เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ ซึ่งเมื่อแฟนๆ ได้ดูคลิปล่าสุดในช่อง Cullen Hateberry ของ คัลแลน และ จอง ยูทูบเบอร์หนุ่มชาวเกาหลี ที่ได้ไปเที่ยวที่เกาะปันหยี จ.พังงา ได้เป็นประเด็นร้อนแรงในโลกออนไลน์ ที่ถูกแคปออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ตั้งแต่เรื่องค่าเรือที่เดินทางไปที่เกาะปันหยี ค่าเรือแพง 1000 บาท ซื้อของฝากพวกเครื่องประทับ หอยมุก สร้อยข้อมือ 300 บาท เปลือกหอยมุก 500 บาท รวมราคาแล้ว 800 บาท และเมื่อขอลดราคา เจ้าของร้านบอกว่า แถมไป 1 อัน รวมเป็น 1000 บาท จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าการขายของที่ระลึกในราคานี้ มันแพงเกินเหตุไปหรือไม่ และยังพบว่ามีการคอมเมนต์ต่างๆนาๆในลักษณะของการขายของแพงทั้งเรื่องอาหาร ที่พัก ต่างๆด้วยจนเป็นกระแสสุดฮอต สร้างความเสียหายให้กับชาวเกาะปันหยีและบรรยากาศการท่องเที่ยวของจังหวัดพังงา
ล่าสุดนางยาวาเราะห์ เจ้าของร้านปันหยีซีฟู้ด กล่าวว่า ขอชี้แจงในเรื่องของอาหารแพงนั้น ทางร้านอาหารส่วนใหญ่ก็จะมีการแจ้งราคาไว้แล้ว ทั้งแบบรายหัวบุฟเฟ่ต์หรือเมนูตามสั่ง ในส่วนของปลาแพงนั้นก็อาจจะเกี่ยวกับการสั่งปลาเป็นๆที่มีราคาสูงในกระชังขึ้นมาปรุงก็ได้ และยืนยันว่าทางร้านไม่มีการบวกราคาเพิ่มกับลูกค้า ขณะที่ร้านขายของฝากก็เป็นงานฝีมือซึ่งแต่ละร้านก็ตั้งราคากันเอง และมีอยู่หลายร้าน ซึ่งผู้ซื้อผู้ขายต่อรองราคากันตามพอใจ จึงขอเรียกร้องให้โซเชียลหยุดการแชร์การคอมเมนต์ที่สร้างความเสียหายให้กับชาวเกาะปันหยี เพราะหากกระทบต่อการท่องเที่ยวจะสร้างความเสียหายให้กับชาวบ้านบนเกาะที่ต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวและการประมง
ด้านนายประสิทธิ์ รองนายก อบต.เกาะปันหยี เปิดเผยว่า ตนเองเป็นผู้นำในพื้นที่หลังจากได้ทราบข่าวก็รู้สึกไม่สบายใจ จึงรีบสอบถามข้อมูลทันที ซึ่งพบว่าในเรื่องของค่าเรือ 1000 บาทนั้น พบว่าใช้บริการที่ท่าเรือบ้านในหงบ เป็นการเหมาเรือไปส่งและไปรับกลับอีกวันหนึ่ง ซึ่งขอบอกว่าเป็นราคาปกติ ซึ่งปกติถ้าตนเองใช้บริการเหมาเรือก็จะอยู่ในราคาประมาณนี้ ขณะราคากลางของทางราชการนั้นอยู่ที่ 1000 บาท จึงขอบอกว่าเป็นราคาปกติ ส่วนในเรื่องของของฝากจากหอยมุกนั้น สอบถามจากคนขายพบว่าคนซื้อเลือก 2 ชิ้น800 บาทและอยากได้ของแถม จึงเพิ่มสร้อยข้อมืออีก 1 ชิ้น รวมราคา 1100 บาท และลดเหลือ 1000 บาท ไม่ได้มีการยัดเยียดขายแต่อย่างใด สำหรับเกาะปันหยีนั้นเรามีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวมากว่า 70 ปี แต่ละวันจะมีการต้อนรับนักท่องเที่ยวเข้ามาหลายพันคนได้ ทุกคนจึงให้ความสำคัญกับการรักษาภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวเสมอมา ในเรื่องของกินต่างๆก็ราคาไม่ต่างจากในเมือง เราไม่อยากจะแก้ตัวหรือแก้ต่างกับกระแสดราม่าในโลกโซเชียล ถือเป็นบทเรียนที่พวกเราชาวเกาะปันหยีจะต้องทำอย่างไรต่อไป เราน้อมรับในกระแสข้อวิจารณ์ที่ใช้เหตุผล ส่วนข้อวิจารณ์ที่ไม่เป็นความจริงและกล่าวหามุสลิมเพื่อต้องการเรียกยอดไลค์และสร้างความเสียหายกับพี่น้องชาวไทยมุสลิมบนเกาะปันหยี ทางเราก็อาจจะพิจารณาใช้กฎหมายดำเนินการต่อไป