จากกรณี เฟซบุ๊กหนึ่งได้โพสต์เตือนภัย โดยมีเนื้อหาใจความสรุปว่า
“หญิงสาวหน้าตาดี มีคนติดตามใน TikTok จำนวนมากโดยใช้ชื่อว่าพลอย ใน TikTok โปรไฟล์หรู กินดีอยู่ดี แต่เบื้องหลังกลับเป็นขโมย”
ยังไม่เจอตัวนะครับตอนนี้ อยากฝากทุกคนที่เห็นโพสต์นี้ ใครพบเห็น น.ส.พลอยณภัทร ตามรูปภาพที่ผมลง รบกวนติดต่อผมมาหน่อยนะครับ ตอนนี้ครอบครัวผมเดือดร้อนมาก
รักจริงคือลักขโมย เสียแรงที่เคยให้เข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านร่วมกันเป็นครอบครัว พฤติกรรมและความคิดไม่มีช่วงไหนที่คิดได้เลย ตั้งแต่เข้ามาอาศัยอยู่ในบ้าน เวลาเป็นเดือน เงิน ทองของคนในบ้านหาย แต่ด้วยความเชื่อใจ คนในบ้านไม่เคยคิดว่าเป็นคนใน คิดว่าเป็นคนนอกมาตลอด ของที่หายก่อนที่จะมีการลักขโมยในครั้งนี้คือ สร้อยทองพี่ชาย แหวนทองแม่ เงินในกระเป๋าผม (เงินในกระเป๋าผมหายบ่อยมาก ผมพูดกับแฟนเสมอว่าเงินผมหายไปไหน) ย้ำว่าบ่อยมาก ตอนนี้เท่าที่ลองคำนวณดู ผมว่าน่าจะเป็นมันไม่ใช่ใครมันนี่แหละ
ทีมข่าวสอบถามคุณภูวนัย หรือต่อ อายุ 25 ปี น้องชายของนายบรรชา หรือ ต้น ผู้เสียหาย พร้อมด้วย คุณวรวรรณ อายุ 57 ปี คุณแม่
เล่าว่า นายต้น ลูกชายคนโต ได้ไปคบกับนางสาวพลอยณภัทร หรือน้องพลอย ผู้ใช้บัญชีในติ๊กต๊อก มีผู้ติดตาม 29,000 คน เจ้าตัวหน้าตาดีและมักอัดคลิป TikTok เต้นและทำกิจกรรมเป็นประจำ
โดยนางสาวพลอย คบกับนายต้นได้ประมาณสี่ปีก็ไปมาหาสู่กันตามปกติแต่ไม่เคยมาค้างที่บ้าน จนกระทั่งช่วงเดือนเดือนเมษายน 25667 ตั้งแต่วันที่ 14 เป็นต้นมานางสาวพลอยมาค้างที่บ้าน เวลามาบ้านก็เหมือนวัยรุ่นทั่วไปหน้าตาน่ารักและขยัน ขายของออนไลน์พวกขนมและเสื้อผ้า แม่ยังเอ็นดูและรักน้องพลอยเหมือนลูกคนหนึ่ง
ช่วงเดือนมีนาคมน้องพลอยบอกว่าได้ขับรถไปชนกับรถปอเช่ต้องใช้เงิน 300,000 บาทเพื่อชดใช้กับเหตุที่เกิดขึ้นโดยมาขอร้องให้แม่นำรถยนต์อีกคันนึงที่ผ่อนหมดแล้วไปรีไฟแนนซ์ให้น้องพลอยได้เงินมาจำนวน 300,000 บาทผ่อนเดือน ละ 6610 บาทโดยน้องพลอยเป็นคนผ่อน เพิ่งผ่อนได้ 4 เดือน
จากนั้นก็ดูเหมือนเป็นปกติทุกอย่างแต่มีข้อสงสัยในบ้านเกิดขึ้นเพราะเงินของน้องต่อลูกชายอีกคนมักจะหายเป็นประจำครั้งละ 1000 ถึง 2000 บาทแต่ก็ไม่ได้มีใครสงสัยอะไรเพราะคิดว่าเป็นคนในครอบครัวไม่มีใครเป็นขโมย
