ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 28 กค. พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ ปานบุญทอง ผกก.สภ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุยิงแล้วเผารถยนต์ และมีผู้เสียชีวิตอยู่ภายในรถขณะนี้ยังเกิดไฟไหม้รถยนต์ หลังรับแจ้งจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่พร้อมรถดับเพลิงเข้าไประงับเหตุ เหตุเกิดบนถนนหน้าเทศบาลตำบลพ่อมิ่ง หมู่ 3 ตำบลพ่อมิ่ง เมื่อเจอเจ้าหน้าที่ไปที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังลุกไหม้รถกระบะอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่จึงได้กั้นเส้นทางพร้อมระดมฉีดน้ำเพื่อระงับเหตุ ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีจึงสามารถควบคุมเพลิงไม่ได้ 

จากการตรวจสอบเป็นรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สี่ประตู สีบรอนซ์ทอง สภาพถูกไฟไหม้เสียหายทั้งคัน และเมื่อเจ้าที่ตรวจสอบภายในห้องโดยสารพบศพผู้เสียชีวิตถูกไฟคลอกจนไม่เหลือสภาพ อยู่บริเวณเบาะนั่งคนขับ ทราบชื่อ นายนาฟี อายุ 47 ปี นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนอาก้าตกเกลื่อนบนถนนกว่า 10 ปลอก เจ้าหน้าที่ได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายและภรรยาเดินทางมาจากบ้านพักที่อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เพื่อมาเยี่ยมและซ่อมแซมหอพักให้ลูกชาย ซึ่งเรียนอยู่ที่โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอปะนาเระ เหมือนเสร็จแล้ว ผู้ตายและภรรยาจึงได้ขับรถเพื่อเดินทางกลับบ้าน แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อผู้ตายขับมาถึงที่เกิดเหตุ ได้มีคนร้ายสองคน โดยคนขับใส่เสื้อแขนยาวสีฟ้า กางเกงขายาวสีดำ ส่วนคนซ้อนท้ายสวมเสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงขายาวสีดำ พกอาวุธปืนอาวุธสงคราม ทั้ง2มีการปกปิดอำพรางใบหน้า เมื่อได้โอกาสคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายได้ใช้อาวุธสงครามกราดยิงผู้ตายทันทีจนเสียชีวิต โดยคนร้ายสาดกระสุนตั้งแต่เห็นและลากยาวประมาน 40 เมตร ทำให้รถจอดแน่นิ่ง ส่วนภรรยา ที่นั่งข้างผู้ตายได้ เปิดประตูรถก่อนจะวิ่งหนี คนร้ายได้ลงจากรถพร้อมใช้น้ำมันเบนซินที่พกมาในแกลลอนราดภายในห้องโดยสารและตัวรถ ก่อนจะจุดไฟเผาจนเกิดไฟลุกไหม้อย่างรุนแรง หลังคนร้ายก่อเหตุได้กลับรถหลบหนีไปกลับไปทางเส้นทางเดิม

ด้าน พล.ต.ต.สันทัศน์ เชื้อพุฒตาล ผบก.ภ.จว.ปัตตานี ได้รถเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและชุดสอบสวนลงพื้นที่หาข่าวและปิดล้อมตรวจค้นบริเวณที่เกิดเหตุ ได้กำชับให้รวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุให้มากที่สุด รวมไปถึงภาพจากกล้องวงจรปิด โดยเฉพาะปลอกกระสุนปืนของคนร้าย เนื่องจากพฤติกรรมของคนร้ายมีความโหดเหี้ยม และก่อเหตุบริเวณย่านชุมชน และเชื่อว่าคนร้าย น่าจะเป็นมือปืนในพื้นที่และมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อความไม่สงบ สาเหตุในเบื้องต้น ทราบว่าผู้ตาย เป็นคนลักษณะโอ้อวดและอ้างเป็นเด็กของผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ นอกจากนี้ชอบพกพาอาวุธปืน รวมไปถึง ชอบอ้างว่าทำงานให้กับเจ้าหน้าที่ความมั่นคงในพื้นที่ จึงเชื่อว่ากลุ่มก่อความไม่สงบคงคิดว่าอาจจะเป็นสายให้กับเจ้าหน้าที่จึงได้ก่อเหตุยิงแล้วเผาเพื่อสร้างสถานการณ์

นางซียะ ภรรยาเปิดเผยทั้งน้ำตาว่า สามีเป็นคนดีมาก แต่เหตุการณ์แบบนี้ใครจะไปรู้ คนเราดี หรือไม่ดีถ้าจะเกิดก็ต้องเกิด สามีถือว่าเป็นเสาหลักของครอบครัว ดูแลทุกอย่าง แม้กระทั้งเรื่องลูกชาย ตั้งแต่ อนุบาล 1 จนถึง ม.1 เรื่องการเรียนสามีจะดูแลทุกอย่าง ตอนนี้สภาพจิตใจย่ำแย่มาก แต่โชคดีที่คนร้ายไม่ได้ยินตน ตนก็ต้องขอบคุณที่ไม่ยิงตน ให้ตนเป็นแม่ที่จะเลี้ยงดูลูกต่อไป คนร้ายให้เกียรติที่จะไว้ชีวิตตน ให้ตนได้อยู่กับลูก ส่วนตอนนี้ตนก็กังวลความปลอดภัยมาก อย่างหวาดกลัวอยู่