ผัววัย 61 ปิ๊งหม้ายสาวรุ่นลูก เพิ่งผูกข้อไม้ข้อมืออยู่กินเมื่อ 14 ก.ค. ไม่ทันข้ามเดือน หึงจัดอ้างให้เมียยืมรถไปหาหมอ แต่เช็กจีพีเอสไปที่อื่น ฉุนจัดชักปืนยิง เจ็บสาหัส
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว หน้าบ้านพบกองเลือดของผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ น.ส.ศรัณยา หรือ ต้า อายุ 36 ปี เจ้าของบ้าน ถูกยิงเข้าที่หน้าอกด้านขวากระสุนฝังใน ญาติได้นำตัวส่ง รพ.ค่ายประจักษ์ศิลปาคม แต่อาการสาหัส จึงเร่งส่งไป รพ.ศูนย์อุดรธานีเป็นการด่วน
ส่วนผู้ก่อเหตุชื่อนายอภิวัฒน์ หรือน้อย อายุ 61 ปี ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ พร้อมของกลางอาวุธปืนลูกโม่ .38 และลูกกระสุน 5 นัด ปลอกกระสุน 2 ปลอกในรังเพลิง เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 27 ก.ค. 67 ตำรวจชุมชน ต.บ้านตาด พร้อมตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.อุดรธานี ได้ทำการสอบปากคำและตรวจหาเขม่าดินปืนไว้เป็นหลักฐาน
และได้นำตัวนายอภิวัฒน์ ไปทำบันทึกรับสารภาพ ที่ สภ.โนนสูง และสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งเจ้าตัวให้การว่า เป็นข้าราชการเกษียณ เคยทำงานที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองอุดรธานี ซึ่งตนเองเป็นพ่อหม้าย ภรรยาเพิ่งเสียชีวิตไปประมาณ 1 ปี มีบ้านอยู่เยื้องกับ น.ส.ศรัณยา และได้พูดคุยถูกคอกัน มาประมาณ 2 - 3 เดือน จึงตกลงผูกข้อไม้ข้อมือกัน อยู่กินฉันสามีภรรยา แต่ไม่ได้จดทะเบียนกัน เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมานี้เอง ปกติกลางวันตนจะมาอยู่ที่บ้านในหมู่บ้าน ตกเย็นจะไปนอนเฝ้าที่นา ซึ่งก็ไม่ได้อยู่บ้านหลังเดียวกันกับ น.ส.ศรัณยา เพราะฝ่ายหญิงเคยมีครอบครัว และอยู่กับลูกชายลูกสาวของเขา
ก่อนเกิดเหตุ เมียบอกว่าจะขี่รถ จยย.ไปหาหมอที่คลินิกในเมืองอุดรฯ เพราะมีอาการเสียงแหบ ตนจึงให้ยืมรถยนต์ไปเพราะเป็นห่วง ซึ่งรถคันนี้ตนติด GPS ไว้ จึงรู้ว่าเมียรัก ไม่ได้ขับไปคลินิก ทำให้โมโห โทรไปสอบถามจนทะเลาะกัน พอตกเย็นตนจึงมาเคลียร์ปัญหา โดยพกปืนมาด้วย เถียงกันไปมา จึงชักปืนออกมายิงใส่เมีย ไม่ได้เล็งว่าจะยิงเข้าจุดไหน มือยิงยังอ้างว่ารักและหวง น.ส.ศรัณยา มาก เพราะรักมากก็เลยโมโหมาก และไม่ชอบคนโกหก หลังลงมือยิงลูกชายของเมีย เข้ามาแยกตนออก ตนจึงหยุดและรอมอบตัว ส่วนปืนอ้างว่าเป็นปืนมีทะเบียนของเพื่อน ที่มาฝากตนเก็บไว้ และเอาติดตัวมาเพื่อใช้ป้องกันตัวเท่านั้น
เจ้าหน้าที่ ได้เชิญลูกชายของผู้บาดเจ็บ วัย 17 ปี และ น.ส.ภา อายุ 47 ปี พี่สาวผู้บาดเจ็บ รวมทั้ง นายสุทธิพงษ์ ญาติ ที่ให้การช่วยเหลือไปส่งโรงพยาบาล มาร่วมให้ปากคำ
โดยลูกชาย ให้การว่า ได้ไปเล่นที่บ้านของนายสุทธิพงษ์ ญาติกัน ซึ่งบ้านอยู่ใกล้กัน จากนั้นแม่โทรมาบอกว่านายน้อย ได้พกปืนมาข่มขู่ ชักปืนจ่อจะทำร้ายแม่ เมื่อตนไปถึงก็เห็นแม่ถูกยิงแล้ว จึงรีบเข้าไปแย่งปืนเพื่อช่วยเหลือแม่ ซึ่งแม่ได้ยืนยันกับนายน้อยแล้วว่าที่ไปจอดตลาด นั้น แม่ไปหาน้อง แต่นายน้อยหึงหวงไม่เชื่อ แล้วลงมือยิงแม่
ด้าน น.ส.ภา พี่สาว เล่าว่า บ้านหลังที่เกิดเหตุ น.ส.ศรัณยา อยู่กับลูกๆ คนโตคือน้องอภิวัฒน์ คนเล็กเป็นผู้หญิง อายุ 13 ปี ตนเองรู้ข่าวอยู่ว่าน้องคบหาชายรุ่นพ่อ เป็นคนมีฐานะในหมู่บ้าน แต่แม้เป็นพี่สาวแท้ๆ แต่วันผูกข้อไม้ข้อมือ น้องก็ไม่ได้เชิญ จึงไม่ได้รู้จักกับผัวของน้อง ที่ก่อเหตุ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รุนแรงเกิดไป ห่วงอาการของน้อง ล่าสุดยังโคม่า ปอดทะลุ ต้องเจาะเลือดออกจากปอด ไม่รู้ต่อไปจะเป็นอย่างไร หลาน 2 คน ยังเรียนหนังสืออยู่เลย เชื่อว่าถ้าหลานชายไม่เข้าไปช่วยแม่เขา อาจจะรุนแรงจนถึงชีวิตได้ วอนตำรวจเอาผิดถึงที่สุด
เบื้องต้นตำรวจยังไม่ได้ทำการควบคุมตัวนายน้อยไว้ เนื่องจากให้การรับสารภาพและมอบตัวในที่เกิดเหตุ ไม่มีเจตนาหลบหนี มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง โดยจะเร่งประสานแพทย์ เพื่อเก็บหลักฐานร่องรอยแผล ประเมินอาการผู้บาดบาดเจ็บอีกครั้ง และจะเรียกนายน้อยมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย