จากกรณีวันที่ 27 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลางดึกคืนที่ผ่านมาตำรวจรับแจ้งเกิดอุบัติเหตุบริเวณถนนซอยราษฎร์อุทิศ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก มีรถกระบะอีซูซุ ดีแม็คซ์ สีขาว ขับขี่โดยนายชนาภัทร พุ่งชนกับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีแดงเทา ส่งผลทำให้นายพายุ อายุ 27 ปี คนขี่รถจักรยานยนต์เสียชีวิตคาที่ โดยมีนายชนาภัทรฯ รอมอบตัวอยู่ 

 

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่านายชนาภัทรฯ ผู้ต้องหาขับขี่รถยนต์กระบะมากับ น.ส.แจน นามสมมติ ซึ่งเป็นแฟนของนายพายุ ทำให้นายพายุเกิดความหึงหวงขี่รถจักรยานยนต์ตามมาประกบ จากนั้นนายพายุอาศัยจังหวะขี่แซงรถกระบะขึ้นมาข้างหน้าและเกิดเสียหลักล้ม ฝ่ายนายชนาภัทรฯอ้างว่าเบรครถไม่ทันจึงชนกับรถจักรยานยนต์และได้ทับร่างนายพายุฯได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ตำรวจจึงได้ทำการควบคุมตัวเอาไว้ก่อนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนจะเป็นความประมาททำให้เกิดอุบัติเหตุ หรือความตั้งใจกระทำผิดเจตนาพุ่งชนหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งจะได้หาหลักฐานหรือกล้องวงจรปิดละแวกดังกล่าวอย่างละเอียดอีกครั้ง

ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ยังได้ภาพวงจรปิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นกล้องจากตลาดยิ้มยิ้มซึ่งอยู่ในอำเภอเมืองพิษณุโลก โดยเวลา 21.04 น. ของวันที่ 26 กรกฎาคม ในภาพจะไม่เห็นช่วงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะที่เกิดเหตุอยู่นอกเหนือรัศมีกล้องวงจรปิด แต่กล้องบันทึกเสียงขณะเกิดเหตุรถชนกัน โดยจะได้ยินเสียงรถเบรกและเสียงรถชนกัน จากนั้นจะเห็นลูกค้าภายในตลาดออกมายืนมุงดูเหตุการณ์ที่บริเวณริมถนน โดยมีคนตะโกนว่า “เฮ้ย รถเหยียบเลย รถกระบะชนมอเตอร์ไซค์”

 

จากนั้นไม่กี่วินาทีต่อมากล้องวงจรปิดตัวที่ 2 เวลา 21.05 น. จับภาพนาทีที่รถกระบะคันสีขาวของผู้ก่อเหตุซึ่งมีนายชนาภัทรเป็นคนขับเลี้ยวออกมาจากซอยที่เกิดขึ้น ก่อนมาจอดรถบริเวณหน้าตลาดแล้วยืนรอมอบตัวในที่เกิดเหตุ

 

หลังเกิดเหตุจะเห็นเหตุการณ์ชุลมุน โดยมีลูกค้าที่อยู่ในตลาดยิ้มยิ้มเดินข้ามถนนเพื่อไปดูจุดเกิดเหตุรวมทั้งช่วง 21.09 น. ตำรวจและอาสาสมัครกู้ภัยเข้ามายังที่เกิดเหตุ จากนั้นช่วงเวลาประมาณ 20.18 น. จะเห็นรถโรงพยาบาลเร่งมาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ มีการทำ CPR แต่ก็ไม่ดีขึ้นจึงนำร่างผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล

 

นางสาวริน (นามสมมติ) เป็นลูกพี่ลูกน้องของผู้เสียชีวิตเล่าว่า พ่อแม่ของน้องชายทราบว่าน้องชายประสบอุบัติเหตุหลังจากที่แม่ของนางสาวแจนโทรมาบอก ซึ่งตอนแรกทางญาติก็คิดว่าที่นางสาวแจนอยู่ในที่เกิดเหตุด้วยเนื่องจากซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของน้องชายและไปประสบอุบัติเหตุด้วยกัน เชื่ออีกว่าเป็นอุบัติเหตุจริงๆ

 

แต่กลายเป็นว่ามาทราบตอนหลังว่านางสาวแจนนั่งอยู่ในรถกระบะคันสีขาวซึ่งเป็นคันที่ชนน้องชายเสียชีวิต แม้จะมองว่าเป็นอุบัติเหตุแต่ก็ยังเชื่อไม่หมดยังคงสงสัยว่าทำไม”แจน”ถึงไปนั่งอยู่ในรถที่ชนน้องชาย ยืนยันว่าไม่รู้จักนายชนาภัทร ผู้ก่อเหตุ มาก่อนและก็ไม่รู้อีกว่าอีกฝ่ายรู้จักนางสาวแจงได้อย่างไร และนางสาวแจนขึ้นรถกระบะกับอีกฝ่ายไปได้อย่างไร

