จากกรณีมีการนำเสนอข่าวรักต่างวัยของหนุ่มวัย 36 ปี แอบปิ๊งเด็ก 10 ขวบ ซึ่งแม่กับยายของเด็กรับรู้ และให้พวกเขาคบกัน อายุห่างกัน 26 ปี ก่อนที่ฝ่ายชายจะออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ยืนยันว่าเจ้าตัวอยู่ในขั้นพูดคุยกันเท่านั้น ไม่ได้ล่วงเกินแต่อย่างใด และทุกครั้งที่ไปมาหาสู่น้อง 10 ขวบ ก็จะมีผู้ปกครองของน้องอยู่ด้วยทุกครั้ง ยืนยันว่าไม่ได้อยู่กันลำพังสองต่อสองแน่นอน ทว่า ก็ยังโดนกระแสดราม่าอยู่ดี นั้น

ล่าสุด (26 ก.ค. 2567) ผู้สื่อข่าวช่อง 8 ได้เดินทางกลับมาที่บ้านของนายน็อต อายุ 36 ปีอีกครั้ง หลังจากที่ตอนนี้มีกระแสข่าวหลายคนสงสัยว่าทั้งหมดเป็นคอนเทนต์ หรือเป็นเรื่องจริง รวมทั้งหลายคนต้องการอยากจะทราบฐานะของทางนายน็อตด้วย โดยผู้สื่อข่าวได้เจอกับนายน็อตก็ได้เข้าไปถามไถ่หลังมีข่าวออกไป

นายน็อต เปิดเผยว่า หลังจากที่เป็นข่าวก็มีหน่วยงานภาครัฐเข้ามาสอบถามตน ซึ่งตนก็ได้ปฏิเสธว่าไม่ล่วงเกินเด็กแต่อย่างใด ตนเพียงแค่มีการพูดคุยทางโทรศัพท์กันเท่านั้นยังไม่ได้ถูกเนื้อต้องตัวกัน แต่หลังจากที่ได้พูดคุยไกล่เกลี่ยกับทางครอบครัวของน้อง 10 ขวบ แล้วตนก็ได้ไปขอขมาและขอโทษหนังสือยายของเด็ก 10 ขวบ ที่ตนรู้เท่าไม่ถึงการณ์และได้นำคลิปไปลงในโซเชียลจนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

นายน็อต ยังบอกอีกว่า ตนไม่ได้ร่ำรวยอะไร เพียงแค่เปิดร้านขายของเบ็ดเตล็ดในหมู่บ้านมาประมาณ 3-4 ปี รายได้ก็ไม่ได้สูงมากเฉลี่ยเดือนละ 10,000-12,000 บาทเท่านั้น ส่วนการซื้อข้าวซื้อของให้กับครอบครัวน้องก็เป็นเพียงแค่การซื้อของกินของฝากราคาเพียงแค่หลักร้อยเท่านั้น สูงสุดที่ตนเคยซื้อของให้น้องก็เป็นเพียงแค่สร้อยคอในวันเกิดน้องเพียงแค่ 400-500 เท่านั้น ส่วนเงินทองตนไม่เคยนำไปเปย์ให้กับครอบครัวน้องแต่อย่างใด อีกทั้งครอบครัวน้องเองก็ไม่เคยเรียกร้องในส่วนนี้

อย่างไรก็ตาม นายน็อตบอกว่า ตนเองเคยคบกับผู้หญิงที่มีอายุมากกว่าตอน 19 ปี โดยคบกันในช่วงระยะหนึ่งถึงสองปีก็เลิกรากันไป หลังจากนั้นตนก็ไม่ได้คบใครอีกเลย ตอนนี้ตนก็ยอมรับว่าตนได้ยุติความสัมพันธ์กับน้อง 10 ขวบแล้ว ก็ไม่ได้มีการยุ่งเกี่ยวกันแต่อย่างใด อีกทั้งตนก็ไม่อยากให้ครอบครัวน้องเสียหาย ยอมรับว่าเศร้าแต่ก็ต้องปล่อยไป แต่อนาคตก็ไม่แน่ถ้าอีก 10 ปี น้องบรรลุนิติภาวะ ตนอาจจะกลับมาจีบใหม่ก็ได้ ส่วนฝั่งครอบครัวน้องก็เข้าใจเจตนาตนดี และก็ไม่ได้มีการตำหนิตนแต่อยากใด ซึ่งตนก็ยอมรับว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์

ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางไปที่บ้านนางศรี ยายเด็ก อายุ 10 ขวบ พบยายศรีกำลังจะออกไปดูคนงานที่สวนยางพารา ซึ่งทันทีที่ยายศรีเจอกับทีมข่าวก็ได้จอดรถและบอกกับทีมข่าวว่า จะขอชี้แจงกรณีที่ตนเคยให้สัมภาษณ์ไปครั้งแรกที่ตนหัวเราะ โดยในตอนนั้นตนแค่รู้สึกตกใจว่าไม่เป็นความจริง เป็นไปไม่ได้ที่หลานจะคบกับนายน็อต เพราะหลานเพิ่งจะ 10 ขวบ ยังไม่ประสีประสา ตนจึงได้หัวเราะขำขันไปเท่านั้น โดยในตอนนี้ตนเกิดความเครียดจนนอนไม่หลับเพราะกระแสสังคมโจมตีตน ว่าเป็นคนหน้าเงินทั้งที่ตนไม่เคยเรียกร้องอะไรจากนายน็อต อีกทั้งตนและนายน็อตก็ถือว่าเป็นเครือญาติกัน จึงเป็นไปไม่ได้ที่ตนจะอนุญาตให้ทั้งสองคบหาดูใจกันแต่อย่างใด

นางศรี บอกว่า ตนไม่ใช่คนเดือดร้อนขนาดที่จะต้องให้นายน็อตมาเปย์ เพราะตนมีบ้านหลายหลังและปล่อยให้คนเช่ารวมไปถึงตนก็มีสวนยางพาราและลูก ๆ ของตนก็เป็นคนมีงานมีการทำมีหน้ามีตาในสังคม ส่วนที่ตนบอกว่านายน็อตซื้อของมาฝากเป็นเพียงแค่การซื้อขนมแค่ไม่กี่ห่อมาให้หลานเท่านั้น และนายน็อตก็ไม่เคยให้เงินกับทางครอบครัวของตนเองใช้สักครั้ง

หลังจากที่ข่าวออกไปก็ยอมรับว่า ได้มีการเรียกนายน็อตมาตำหนิ และตัวนายน็อตเองก็ได้มีการขอโทษกับทางตนและหลานสาว อ้างว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ ส่วนกรณีที่ทางหน่วยงานได้ลงพื้นที่มาที่บ้าน และต้องการอยากให้ตนดำเนินคดีกับนายน็อต ซึ่งตนยืนยันว่าตนจะไม่ดำเนินคดีกับนายน็อตหรือเรียกร้องอะไรจากนายน็อต เพราะถ้าหากว่าตนยังคงดำเนินคดีและเรียกร้องเงินจากนายน็อต ตนก็จะถูกสังคมโจมตีว่าเป็นคนหน้าเงินเหมือนเดิม