จากหน.หน่วยกู้ภัยส่งเสริมธรรม จุดบริการอ.หนองหาน รับแจ้งมีเหตุเด็กจมน้ำเสียชีวิต ที่บ้านโนนแสงจันทร์ หมู่ 9 ต.สะแบง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี และได้นำโลงศพและโลงศพให้ด้วย เนื่องจากทราบว่าครอบครัวมีฐานะยากจน เมื่อไปถึงพบชาวบ้านและญาติๆ ร้องไห้ระงม โดยญาติได้นำร่างของน้องธันวา อายุ 2 ปีกว่า ขึ้นมาจากบ่อน้ำหลังร้านก๋วยเตี๋ยวบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้าน โดยน้องธันวาหมดลมหายใจแล้ว

 

ล่าสุดผู้สื่อข่าวช่อง 8 ได้เดินทางมาที่บ้านของน้องธันวา ที่บ้านโนนแสงจันทร์ ตำบลสะแบง อำเภอหนองหาน จังหวัดหนองหาน ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานศพของน้องธันวา อายุ 2 ขวบ ส่วนบริเวณด้านหลังบ้านของน้องธันวาพบว่าเป็นทุ่งนาที่ชาวบ้านกำลังปลูกข้าว ขณะเดียวกันที่บริเวณ ด้านหลังบ้านมีหนองน้ำขนาดเล็กอยู่หนึ่งแห่ง โดยตอนแรกทีมข่าวคิดว่าน้องธันวาตกลงหนองน้ำจุดนี้ แต่ปรากฏว่าไม่ใช่ โดยนางสุมิตร อายุ 50 ปี ชาวบ้าน ยืนยันกับทีมข่าวว่าบ่อน้ำที่น้องธันวาตกอยู่ห่างจากบ้านออกไป 2 กิโลเมตรกว่า 

 

ต่อมาทีมข่าวได้ให้ชาวบ้านพาเดินสำรวจเส้นทางตามคำบอกเล่าของนางสุมิตร อายุ 50 ปี ชาวบ้านให้ข้อมูลกับทีมข่าว ที่ให้ข้อมูลว่า น้องธันวา เดินตามสุนัขที่เลี้ยงไว้ ไปตามเส้นทางคันนาหลังบ้าน มุ่งหน้าเข้าไปในป่า 

 

ทีมข่าวจึงได้เดินลัดเลาะไปตามคันนาไปจนถึงชายป่าพบว่าระยะทางประมาณ 2.4 กิโลเมตร ซึ่งการเดินทางสำหรับผู้ใหญ่ถือว่าค่อนข้างจะเดินไปได้สะดวก เนื่องจากเป็นคันนาที่ชาวบ้านใช้เดินอยู่เป็นประจำ แต่ระยะทางจากบ้านมาถึงจุดชายป่า พบว่าค่อนข้างไกลและใช้เวลาค่อนข้างนาน ซึ่งทีมข่าวเองก็ค่อนข้างเหนื่อยหอบ เพราะต้องเดินไกลถึง 2 กิโลเมตร 

 

แต่ทันทีที่เดินไปถึงชายป่า ทีมข่าวพบหลักฐานเป็นรอยเท้าเด็ก 1 จุด และรอยเท้าสุนัข ประมาณ 2-3 จุดอยู่ที่บริเวณชายป่า โดยรอยเท้าดังกล่าวหันหน้าเข้าไปในป่า 

 

ทีมข่าวจึงได้ลองเดินเข้าไปด้านในป่า พบว่า ไม่สามารถเดินเข้าไปได้ เนื่องจากเป็นป่ารกทึบ มีต้นหนาม 

 

ทีมข่าวจึงได้ถอยออกมา และใช้วิธีขับรถลัดเลาะไปตามเส้นทางอีกหมู่บ้าน จนกระทั่งไปถึงหนองน้ำจุดที่น้องธันวาตกลงไป โดยหนองน้ำดังกล่าวอยู่ห่างจากท้ายป่าประมาณ 300 เมตร และห่างจากบ้านน้องธันวา 400 เมตร (วัดจากทางตรง) ขณะที่ป่าวัดจากการคาดคะเน มีความยาวประมาณ 400 เมตร 

