จากเหตุการณ์นายก้องเกียรติ อายุ 40 ปี ชายป่วยจิตเวช ที่ก่อเหตุใช้น้ำมันราดและจุดไฟเผาผู้ใหญ่บ้านและลูกบ้านจนได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ก่อนถูกตำรวจคุมตัวไว้ได้ โดยผู้ต้องหาไม่มีท่าทีจะยอมรับผิด ปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้ทำ แต่ด้วยพยานหลักฐานที่แน่นหนาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตั้งข้อหาหนักคือพยายามฆ่า, ทำให้เกิดเหตุเพลิงไหม้, ทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่จะควบคุมตัวไปฝากขังศาลอย่างทุลักทุเล ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น




ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (31 ก.ค. 2567) ทางด้านของนายสาธิต หรือลุงนึก อายุ 60 ปี เหยื่อที่ถูกนายก้องเกียรติใช้น้ำมันสาดและเผาร่าง ขณะนี้ได้เสียชีวิตแล้วหลังจากที่แพทย์ได้พยายามยื้อชีวิตถึงที่สุด โดยทางครอบครัวได้มีการนำร่างของนายสาธิตกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่วัดกระเจียว ตำบลงิ้วราย อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี


ขณะที่บรรยากาศรับศพนายสาทิต มีพระอธิการประเสริฐ ถิรสทโธ เจ้าอาวาสวัดกระเจียว มารับร่างของนายสาทิต หรือ ลุงนึก กลับไปทำพิธีรดน้ำศพที่วัดกระเจียว ท่ามกลางความเสียใจของญาติมิตร ขณะที่นายเอนก อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นน้องชายของนายสาธิต เผยว่า พี่ชายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสขณะนี้ได้เสียชีวิตลงเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 เวลา 08.08 น. หลังแพทย์พยายามยื้อชีวิตถึงที่สุดแล้วหลังจากนอนรักษาตัวอยู่เพียง 2 วัน จึงมาแจ้งเพื่อขอเลขคดีชันสูตรศพ เพื่อนำร่างพี่ชายกลับไปบำเพ็ญกุศลศพทางศาสนาที่วัดกระเจียว ตำบลงิ้วราย อำเภอเมืองลพบุรี




โดยนายสาทิตก่อนเสียชีวิตวันเกิดเหตุได้มานั่งดื่มสุราอยู่กับนายบุญมี เพื่อนซี้ที่แคร่ไม้หน้าบ้านของนายบุญมี ตั้งแต่ช่วงเย็น 17.00 น. จนมืดค่ำโดยมีนายณรงค์ศักดิ์ ผู้ใหญ่บ้าน มานั่งคุยเป็นเพื่อนเพราะบ้านอยู่ตรงข้ามกันแต่ไม่ได้ดื่มสุรา โดยนายณรงค์ศักดิ์นั่งด้านหน้าติดถนน นายสาทิตกับนายบุญมีนั่งอยู่ด้านหลังติดใกล้กำแพงบ้าน ช่วงเกิดเหตุนายก้องเกียรติ หรือ ต๊อบ ผู้ก่อเหตุ ได้ขี่รถจักรยานยนต์ขับมาจอดตรงหน้า หิ้วถังสีขนาด 15 ลิตร ใส่น้ำมันเบนซินมาจำนวน 5 ลิตร เดินลงมาแล้วบอกบอกให้นายบุญมีออกไป โดยไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุร้าย


