เปิดวงจรปิดไอ้หื่นตีเนียนให้สาววัย 17 ขับขี่รถไปส่งแยกไฟแดง ก่อนเปลี่ยนเส้นทางพาเข้าป่าอ้อยหวังขืนใจ ก่อนชิงรถจักรยานยนต์ผู้เสียหายหลบหนี ด้านผู้กำกับประโคนชัย ประกาศเตือนภัยและสั่งชุดสืบล่าตัวกลับมาดำเนินคดี
ล่าสุดวันนี้ (28 ก.ค.67) ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปตามความคืบหน้า ที่ สภ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ โดยตามข้อมูลหลังจากตำรวจได้รับแจ้งเหตุ ตำรวจได้มีการลงพื้นที่ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดทันที จนกระทั่งมาทราบว่าคนก่อเหตุคือเพลิน อายุ 44 ปี และต่อมา พ.ต.อ.วิษนุ อาภรณ์พงษ์ ผกก.สภ.ประโคนชัย จึงมีการออกหมายจับและประกาศเตือนให้ระวังโดยหากใครพบเห็นหรือมีเบาะแสให้โทรศัพท์แจ้งทางผู้กำกับได้ตลอดเวลา โดยลักษณะรถจักรยานยนต์ที่นายเพลิน คนก่อเหตุชิงทรัพย์ไป เป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อเวฟสีน้ำเงินใส่ล้อแม็กซ์ ไม่ติดกระจก ส่วนรูปร่างของนายเพลิน คนก่อเหตุ เป็นคนรูปร่างผอมดำและสูงประมาณ 175 เซนติเมตร
ส่วนภาพวงจรปิดในวันเกิดเหตุ ก็คือวันที่ 24 ก.ค. เวลาตามกล้อง ก็คือเวลา 17.02 น. หลังจากที่นายเพลิน คนก่อเหตุทำตัวน่าสงสารเพื่อให้น้องชมพู่ ผู้เสียหายขับขี่รถไปส่งที่แยกไฟแดง จะเห็นว่า วงจรปิดทั้ง 4 มุมและภาพนิ่งตามเส้นทางในตัวอำเภอประโคนชัย นายเพลิน คนก่อเหตุ จะนั่งซ้อนท้ายน้องชมพู่ ออกมาโดยมีการบอกให้เลี้ยงซ้ายเลี้ยวขวาเข้าไปตามซอยต่างๆและจะสังเกตเห็นว่า ตัวนายเพลิน คนก่อเหตุ มีการแต่งกายสวมหมวกและสวมหน้ากากอานามัยเพื่อปิดบังใบหน้า
ขณะเดียวกันวงจรปิด หลังจากนายเพลินก่อเหตุ จะเห็นว่า เวลา 17.32 น. นายเพลิน มีการขี่รถจักรยานยนต์ของน้องชมพู่ ออกมาจากจุดเกิดเหตุ โดยไปผ่านหน้ากล้องวงจรปิดภายในหมู่บ้านไทรโยก ในพื้นที่ตำบลประโคนชัย และวงจรปิดอีกมุม จะเห็นว่านายเพลิน คนก่อเหตุมีการขับขี่รถไปเลี้ยวตรงถนนใหญ่ เพื่อขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปยังรอยต่ออำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์
ซึ่งจากการสอบถาม น.ส.ชมพู่ (นามสมมติ)อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ทราบว่าก่อนเกิดเหตุตนกับเพื่อนรวม 3 คนนั่งเล่นอยู่ริมสระน้ำ “บึงหนองระแซซัน”ซึ่งเป็นสระน้ำสาธารณะ อยู่ในเขตเทศบาลตำบลประโคนชัย อ.ประโคนชัย