 

ต่อมาเราได้พบกับนางเสาวณี อายุ 74 ปี เจ้าของที่ เล่าว่า เมื่อประมาณเกือบ 20 ปีที่แล้ว ตนสระน้ำดังกล่าว ลึกประมาณ 3 เมตร กว้าง 16 เมตร ยาว 30 เมตร เพื่อเลี้ยงปลา โดยในทุกวันตนจะเอาอาหารเม็ดมาหว่านให้ปลาที่หนองน้ำเป็นประจำทุกเช้า แต่ในวันเกิดเหตุซึ่งเป็นวันเดียวที่ตนไม่ได้เอาอาหารมาให้ปลาที่หนองน้ำเพราะเนื่องจากว่าตนต้องไปถางหญ้าพัฒนาหมู่บ้านจึงทำให้ไม่มีใครแวะมาดูหนองน้ำเลย

 

จนกระทั่งช่วงประมาณเกือบเที่ยงได้มีชาวบ้านโทรศัพท์มาบอกให้ตนมาที่หนองน้ำเนื่องจากพบศพน้องธันวาตกหนองน้ำของตนเอง ตนจึงได้รีบมาดูก็พบว่าชาวบ้านได้ช่วยกันนำร่างของน้องธันวาขึ้นมาไว้บนฝั่งแล้ว ซึ่งจากการสังเกตตอนนั้นตนเองไม่พบบาดแผลตามร่างกายของน้องธันวา โดยคาดว่าน้องธันวาจะวิ่งตามสุนัขมาจนถึงบริเวณขอบสระ ประกอบกับบริเวณขอบสระของตนเองมีต้นหญ้าสูง จึงทำให้น้องธันวาพัดตกลงไปในน้ำเสียชีวิต

 

ส่วนข้อสงสัยของชาวบ้านที่ตั้งข้อสงสัยว่ามีคนนำศพมาทิ้งอำพรางที่หนองน้ำของตนเองเป็นไปไม่ได้แน่นอนและตนเองก็ไม่เชื่อ เนื่องจากว่ามีพยานเห็นว่าน้องธันวาเดินตามสุนัขที่เลี้ยง อีกทั้งหากจะมีคนอุ้มเด็กมาทิ้งที่หนองน้ำของตนเองเชื่อว่าต้องมีคนเห็นแน่นอนเนื่องจากว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่ชาวบ้านปลูกข้าวและอยู่ตามทุ่งนา และหากจะนำมาทิ้งก็คงจะเป็นไปไม่ได้ที่จะนำมาทิ้งไกลขนาดนี้

 

แต่ถึงอย่างไรก็ตามตนเองก็แอบสงสัยว่าเด็กเพิ่งหายไปเพียงแค่ 1 ชั่วโมงแต่ทำไมศพลอยขึ้นเหนือน้ำ ซึ่งก็ยังคงเป็นข้อสงสัยของตนเองอยู่เหมือนกัน

 

ต่อมาทีมข่าวได้ไปพูดคุยกับนางสุขศรี อายุ 62 ปี พยานที่เห็นธันวาเดินตามสุนัข เล่าว่า ขณะที่ตนตนเองกำลังถอนต้นกล้าอยู่ทุ่งนาหลังบ้านของน้องธันวา ตนเห็นน้องธันวาเดินลักษณะกึ่งวิ่งตามสุนัขสีดำ ไปตามคันนามุ่งหน้าไปทางป่าท้ายหมู่บ้านผ่านหน้าตนเองไป ห่างประมาณ 2-3 เมตร จึงได้ตะโกนถามน้องธันวาว่า “จะไปไหน” แต่ในตอนนั้นน้องธันวาไม่ได้ไม่ได้พูดอะไรแต่หันหน้ามามองตนเอง ด้วยสายตาลักษณะคล้ายกับไม่ใช่สายตาเด็ก คล้ายกับเป็นสายตาผู้ใหญ่ที่จ้องเขม็งตนเอง โดยในตอนนั้นนึกว่าน้องธันวาไปกับนางตุ๊กตาย่าของน้องธันวา ตนจึงไม่ได้สนใจและก็ถอนต้นกล้าต่อ

 

