ศาลสั่งจำคุก 12 เดือน "อดีตสว.กิตติศักดิ์" ตัวตึงนำมวลชนบุกวัดบางคลาน
วันที่ 24 กรกฎาคม 2567 ศาลจังหวัดพิจิตร ได้นั่งบัลลังก์ 10 อ่านคำพิพากษา คดีวัดบางคลาน ยื่นฟ้อง นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ อดีต สว.จังหวัดพิจิตร
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2561 นายกิตติศักดิ์ จำเลยได้นำมวลชนบุกวัดหิรัญญาราม หรือวัดบางคลาน ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร ทำการปิดกุฏิรักษาการเจ้าอาวาส และขับไล่รักษาการเจ้าอาวาส
โดยศาลพิพากษาว่า นายกิตติศักดิ์ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 188, 358, 365 (2) ประกอบมาตรา 362 และมาตรา 364 ประกอบมาตรา 83 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 ฐานบุกรุกโดยร่วมกระทำผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปจำคุก 1 ปี และปรับ 30,000 บาท ฐานร่วมกันเอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่น กับฐานร่วมกันทำให้เสียทรัพย์เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานร่วมกันเอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่น ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 จำคุก 1 ปีและปรับ 3,000 บาท
จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 ฐานบุกรุกโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปคงจำคุก 6 เดือนและปรับ 15,000 บาท ผิดฐานร่วมกัน เอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่น คงจำคุก 6 เดือนและปรับ 1,500 บาท รวมจำคุกทั้งหมด 12 เดือน และปรับเป็นเงิน 16,500 บาท และไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี และให้คุมประพฤติไว้ 1 ปี
โดยให้ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 3 ครั้ง ตามเงื่อนไข และระยะเวลาที่พนักงานคุมประพฤติเห็นสมควร กับให้จำเลยละเว้นการประพฤติอันนำไปสู่การกระทำความผิดในทำนองเดียวกันกับคดีนี้อีกตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29, 30 ความผิดหลายกรรม และนายกิตติศักดิ์ จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง โดยศาลสั่งพิพากษารวมจำคุก 12 เดือน และปรับ 16,500 บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี และให้คุมประพฤติไว้ 1 ปี
ส่วนคดีที่อดีต สว.กิตติศักดิ์ นำชายฉกรรจ์ชุดดำบุกทำร้ายร่างกายพระสงฆ์ ไวยาวัจกร และคนงานภายในวัดบางคลาน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2566 ศาลเลื่อนอ่านคำพิพากษาไปวันที่ 4 กันยายน 2567 นี้เนื่องจากจำเลยที่ 7 ไม่มาศาลจึงเป็นเหตุให้เลื่อนอ่านคำพิพากษา