จากนั้นได้มีชายอายุประมาณ 40 ปี ลักษณะสวมหมวก ใส่เสื้อยืดสีดำ กางเกงยืน เดินมาขอความช่วยเหลือ ทำหน้าตาน่าสงสารมาขอให้ขับรถไปส่งเอากระเป๋าเงินที่อยู่กับเพื่อนที่กำลังตกปลาอีกฝั่งหนึ่งของบึงฯตนเองมองเห็นคนกำลังตกปลาอยู่ ประกอบกับสงสารลุง จึงอาสาไปส่ง
พอซ้อนรถได้ไม่นานลุงบอกว่าให้ไปอีกทางหนึ่ง จากนั้นลุงบอกว่า “มีระเบิด”ให้ขับรถไปเรื่อยๆ จึงทำตามขับเลาะไปตามถนนสาย 24 จากนั้นลุงบังคับให้เลี้ยวซ้ายลงถนนสายรอง แล้วบังคับให้ขับเข้าไปในป่าอ้อยข้างทาง ขับลึกลงไปประมาณ 200 เมตร ลุงบอกให้จอดรถ
จากนั้นลุงได้ถอดกุญแจรถออกแล้วล็อdคอตน บอกว่า "ขอทีเดียว”คือหมายจะข่มขืนตน ได้จังหวะใช้กำลังที่มีอยู่ผลักลุงออกไปแล้ววิ่งหนีไม่คิดชีวิตจนถึงถนนลาดยาง โชคดีที่มีคนมาเห็นพอดี ส่วนลุงใช้กุญแจรถของตนขับรถ ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นเวฟ หนีไปต่อหน้า
ขณะเดียวกันก่อนที่นายเพลิน จะไปก่อเหตุกับน้องชมพู่ ผู้เสียหายวัย 17 ปี วันนี้ทีมข่าวช่อง8 ไปได้คลิปหลักฐานจากกลุ่มพลเมืองดี ซึ่งเป็นสาวประเภทสองในพื้นที่อำเภอประโคนชัย
โดยคลิปดังกล่าวตามข้อมูลในช่วงเช้าของวันเกิดเหตุ (24 ก.ค.) นายเพลิน คนก่อเหตุได้มีการเข้าไปที่บ้านของคุณจอย ซึ่งเป็นแม่ค้าผักในพื้นที่ โดยนายเพลิน ไปหลอกคุณจอยว่า มีคนนัดให้มาหา โดยคนที่นัดให้เข้ามาเป็นกะเทยรูปร่างขาวๆอ้วนๆ แต่งหน้าปากใหญ่ๆ ซึ่งคุณจอย ก็ถามต่อว่า ไปเจอกับกะเทยคนอ้วนๆที่ไหน โดยนายเพลิน ก็อ้างว่า ไปแลกเบอร์โทรศัพท์กันในงานแห่เทียนพรรษาเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม โดยกะเทยคนนั้นบอกว่า ถ้าจะแวะเข้ามานั่งเล่นให้เข้ามาหาที่นี่ ซึ่งคุณจอย ก็บอกว่า กะเทยอ้วนๆไม่ได้อยู่ที่นี่ ถ้าจะไปหาต้องเดินไปแถวๆบึง ถ้าไม่ออกไปจากบ้านจะแจ้งความนะ จากนั้นนายเพลิน ก็รีบลุกขึ้นและสะพานกระเป๋าออกไปจากบ้านของคุณจอย ซึ่งจะเห็นว่าช่วงเช้าก่อนจะไปก่อเหตุกับเด็ก 17 นายเพลิน ยังสวมเสื้อสีส้มและไม่ได้สวมหมวก
ส่วนหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดอีกชุด จะเป็นเหตุการณ์หลังจากคลิป ซึ่งด้วยความสงสารของคุณจอยกับเพื่อนๆ ที่เห็นว่าระยะทางมันไกลหากปล่อยให้นายเพลิน เดินไป และตอนนั้นกลุ่มของคุณจอย ก็ยังไม่แน่ใจว่า นายเพลิน เป็นคนรู้จักกับเพื่อนกระเทยที่อ้วนๆหรือไม่
โดยภาพวงจรปิด จะเห็นว่า เวลา 14.15 น. ทางคุณจอย กับรุ่นพี่ ได้มีการพานายเพลิน ซ้อนท้ายและขี่รถมาจอดที่หน้าร้านของคุณแอนนี่ ซึ่งเป็นเพื่อนกะเทยที่มีรูปร่างและลักษณะตรงกับที่นายเพลิน อ้างว่ารู้จักและมีการนัดกันมาเจอ
