กรณีเมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 29 ก.ค.67 ตำรวจสภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันได้รับบาดเจ็บบริเวณขนำไม่มีเลขที่ บ้านควนเนียง หมู่ 11 ต.ท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย จนท.มูลนิธิใต้เต๊กตึ้งทุ่งใหญ่ ไปที่เกิดเหตุ
เมื่อถึงพบร่างคนเจ็บนั่งอยุ่หน้าขนำ จึงรีบนำส่ง รพ.ทุ่งใหญ่ สอบสวนทราบคนเจ็บชื่อนายธนกฤติ อายุ 16 ปี มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนสั้นไม่ทราบชนิดเข้าขาซ้ายทะลุ1นัด บาดเจ็บเล็กน้อย แพทย์ช่วยเหลือจนพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังให้พักรักษาตัวที่ รพ.ระยะหนึ่งก่อนเพื่อความปลอดภัย
ทีมข่าวตรวจสอบสภาพกล้องวงจรปิดพบว่า รถเก๋งสีขาวของกลุ่มผู้ก่อเหตุ มาโดยมีนายดิว อยู่ภายในนั้น เวลา 21:02 น. ของวันที่ 29 ก.ค.67 ได้ขับมุ่งหน้าเข้าไปยังที่เกิดเหตุ
จากนั้นเวลา 21:14.23 น. กล้องวงจรปิดซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุจะสามารถบันทึกเสียงปืนเอาไว้ได้ 1 นัด ซึ่งเป็นเสียงปืนที่นายธนกฤติ ถูกยิงจนได้รับบาดเจ็บที่บริเวณต้นขาซ้าย
จากนั้นเวลา 21:15.12 น. กล้องวงจรปิดตัวเดิมจะสามารถจับภาพรถเก๋งสีขาวซึ่งมีนายดวงอยู่ในนั้นขับหลบหนีจากที่เกิดเหตุด้วยความเร็วทันที
จากนั้นกล้องวงจรปิดบนถนนจุฬาภรณ์จะสามารถจับภาพรถเก๋งสีขาวของกลุ่มผู้ก่อเหตุ ขับอยู่บนถนนจุฬาภรณ์เพื่อมุ่งหน้ากลับไปยังจังหวัดกระบี่ซึ่งเป็นที่อยู่ของนายดวงและกลุ่มเพื่อน ในเวลา 21.15น. ,21.16,และ21.19น.
ขณะเดียวกันกล้องวงจรปิดซึ่งอยู่ใกล้กันกับบ้านที่เกิดเหตุ เวลา 21:16 น. จะสามารถจับภาพสามีของนางสังวาลย์ และลูกชายซึ่งเป็นเพื่อนของนายธนกฤติ ผู้บาดเจ็บ เดินออกมาจากบ้านหลังจากที่นายกิตถูกยิงได้รับบาดเจ็บ เพราะตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเดินตามหาอาวุธเพราะกลัวว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุจะกลับมาอีก
จากนั้นเวลา 21:21 น. กล้องวงจรปิดจะสามารถจับภาพสามีของนางสังวาลย์ ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ เดินถืออาวุธมีดที่หอด้วยผ้าเอาไว้มาพร้อมกับลูกชาย และมุ่งหน้ากลับไปยังจุดเกิดเหตุเพราะกลัวว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุจะกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก โดยในกล้องวงจรปิดจะเห็นว่านางสังวาลย์นั้นเดินตามสามีไปด้วย
ต่อมาทีมข่าวได้มาพูดคุยกับนายธนกฤติ ผู้บาดเจ็บ ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า สาเหตุที่ตนถูกยิงได้รับบาดเจ็บในครั้งนี้มาจาก ที่ น.ส.ชมพู่ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี แฟนสาวของตนมีปากเสียงกับป้าแท้ๆของเธอผ่านแชตมีการด่าทอกันไปมาจนกระทั่ง นายดิว อายุ 15ปี ลูกชายของป้าแฟนสาว ทราบเรื่องเข้า แล้วเกิดความไม่พอใจ ที่แฟนสาวของตนไปต่อว่าบุพการีของนายดวง ทำให้นายดวงมีการข่มขู่ว่าจะเอาปืนมายิงแฟนสาวของตน จากนั้นต่างฝ่ายต่างมีการท้าทายกัน แล้วมานัดเคลียร์กันตรงบริเวณขนำที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านเพื่อนของตน