 

ตนมองว่าน้องชายน่าจะหึงหวงก็เลยขี่รถจักรยานยนต์ตามรถกระบะคันดังกล่าวจนกระทั่งไปตัดหน้ารถกระบะกระชั้นชิดเพราะก็อยากรู้เหตุผลที่แฟนสาวอยู่บนรถกระบะคันดังกล่าว ซึ่งหลังจากที่น้องชายตนเสียชีวิตนางสาวแจนที่เป็นแฟนสาวก็ไม่ได้มาที่งานศพน้องชายเลย

เผยทั้งคู่คบกันได้ประมาณ 2 ปีแล้ว โดยตอนแรกน้องชายยังไม่บอกว่าแจนเป็นลูกติดเนื่องจากกลัวครอบครัวรับไม่ได้ ก็มีการปิดเป็นความลับ ภายหลังครอบครัวรู้ก็ไม่ได้ว่าอะไรแล้วก็ให้ทั้งคู่คบกัน คบกันในลักษณะเป็นแฟนต่างคนต่างอยู่บ้านของตนเองก็จะมีบ้างนานๆครั้งที่แจนมานอนบ้านน้องชายหรือน้องชายไปนอนบ้านพักของแจน 

 

ก่อนเกิดเหตุน้องก็ระบายให้ฟังว่าจับได้ว่าลักษณะแจนไปคุยกับผู้ชายคนอื่น แล้วเพื่อนบ้านก็เล่าให้ฟังว่าทั้งคู่ทะเลาะกันคาดว่าน่าจะเรื่องหึงหวง จากเรื่องที่เกิดขึ้นก็อยากจะให้คนที่ก่อเหตุรับโทษตามกฏหมาย และอยากให้ตำรวจคลี่คลายคดีว่าสรุปแล้วเป็นอุบัติเหตุหรือจงใจชนทำให้เสียชีวิต

 

ต่อมาเราได้เดินทางไปที่บ้านพักของนางสาวแจน (นามสมมติ) แฟนสาวของผู้เสียชีวิต โดยมีคนอยู่ในบ้านพักแต่ไม่สะดวกที่จะให้ข้อมูลกับทีมข่าว เราจึงได้พูดคุยกับนางก้อย (นามสมมติ) น้าของแฟนสาวผู้เสียชีวิต บอกว่า ได้สอบถามหลานสาวแล้ว อ้างว่าวันที่เกิดเหตุเพิ่งกลับมาจากไปกินหมูกระทะกับเพื่อน ซึ่งคนที่อยู่ในรถกระบะไม่ใช่ชายคนสนิทแต่เป็นเพียงเพื่อนเท่านั้น

 

และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางฝ่ายนายพายุ ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของหลานสาวก็มีนิสัยที่ค่อนข้างขี้หึงอยู่แล้วอาจจะไม่พอใจในเรื่องดังกล่าว แต่ในส่วนเกิดเหตุได้อย่างไรหลานสาวยังไม่ได้เล่าให้ฟัง

 

ส่วนตัวก็ถามหลานว่าทำไมไม่ไปงานศพของนายพายุ หลานบอกเพียงว่าแม่ของพายุเข้าใจหลานผิดจึงยังไม่พร้อมที่จะไปร่วมงานศพในตอนนี้ ซึ่งหลานสาวตอนก็เสียใจและสะเทือนใจที่สูญเสียแฟนหนุ่มเช่นเดียวกัน 

 

ในส่วนทางครอบครัวตนก็เอ็นดูนายพายุตลอด เพราะทั้งครอบครัวในพายุและครอบครัวหลานสาวรับทราบว่าทั้งคู่คบหากันเป็นแฟน ทางครอบครัวของตนก็ยังบอกนายพายุให้มาผูกข้อไม้ข้อมือหลานสาว แต่เจ้าตัวอ้างว่าขาดทุนเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจจึงยังไม่พร้อม ซึ่งนายพายุก็เคยมานอนที่บ้านพักของหลานสาวหลายครั้งและครอบครัวของตนก็รักเอ็นดูเหมือนคนในครอบครัว

ไขปมตายพิรุธ หนุ่มถูกซี้เมียขับรถขยี้ร่าง งงทั้งบ้านคนตายไม่ใช่ผัวเก่า