จากนั้นไอ้ต๊อบสาดทำมันจงใจเข้าใส่ตัวนายณรงค์ศักดิ์โดนน้ำมันเปียกท่วมตัว จังหวะนั้นเองที่นายสาทิต ผู้ตาย นั่งอยู่ด้านหลังกำลังสูบบุหรี่ น้ำมันที่กระเด็นเข้ามาแล้วเกิดประกายไฟลุกพรึบจากบุหรี่ที่จุดไว้ในมือ ร่างถูกไหม้ไหม้ตัวรุนแรงไปด้วย ส่วนนายบุญมี เจ้าของบ้าน กำลังจะเดินเข้าห้องน้ำก็ลูกหลงไปด้วยกัน ช่วงนั้นจึงเกิดการโกลาหลกันขึ้นชาวบ้านได้ยินเสียงร้องจึงรีบตักน้ำมาดับไฟที่กำลังลุกไหม้ร่างของนายณรงค์ศักดิ์กับนายสาทิต ส่วนคนก่อเหตุก็ขี่รถจักรายนต์หลบนีไปซ่อนตัวที่บ้าน




จากนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับนายวิรัตน์ อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นลุงของผู้ใหญ่ณรงค์ศักดิ์ (ผู้บาดเจ็บสาหัส) เผยว่า ผู้ใหญ่ณรงค์ศักดิ์นั้นก็เป็นคนดีมาโดยตลอด ไม่เคยมีเรื่องมีราวกับใครที่ไหน ก่อนหน้านี้ผู้ใหญ่ก็ยังดี ๆ กับนายก้องเกียรติอยู่เลย เวลาไปไหนมาไหนก็ไปด้วยกันตลอด แต่รู้สึกว่าช่วงหลังมานี้นายก้องเกียรตินั้นอาการป่วยจิตเวชเริ่มรุนแรงขึ้น ถึงขนาดลงมือทำร้ายพ่อของตัวเอง ทำให้พ่อต้องแจ้งตำรวจมาจับลูกชายที่ป่วยจิตเวช แต่ตามขั้นตอนเมื่อตำรวจจะเข้าไปบ้านผู้ก่อเหตุก็จะต้องให้ผู้นำชุมชนเข้าไปด้วย ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ณรงค์ศักดิ์ที่จะต้องเข้าไปด้วยทุกครั้ง ทำให้นายก้องเกียรตินั้นเข้าใจผิดและฝังใจแค้นว่าผู้ใหญ่ณรงค์ศักดิ์เป็นคนนำตำรวจไปจับตัวเอง




จนนายก้องเกียรติมีการโพสต์ข้อความข่มขู่ลงเฟซบุ๊ก ว่าจะฆ่าผู้ใหญ่ณรงค์ศักดิ์และก็กลายเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2567 ซึ่งนับเป็นพฤติกรรมที่อุกอาจรุนแรงมาก ในตอนนี้ผู้ใหญ่ณรงค์ศักดิ์นั้นยังคงรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู แต่ทางแพทย์ก็ได้บอกให้ญาตินั้นเตรียมใจเอาไว้ และมีการบอกให้เตรียมเสื้อผ้าของผู้ใหญ่เอาไว้ ซึ่งทุกคนก็ได้เตรียมใจเอาไว้แล้วกับการสูญเสียที่กำลังจะเกิดขึ้นแต่ก็ยังไม่มีใครทำใจได้เลย


โดยนายวิรัตน์ยังบอกว่า ก่อนที่จะเกิดเรื่องเพียง 1 วัน ผู้ใหญ่ณรงค์ศักดิ์ได้มีการเข้าไปกราบลาเจ้าอาวาสวัดกระเจียว โดยมีการบอกกับเจ้าอาวาสว่า หากตนเสียชีวิตก็ขอให้เจ้าอาวาสช่วยไปรับศพและนำมาตั้งบำเพ็ญกุศลไว้ที่วัดกระเจียว เนื่องจากผู้ใหญ่ณรงค์ศักดิ์นั้นรักและศรัทธาเจ้าอาวาสเป็นอย่างมาก และจากเหตุการณ์นี้ต่อให้นายก้องเกียรติจะเป็นผู้ป่วยจิตเวช ทางครอบครัวก็ขอยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

 

สุดยื้อ! 1 ใน 3 เหยื่อไอ้คลั่งราดน้ำมันเผาเสียชีวิตแล้ว