โดยกลุ่มของนายดวงนั้น ขับรถเก๋งสีขาวมากันพร้อมพวกทั้งหมด 7 คน จากนั้นตนและแฟนสาวได้ เดินเข้าไปเคลียร์ใจกับนายดวงแต่ปรากฏว่าคุยกันไม่รู้เรื่อง จึงตัดสินใจเดินกลับเข้าบ้านเพื่อน ในระหว่างนั้นตนได้ยินเสียงคนในกลุ่มของผู้ก่อเหตุพูดออกมาว่า “ยิงเลยยิงเลย” จากนั้น ก็มีคนในกลุ่มผู้ก่อเหตุชักอาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์ออกมาแล้วยิงใส่ตนจำนวน 1 นัดจนได้รับบาดเจ็บที่บริเวณต้นขาซ้าย แล้วจากนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุก็ได้ขับรถเก๋งสีขาวหลบหนีออกไปจากที่เกิดเหตุทันที ซึ่งตนก็อยากจะให้ทางผู้ก่อเหตุนั้นมามอบตัวกลับจากที่ตำรวจและได้รับโทษตามกฏหมาย
วันนี้ 30 ก.ค.2567 ทีมข่าวเดินทางมายังโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ได้พูดคุยกับนางสาวชมพู อายุ 15 ปี แฟนสาวของผู้บาดเจ็บ เล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้ตัวเองคบหากับนายธนกฤติ ผู้บาดเจ็บได้ประมาณ 7 เดือน แล้วมีวันหนึ่งที่ธนกฤติ ได้ไปนอนเล่นที่บ้านตัวเอง ซึ่งตัวเองอาศัยอยู่บ้านคนเดียว เพราะแม่ตัวเองไปทำงานต่างจังหวัด และมีนางสาวชิษนุชา อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นป้า อยู่บ้านข้างๆ คอยดูแลตัวเองเลี้ยงดูตัวเองแทนแม่
จังหวะที่ตัวเองนอนเล่นกับนายธนกฤติ ในบ้านนั้น ป้าได้เปิดประตูเข้ามาเจอ แล้วคิดว่าตัวเองและธนกฤติมีอะไรกัน จนป้าได้โทรไปฟ้องแม่ตัวเอง และมีการเรียกสินสอดกับครอบครัวฝ่ายชาย 200,000 บาท หลังจากนั้น ป้าของตัวเองก็ได้เดินทางไปที่บ้านของฝ่ายชายจำนวนหลายครั้งเพื่อขอเรียกค่าสินสอดดังกล่าว
แต่ครอบครัวฝ่ายชายก็บอกว่า “ยังไม่มีเงินขนาดนั้น เปลี่ยนเป็นทองได้ไหม” ซึ่งป้าของตัวเองก็บอกว่า “ไม่ได้” แล้วป้าก็จะยื่นคำขาดว่า ให้แฟนตัวเองจ่ายมาก่อน 40,000 ก็ได้ ถ้าไม่จ่ายจะให้เลิกกับตัวเอง จากนั้นป้าก็ได้บังคับให้ตัวเองไปเลิกกับธนกฤติ เท่านั้นยังไม่พอป้ายังเข้ามายุ่งวุ่นวายกับชีวิตตัวเอง คอยแคปสตอรี่เฟชบุ๊ก ไอจีของตัวเองไปฟ้องแม่อยู่ตลอด ทำให้ตัวเองอึดอัดใจ แล้วได้พิมพ์แชตไปด่าป้า ชนิดที่ว่าขึ้น มึง-กู ทำให้นายดิว วัย 16 ปี ลูกชายของป้าไม่พอใจ แล้วเมื่อคืนนี้ก่อนจะเกิดเหตุ นายดิว ได้แชตมาหาตัวเอง ท้าทายตัวเอง ว่าจะมายิงตัวเอง ตัวเองจึงส่งโลเคชั่นจุดที่ตัวเองอยู่ให้กับนายดิว ซึ่งตอนนั้นตัวเองอยู่ที่บ้านของเพื่อน แล้วบอกนายดิวไปว่า “ถ้าจะมา ก็มาเจอกันตรงนี้เลย”
ผ่านไปประมาณ 10 นาที นายดิว ได้นั่งรถเก๋งคันสีขาวมาพร้อมเพื่อน 7 คน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ตัวเองและธนกฤติ แฟนหนุ่ม ได้เดินเข้าไปคุยกับนายดิว และเพื่อนของเขาอีก 6 คน ฝั่งนั้นเป็นชายทั้งหมด โดยเคลียร์กัน 5 นาที แต่เคลียร์ไม่จบ หลังจากนั้นตัวเองและแฟนหนุ่มกำลังจะเดินกลับเข้าบ้านของเพื่อน ก็พบว่าหนึ่งในเพื่อนของนายดิว ได้ใช้อาวุธปืนยิงเข้ามาหาฝั่งตัวเองจำนวนหนึ่งนัด ทำให้กระสุนไปโดนที่ต้นขาซ้ายของแฟนหนุ่มตัวเองจนได้รับบาดเจ็บ จากนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุก็ได้ขับรถเก๋งหลบหนีออกจากจุดเกิดเหตุมุ่งหน้าจังหวัดกระบี่
