็นว่าตนเองเป็นคนบ้านนอก หรือ เป็นคนพม่าก็ไม่สมควรทำขนาดนั้น ต่อให้ขอโทษก็จะไม่ให้อภัย ไม่รู้จักกันทำไมถึงทำรุนแรงเกิน" เเละอยากให้เขามาขอขมาศพพี่ชายด้วย ส่วนเรื่องคดี ยอมรับครอบครัวรู้สึกกังวล เพราะพวกตนเป็นคนพม่า กลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เเละอยากให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด อีกทั้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ด้านแม่ของผู้เสียชีวิตที่พม่า ยังไม่ทราบเรื่อง เพราะกลัวจะทำใจไม่ได้ถึงขั้นช็อก ตนและพี่น้องยังไม่มีใครแจ้ง