ด้านนายภูวนัยหรือต่อน้องชายของผู้เสียหายเล่าว่าตนเองนอนห้องเดียวกับพี่ชายแล้ววางกระเป๋าเงินและสร้อยคอที่ใส่ถอดไว้ที่ห้องนอนปรากฏว่าช่วงหนึ่งตอนนำสร้อยมาใส่แล้วรู้สึกว่าลักษณะของสร้อยเปลี่ยนไปโดยสวมลงที่คอแล้วติดที่หัวจึงเข้าใจว่าหัวตัวเองใหญ่ขึ้นไม่ได้คิดว่าถูกสลับสร้อยจนกระทั่งแม่ ติดปัญหาเรื่องเงินจะซื้อของเข้าร้านจึงเอาทองให้แม่ไปขายร้านทองบอกว่าทองเส้นนี้คือทองปลอมตอนนั้นก็ตกใจว่าปลอมได้อย่างไร เพราะอยู่ในห้องตลอดจนมารู้ที่หลังว่านางสาวพลอยสลับทองของจริงไปขายส่วนทองที่ อยู่ในห้องเป็นของปลอมมานานแล้ว
พฤติกรรมของนางสาวพลอยถือว่าวีรกรรมสุดยอดที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะทำได้เพราะทางครอบครัวเราดีกับนางสาวพลอยมาตลอดวันที่พีก ที่สุดก็คือวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา นางสาวพลอยเข้ามาที่บ้านหลังจากเลิกกับพี่ชายไปแล้วโดยเข้ามา พูดคุยกับแม่ อ้างว่ามือถือมีปัญหาจะขอเข้าดู อีเมลล์จากคอมพิวเตอร์ของพี่ชายระหว่างนั้นแม่ไม่ได้คิดว่า นางสาวพลอยจะเป็นหัวขโมยจึงให้เข้าห้องไปดูคอมพิวเตอร์จากนั้นก็พบว่าปฏิบัติการนางจิ้งจอกเข้าสิง นางสาวพลอยทันทีที่เดินเข้าห้องแม่ขโมยเงินขายของ 16500 บาท เหลือทิ้งไว้ในกระเป๋าให้แม่เพียง 12 บาท ทอง 2 บาท50สตางค์ พระเลี่ยมทอง แหวน50สตางค์ แหวนเพชร 7 หมื่น
รวมมูลค่าทรัพย์สินที่เสียให้กับนางสาวพลอยประมาณ 500,000 บาทซึ่งภาพกล้องวงจรปิดที่ร้านจะเห็นว่านางสาวพลอยเข้ามาที่ร้านแล้วเข้ามาป่าบริเวณ ลิ้นชักที่เก็บเงิน จากนั้นก็ทำท่าล้วงเข้าไปใน ลิ้นชักเพื่อหยิบเงิน แต่ได้เงินจากในห้องแม่แล้ว นางสาวพลอยยังใจดีไม่เอาเงินในลิ้นชักขายของไปด้วยจากนั้นก็ขับรถออกไป
ครอบครัวเราจึงไปแจ้งความที่สน. นิมิตใหม่เพื่อดำเนินคดีกับนางสาวพลอยและอยากบอกนางสาวพลอยว่าเงินที่เอาไปถ้าเหลืออยู่ก็ให้เอามาคืนเพราะมันคือทรัพย์สินของทั้งครอบครัวทั้งน้องชายพ่อแม่ถูกขโมยของมีค่าไปทั้งหมดอยากให้นางสาวพลอยนำมาคืน
ส่วนสาเหตุ ที่นางสาวพลอยใช้เงินจำนวนมาก เป็นเพราะติดพนันออนไลน์โดยพบว่านางสาวพลอยเล่นสล็อตโดยเติมเงินเล่นพนันครั้งละไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท และชอบทำตัวกินหรูอยู่แพง จึงใช้เงินจำนวนมาก