ตัวเองไม่คาดคิดเลยว่านายดิว ซึ่งเป็นญาติของตัวเองเค้าจะพาพวกมาก่อเหตุยิง ตัวเองและแฟนได้ถึงขนาดนี้ ซึ่งตัวเองอยากให้ตำรวจติดตามตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีถึงที่สุด และยืนยันว่าจะเดินหน้าคบกับแฟนหนุ่มต่อไป
ทีมข่าวได้มาพูดคุยกับนางชิษณุชา อายุ 39 ปี หรือป้ากิม ป้าของนางสาวชมพู แฟนสาวผู้บาดเจ็บ เธอให้สัมภาษณ์ว่าก่อนหน้านี้แม่และพ่อของนางสาวชมพูเขาแยกทางกันทำให้ชมพูต้องอาศัยอยู่บ้านคนเดียว และจะมีตัวเอง กับย่าของนางสาวชมพูที่เป็นคนเลี้ยงดูแล
ตัวเองยอมรับว่าหลานสาวเป็นเด็กที่เอาแต่ใจหากไม่ทำตามใจเขา เขาก็ขู่จะฆ่าตัวตาย ก่อนหน้านี้ก็เคยกินยาฆ่าตัวตายมาแล้ว แต่ญาติพากันช่วยเหลือไว้ได้ทัน และยอมรับว่าหลานสาวเป็นเด็กค่อนข้างที่จะติดผู้ชาย
ก่อนหน้านี้ครอบครัวจับได้ว่าหลานสาวพาผู้ชายมานอนในบ้าน จึงมีการสืบจนทราบว่า ชายคนดังกล่าวคือนายธนกฤติ (ผู้บาดเจ็บ) จากนั้นครอบครัวตัวเองจึงติดต่อไปยังครอบครัวของฝ่ายชายเพื่อให้เขามาสู่ขอฝ่ายหญิงให้ถูกต้องตามประเพณี เพื่อไม่ให้หลานสาวตัวเองเสียหายและดูไม่ดี โดยทางตัวเองมีการเรียกค่าสินสอดไปจำนวน 200,000 บาท แต่ทางนั้นก็บอกว่าไม่มี หลังจากนั้นก็มีการเรียกให้ฝั่งนั้น จ่าย 40,000 บาท มาก่อนก็ได้ แต่เขาก็ไม่มาตามนัดกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่จ่ายค่าเสียหายให้กับทางครอบครัวตัวเองแม้แต่บาทเดียว
จนกระทั่งหลานสาวได้ย้ายไปอยู่กับแม่ของเขาที่ตัวเมืองจังหวัดกระบี่แล้วฝ่ายชายก็ไปอาศัยอยู่กับหลานสาวที่นั่น จนหลานสาวไม่เป็นอันเรียนหนังสือ
ก่อนจะเกิดเหตุหลานสาวได้โพสต์ Stories Facebook เกี่ยวกับการเสพกัญชากับแฟนหนุ่ม แล้วเขาคิดว่าตัวเองเป็นคนส่ง Stories ดังกล่าว ไปให้แม่ของเขาดู ส่วนแม่ของเขาไม่พอใจแล้วก็โทรไปด่านางสาวชมพู จนชมพูโกรธแค้นตัวเอง
หลังจากนั้น นางสาวชมพู ก็ได้ทักแชตมาด่าตัวเองด้วยคำหยาบคายสารพัด พร้อมกับขึ้น “มึง กู” กับตัวเองซึ่งเป็นป้าแท้แท้ของเขาอีกด้วย ตัวเองจึงได้ไประบายเรื่องดังกล่าวให้กับหลานชาย ซึ่งเป็นเพื่อนของ นายดิวลูกชายตัวเองฟัง และยืนยันว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนบอกลูกชายให้ไปยิงชมพู แต่อย่างใด พอลูกชายทราบเรื่องจากเพื่อนก็ได้มีการทักข้อความไปพูดคุยกับนางสาวชมพู กระทั่งมีการนัดชกต่อยกัน และลูกชายได้บอกกับตัวเองว่า เขาจะตบปากนางสาวชมพู เพราะนางสาวชมพูมาด่าตัวเองนั้น ตัวเองก็ยังห้ามลูกชายไปเลยว่า ไม่ต้องไปยุ่งกับชมพูแล้ว และให้บล็อก Facebook นางสาวชมพูไปจะได้ไม่มีเรื่องทะเลาะกันอีก
กระทั่งลูกชายได้แอบไปกับเพื่อนของเขาเมื่อคืนนี้ แล้วไปก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งจากการสอบถามลูกชายเขาก็บอกว่าเขาไปกับเพื่อนแค่สองคน ซึ่งเพื่อนคนนั้นเป็นเจ้าของรถเก๋ง และลูกชายก็บอกว่าเขาไม่ได้เป็นคนใช้อาวุธปืนยิง นายธนกฤติจนได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด และลูกชายก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนยิง ในประเด็นนี้ตัวเองจึงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการสืบหาข้อเท็จจริงว่าผู้ก่อเหตุที่ยิง ผู้บาดเจ็บนั้นเป็นใครกันแน่