จนกระทั่งผ่านไปไม่ถึง 3 นาทีก็ได้เงยหน้าขึ้นมาเพื่อที่จะดูน้องธันวาอีกครั้งแต่ปรากฏว่าเห็นหลังน้องธันวากำลังเดินเข้าไปในป่าท้ายหมู่บ้านพร้อมกับสุนัขสีดำ จากนั้นจึงได้รีบวิ่งขึ้นไปบอกนางตุ๊กตาย่าของน้องธันวาก่อนที่ทั้งหมดจะช่วยกันออกตามทันที

 

นางสุขศรี ยังบอกอีกว่าตอนที่น้องธันวาเดินผ่านหน้าตนเองตนเห็นลักษณะมือข้างนึงของน้องธันวาถือสิ่งของแต่มองไม่เห็นว่าเป็นอะไร ส่วนมืออีกข้างมีลักษณะคล้ายกับมีคนจูงมือน้องธันวาไปทางป่า 

 

นอกจากนี้นางสุขศรียังบอกอีกว่าในระหว่างที่น้องธันวาเดินเข้าไปในป่ายืนยันว่าน้องธันวาไปกับสุนัขลำพังโดยไม่มีบุคคลอื่นตามหลังมาแต่อย่างใด

 

ขณะที่เมื่อช่วงบ่าย 2 โมงที่ผ่านทางพ่อและแม่ของน้องธันวาที่เดินทางมาจากจังหวัดภูเก็ตและมาถึงที่บ้าน ทันทีที่พ่อของน้องธันวามาเห็นโลงศพลูกชาย ถึงร้องให้ฟูมฟาย ปานจะขาดใจตาย อยู่นานพอสมควร จนทำให้นางตุ๊กตา แม่และญาติๆ ต้องช่วยกันเข้าไปปลอบใจ ขณะที่ญาติคนอื่นที่อยู่ในงานต่างก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว เพราะสงสาร 

 

ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับนางตุ๊กตา อายุ 49 ปี ย่าของน้องธันวา เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้าตนได้ป้อนข้าวต้มให้หลานทานจนอิ่ม หลังจากนั้นก็ออกมานั่งสับหน่อไม้ที่หน้าบ้านโดยปล่อยให้หลานเล่นอยู่กับสุนัขพันธุ์ไทย เพศเมีย สีดำ ชื่อ อีดำ เนื่องจากร้านมักจะคุ้นเคยกับสุนัขตัวนี้ และตัวหลานเองก็เล่นกับสุนัขตัวนี้อยู่เป็นประจำ โดยในระหว่างที่ตนนั่งสับหน่อไม้อยู่หน้าบ้านตนก็พยายามตะโกนเรียกหลานอยู่ประมาณ2-3 รอบ ซึ่งหลานเองก็ขานรับทุกครั้ง และครั้งล่าสุดตนก็เห็นหลานนำขวดน้ำไปกรอกน้ำเทให้กับสุนัขอีดำกินที่หลังบ้าน ส่วนสามีตนเองออกไปทำงานข้างนอกไม่ได้อยู่ที่บ้าน

 

ตอนนั้นตนเองยอมรับว่ามัวแต่นั่งสับหน่อไม้จนเผลอดูหลานไปชั่วขณะ พอนึกขึ้นได้ก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่นางสุขศรีพยานวิ่งมาบอกตนเองว่าหลานเดินมุ่งหน้าไปในป่าพร้อมกับสุนัขสีดำ ตนจึงได้รีบบอกชาวบ้านให้ช่วยกันตามหา โดยในตอนแรกตนนึกว่าหลานเล่นอยู่ในป่ากับสุนัข แต่พอไปหากลับไม่เจอ จึงได้ช่วยกันกระจายพื้นที่ตามออกไป จนกระทั่งมีชาวบ้านไปเจอร่างหลานลอยอยู่ในน้ำ 

 

