เพื่อนบ้านมหาภัยถือปืนยาวข่มขู่อ้างถูกถ่ายคลิปกลั่นแกล้งปมไม่ยิ้มให้กัน ขณะที่ชาวบ้านเล่าวีรกรรมสุดแสบ
วันที่ 25 ก.ค.67 พ.ต.อ.พฤฒ จำรูญศาสน์ ผกก.สภ.บางบัวทอง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจได้ร่วมกันจับกุมตัวนายวัศพล อายุ 29 ปี หลังจากนำหมายค้นที่ ค.703/2567 เข้าตรวจค้นบ้านที่ ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พบของกลาง คือ เครื่องกระสุนปืน รวมทั้งหมด 225 นัด แบ่งเป็น 1.เครื่องกระสุนปืน เบอร์ 9 มม. จำนวน 36 นัด 2.เครื่องกระสุนปืนชนิดลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 30 นัด 3.เครื่องกระสุนปืน เบอร์ .22 มม. จำนวน 119 นัด 4.เครื่องกระสุนปืน เบอร์ 38 มม. จำนวน 40 นัด ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ทั้งนี้ สืบเนื่องปรากฏจากภาพวงจรปิดจากบ้านหลังหนึ่ง จับภาพเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2567 ขณะที่นายวัศพล รูปร่างสูงใหญ่ ถือปืนยาวขนาดขนาด .22 เดินออกมานอกบ้าน และตะโกนเรียกเพื่อนบ้านลักษณะข่มขู่คุกคาม
นายนายวัศพล มีลักษณะพูดวกไปวนมา บอกกับทีมข่าวว่า ไม่ได้เดินถือปืน เพื่อข่มขู่ชาวบ้านแต่เดินถือปืนจากบ้านหนึ่งไปบ้านหนึ่ง หลังจากเช็ดล้างทำความสะอาดปืนแล้วส่วนปืนที่พกไว้ในบ้านเป็นปืนที่ซื้อมา เพื่อให้ลูกชายซ้อมยิงปืน เนื่องจากลูกเป็นนักกีฬายิงปืน เชื่อว่าน่าจะมีเพื่อนบ้านในหมู่บ้านกลั่นแกล้ง ถ่ายคลิปวีดีโอ และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาจับกุมตน เพราะมีเรื่องกับเพื่อนบ้าน อยู่หลังหนึ่งเนื่องจากตนไม่ยิ้มให้เพื่อนบ้าน
ด้านพ.ต.อ.พฤฒ เปิดเผยว่าได้รับการแจ้งมาจากลูกบ้านภายในหมู่บ้านว่าชายคนดังกล่าวมีพฤติการณ์ ถือปืน ข่มขู่ชาวบ้านลักษณะน่ากลัวเป็นอันตราย เบื้องต้นลงพื้นที่ไปตรวจสอบพบของกลาง ทั้งปืนขนาด.22 และ.38 และลูกกระสุนจำนวนมาก แต่พบว่าปืนดังกล่าวมีใบขออนุญาต จึงได้แจ้งข้อหาพกพาอาวุธปืนในพื้นที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และหากตรวจสอบพบหลักฐานชัดว่ามีการนำปืนไปข่มขู่ ชาวบ้านก็จะมีการแจ้งข้อหา ใช้อาวุธปืนข่มขู่ชาวบ้านทำให้หวาดกลัวต่อไป
ผู้สื่อข่าวสังเกตบ้านที่นายวัศพล พักอาศัย พบว่าบริเวณหน้าบ้านเป็นร้านซ่อมและขายรถจักรยานยนต์ โดยเปิดเป็นบ้าน 2 หลังติดกัน มีวัยรุ่นชายและหญิงอยู่ในบ้านนับ 10 คน แต่ที่บ้านไม่มีใครให้ข้อมูล และไม่ให้บันทึกภาพ
น.ส.สมหญิง (นามสมมุติ) เพื่อนบ้านรายหนึ่ง เล่าว่า พฤติกรรมของนายวัศพล รู้สึกหวาดกลัวและกังวล และอดทนกับพฤติกรรมของนายวัศพลมา 2-3 ปีแล้ว ทั้งเรื่องซ่อมรถเสียงดัง นำรถมาดริฟต์หน้าบ้านเสียงดัง ตั้งวงกินเหล้ากับแก็งเพื่อนๆ บางวันจะนำรถจักรยานยนต์มาจอดหน้าบ้าน เรียงกันรอเคลื่อนย้ายรถ ไปขาย ทำให้คนที่ขับขี่รถยนต์เข้าหมู่บ้าน สัญจรไม่ได้ ต้องจอดรอ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่มีเส้นทางอื่นให้ขับอ้อมไปทั้งที่เป็นถนนของหมู่บ้านใช้ร่วมกัน
น.ส.สมหญิง กล่าวอีกว่า กลุ่มไลน์หมู่บ้าน ก็มีการบ่นถึงชายคนดังกล่าวกันมาก แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะเขากร่าง น่ากลัว พรรคพวกเยอะ และเคยบอกว่ารวยจะซื้อทั้งหมู่บ้านก็ได้ ซึ่งคนในหมู่บ้านส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ จึงไม่มีใครกล้ายุ่ง เท่าที่ทราบมักมีปัญหากับคนในหมู่บ้านหลายคนจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนด้วย