จากนั้นกล้องวงจรปิดมุมหน้าร้านของคุณแอนนี่ จะเห็นว่าเมื่อนายเพลิน ลงจากรถ เจ้าตัวมีการเดินไปนั่งที่หน้าร้านตีเนียนเหมือนรู้จักกับเจ้าของร้าน แต่บังเอิญคุณแอนนี่ เจ้าของร้านไม่ได้อยู่ที่ร้าน ซึ่งจะเห็นว่าคุณจอย กับรุ่นพี่ที่มาส่ง พยายามที่จะไปเคาะกระจกหน้าร้านเพื่อที่จะเรียกคุณแอนนี่ ออกมาเจอกับนายเพลิน แต่ไม่มีใครอยู่ในร้าน คุณจอย คนที่มาส่ง จึงปล่อยให้นายเพลิน นั่งรออยู่ที่หน้าร้าน
จากนั้นเมื่อคุณจอย ขับรถออกไปจากร้าน จะเห็นว่าเวลา 14.48 น. ตัวนายเพลิน มีการสวมหมวกปิดบังใบหน้า และเดินไปเดินมาคล้ายกับจะหาทางเข้าไปในร้าน และก็เดินออกไปตรงถนน
แต่ปรากฎว่า หลังจากนายเพลิน เดินออกไปประมาณ 1 ชั่วโมง จะเห็นว่าเวลา 15.48 น. นายเพลิน มีการเดินย้อนกลับมาที่ร้านอีก ซึ่งรอบนี้จะเห็นว่า นายเพลิน มีการเปลี่ยนมาสวมเสื้อสีดำและสวมเสื้อคลุมสีเขียวทับ เมื่อมาถึง ก็เดินไปเดินมาที่หน้าร้าน และสุดท้ายก็เดินไปที่หลังร้าน
ส่วนวงจรปิดตัวที่ 5 ซึ่งเป็นวงจรปิดภายในร้าน จะเห็นว่า เมื่อนายเพลิน ตัดสินใจเดินไปทางหลังร้าน นายเพลิน มีการเปิดประตูเข้าไปภายในร้าน เพื่อที่จะเข้าไปขโมยของมีค่า แต่พอเข้าไปแล้วดันถูกหมาเห่าไล่ นายเพลิน จึงรีบเดินออกไปทางประตูหลังที่เข้ามา
โดยคุณแอนนี่ เจ้าของร้านเปิดใจกับทีมข่าวว่า วันเกิดเหตุตนเองไม่รู้เลยว่าเพื่อนพาใครมาส่งที่ร้าน และยืนยันว่าไม่เคยรู้กับนายเพลิน ไม่เคยเจอหน้ากันและวันแห่เทียนเข้าพรรษา ก็ไม่ได้ไปร่วมงานดังกล่าว
ซึ่งหลังเกิดเหตุ ตนเองมาไล่ดูภาพวงจรปิดและมีการไปแจ้งความกับตำรวจ โดยขณะที่เข้าแอบเข้ามาในร้านยังโชคดีที่เขายังไม่ทันได้ขโมยของมีค่าไป ซึ่งตนเองไม่รู้ว่าเขามองไม่เห็นเครื่องทองเหลืองและไม่เห็นไอแพf จึงไม่หยิบออกไป หรือเขาอาจจะตกใจหมาเห่าไล่ หรือตกใจที่เงยหน้าไปเห็นวงจรปิดที่ติดอยู่ภายในร้าน
ยืนยันก่อนเกิดเหตุตนเองไม่เคยเห็นนายเพลิน เดินวนเวียนมาที่หน้าร้าน และไม่เคยเห็นเขาที่ไหนมาก่อน ส่วนเรื่องที่เขาบอกรูปร่างตนเองไปกับเพื่อนๆถูก ส่วนตัวคิดว่าเขาคงเห็นรูปที่เพื่อนเปิดให้ดูเลยเออออไปว่ารู้จัก ซึ่งตนเองยืนยันไม่รู้จักกับคนแบบนี้มาก่อนแน่นอน ยอมรับตกใจว่าคนที่เข้ามาที่ร้านเป็นคนเดียวกันกับคนที่ไปก่อเหตุกับน้องวัย 17 ปี ยอมรับว่ากลัวมากนอนไม่หลับตั้งแต่เกิดเหตุเพราะกลัวว่าเขาจะย้อนกลับมาที่ร้าน