สำหรับหลานเองโดยปกติแล้วจะเล่นอยู่แต่เฉพาะบริเวณบ้านไม่เคยออกไปกลางทุ่งนาเลยสักครั้งอีกทั้งตนเองก็ไม่เคยพาหลานออกไปเล่นที่กลางทุ่งนา แต่เชื่อว่าหลานน่าจะเดินตามสุนัขไปจริงๆ ส่วนกรณีที่จะมีคนอำพรางศพเป็นไปไม่ได้เนื่องจากว่าหลานมักจะไม่ค่อยไปกับใครซึ่งเป็นคนแปลกหน้าหรือแม้แต่กระทั่งญาติคนอื่นเพราะหลานจะเป็นคนที่ติดตนมากจะอยู่แต่เฉพาะกับตนเอง 

 

ขณะที่ข้อสงสัยที่หลายคนสงสัยว่าผ่านไปเพียงแค่ 1 ชั่วโมงร่างหลานก็ลอยขึ้นมาจากน้ำ ในจุดนี้ตนไม่อยากออกความคิดเห็นและไม่ได้สงสัยว่าเป็นฝีมือของใคร เนื่องจากมีพยานยืนยันว่าเห็นหลานไปกับหมาจริงๆ แต่ที่หลานเดินไปได้ไกลขนาดนั้น เชื่อว่าน่าจะเดินตามหมาไปจริงๆ 

 

ส่วนหมาอีดำหลังจากที่เกิดเรื่องสามีของตนเองได้ฆ่าทิ้งทันทีเพราะโมโหที่พาหลานไปตาย ส่วนศพตนเองก็ไม่รู้ว่าสามีนำไปฝังไว้ที่ไหน ขณะที่สาเหตุการเสียชีวิตของหลานตนไม่ได้ติดใจสาเหตุการตายและก็ไม่ได้มีการนำศพไปผ่าชันสูตรแต่อย่างใด

 

ขณะเดียวกันทีมข่าวได้พูดคุยกับนายธนกร อายุ 21 ปี พ่อน้องธันวา เปิดเผยว่า เมื่อวานช่วงเที่ยงแม่ของตนได้โทรศัพท์มาหาร้องไห้ฟูมฟายจับใจความไม่ได้ จึงทำให้เพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์เป็นคนแจ้งข่าวร้ายกับตนว่าลูกชายจมน้ำเสียชีวิต ทันทีที่ทราบข่าวตนก็รีบเดินทางออกจากเกาะสมุย ตลอดการเดินทางกลับมาที่บ้านตนมีคำคำถามอยู่ในหัวอยู่ตลอดว่าลูกเดินไปที่จุดเกิดเหตุได้อย่างไร แต่พอทราบข่าวจากพยานที่ยืนยันว่าเห็นลูกชายเดินไปกับสุนัขจริงๆตนก็ต้องทำใจยอมรับว่าเป็นอุบัติเหตุ

 

พ่อของน้องธันวายังบอกกับเราอีกว่าตนไม่ได้ติดใจสาเหตุการตายของลูก และไม่ได้สงสัยว่าเป็นฝีมือของใคร โดยเฉพาะแม่และพ่อของตนเอง เพราะทั้งคู่เป็นคนที่เลี้ยงดูลูกชายของตนเองมาเป็นอย่างดี จึงเป็นไปไม่ได้ที่ทั้งสองจะทำร้ายจนเสียชีวิตและนำศพไปอำพราง 

 

ส่วนครั้งสุดท้ายที่ตนได้คุยกับลูกชายคือเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาโทรศัพท์มาเล่นกับลูกชายก็พูดคุยก่อนที่จะวางสายลูกชายก็ได้โบกมือบ๊ายบายตนเอง 

 

ขณะที่ลางบอกเหตุตนยอมรับว่าคืนก่อนที่เกิดเหตุตนฝันว่ามีญาติพี่น้องมารวมตัวกันจัดงานอยู่ที่บ้านแต่ไม่รู้ว่าเป็นงานอะไร พอเช้าวันรุ่งขึ้นตนก็มาทราบข่าวว่าลูกชายเสียชีวิต ตอนนี้ตนก็รู้สึกเสียใจส่วนภรรยาของตนเองเสียใจมากจนไม่สามารถทำใจได้แต่ถึงอย่างไรก็ตามตนก็ได้ปรึกษาหารือกับทางครอบครัวแล้วว่าจะจัดพิธีเผาศพในวันพรุ่งนี้ทันที

ปริศนา 2 ขวบจมน้ำตาย เดินตามหมากลายเป็นศพ