จากกรณีที่มีเจ้าหน้าที่รายหนึ่งไปทำร้ายร่างกายลูกหนี ที่ย่านคลองด่าน อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ จนลูกหนี้ได้รับบาดเจ็บและเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับทางด้านพนักงานสอบสวนสภ.คลองด่าน เพื่อขอให้ดำเนินคดีกับทางเจ้าหนี้ 

 

ล่าสุดเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ( 1 สิงหาคม 2567 ) ที่ห้องประชุมชั้น 3 สภ.คลองด่าน ทางด้าน นางสาว ศุภรัตน์ หรือพลอย อายุ 23 ปี เจ้าหนี้นอกระบบดอกเบี้ยโหดรายนี้ เดินทางมาพบกับทางพนักงานสอบสวน โดยมี ทางด้าน พ.ต.อ. ประภาส รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเดินทางมาดูคดีนี้ด้วยตนเอง พร้อมกับ พ.ต.อ. ธนูเพ็ชร ฉมาฤกษ์ ผกก.สภ.คลองด่าน และพนักงานสอบสวนร่วมเวทีในห้องประชุมครั้งนี้ ขณะที่ฝ่ายของลูกหนี้ซึ่งเป็นผู้เสียหาย เดินทางมาพร้อมกับทาง ทนายความ และญาติ เพื่อเข้าเจรจากับทางคู่กรณี 

 

ด้าน นางสาวพลอย เจ้าหนี้ ระบุต่อหน้าที่ประชุมว่า ยอมรับว่าลงมือก่อเหตุทำร้ายร่างกายลูกหนี้จริง แต่โต้ข่าวกรณีบุกไปทำร้าย ซึ่งนางสาวพลอย บอกว่า วันเกิดเหตุตนเองไปซื้อส้มตำที่ร้านดังกล่าว แล้วบังเอิญไปเจอกับลูกหนี้รายนี้ จึงเกิดการทวงถามเรื่องเงินกู้ที่เคยกู้มา ทำให้เกิดมีปากเสียงกันจึงเข้าไปทำร้ายร่างกายอีกฝ่าย ยอมรับว่าปล่อยเงินกู้ให้กับทางคู่กรณีจริง โดยปล่อยให้กู้จำนวน 3000 บาท คิดดอกเบี้ย ร้อยละ 20 ต่อสัปดาห์ ตกแล้วเดือนละ ร้อยละ 40 ต่อเดือน ซึ่งให้กู้มาแล้วกว่าปีเศษ ที่ผ่านมา เจ้าตัวอ้างว่า ก่อนหน้านี้ฝ่ายลูกหนี้รายนี้เคยมีการมาขอเจรจาแล้วรอบหนึ่ง และขอผ่อนครั้งละ 1000 ซึ่งไม่ตรงกับที่เคยตกลงกันไว้ ส่วนที่ผ่อนมานั้น ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่ตกลงกันไว้ เท่ากับตนเองไม่เคยได้รับดอกเบี้ยจากลูกหนี้ ซึ่งหากรวมยอดที่เขาผ่อนส่งมานั้นยังมียอดค้างอีก 700 บาท ในส่วนนี้ตนเองยกให้เขาไปหลังจากนี้ เท่ากับไม่มีหนี้สินติดค้างกันอีกต่อไป ส่วนการถูกดำเนินคดีตามกฎหมายก็ต้องยอมรับผิดในส่วนของทางคดี พร้อมทั้งขอโทษฝ่ายลูกหนี้ที่ไปทำร้ายร่างกาย แต่ก็อยากให้อีกฝ่ายเข้าใจตนเองด้วยเช่นกัน 

 

ขณะที่ บางช่วงบางตอน นางสาวพลอย พยามจะบอกฝ่ายผู้เสียหายว่าหากตนเองยอมยกหนี้ที่เหลือให้แล้ว อีกฝ่ายต้องถอนแจ้งความด้วย ซึ่งพอนางสาวพลอยพูดออกมาแบบนั้น ทำให้ทางด้านรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดต้องออกมาชี้แจงให้เรื่องของข้อกฎหมาย ซึ่งมีเป็นคดีอาญาและมีอัตราโทษสูง ยอมความกันไม่ได้ 

 

ส่วน จากการสอบถาม นางจันทิมา ลูกหนี้เล่าว่า หลังเกิดเหตุตนเองได้ไปแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ไปตรวจร่างกายแล้วรอผลจากโรงพยาบาล และ หลังจากที่โดนทำร้ายตนฝ่ายนั้นก็ส่งข้อความมาบอกว่าต้องคืนเงินยอดต้นมาอีก 3100 บาท ส่วนสาเหตุที่เกิดเรื่อง เพราะตนเป็นหนี้เขาอยู่ 3000 บาท เขาคิดดอกตนอีก 3000 รวมเป็น 6000 บาท ตนไม่มีเงินก้อน 6000 ให้เขา ก็เลยขอผ่อนเป็นรายอาทิตย์ อาทิตย์ละ 1000 บาท เขาก็ยอม และ เขาก็บอกว่าต้องเพิ่มค่าปรับอีก 2000 บาท รวมเป็น 8000 บาท แล้วตนก็ผ่อนไป แล้ว 5 อาทิตย์ รวมเป็น 5000 บาท อาทิตย์ที่ 5 ตนไม่มีก็เลยต้องจ่ายช้าข้ามวัน เขาเลยปรับตนอีก 400 บาท หลังจากนั้นตนต้องไปทำงานที่อื่น แล้วเพิ่งจะกลับมา ตนก็ยังค้างเขาอยู่ อีก 4500 บาท ตอนที่เขามาทวงที่บ้าน เขามาทวงเอา 4500 บาท แต่จริง ๆ ในสัญญามันเหลืออีกแค่ 700 บาท วันนั้นตนออกไปซื้อของแล้วเจอเขา แล้วแฟนเขาก็ถามว่าจะเอายังไง ตนเลยถามว่าเหลือเท่าไหร่ เพราะคิดว่ามันเหลืออีกแค่ 700 ก็เลยหันไปคุยกับตัวเขา เขาพูดว่ามึงยังมีหน้ามาถามอีกเหรอ แล้วเขาก็เข้าทำร้ายเราเลย ตนก็สู้เขาไม่ไหว เพราะเขาตัวใหญ่กว่า หลังจากนี้ยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ตอนนี้ถามว่ายังหวาดกลัวเรื่องความปลอดภัยหรือไม่ ตนเองยังผวาและหวาดกลัวอยู่ จนไม่กล้าไปรับส่งลูกหรือแม้แต่ออกไปทำงาน 

 

ด้าน ทนาย ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ระบุว่า หลังจากที่ผู้เสียหายติดต่อขอความช่วยเหลือทางด้านคดีตาม ตนเองในฐานะทนายความจึงอาสาเข้ามาดูแลช่วยเหลือผู้เสียหายโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งวันนี้ในฐานะทนายความ นอกจากคดีทำร้ายร่างกายแล้ว ยังมาแจ้งความเกี่ยวกับการปล่อยกู้นอกระบบและดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด รวมถึงการเรียกร้องค่าเสียหายการเยียวยาทั้งร่างกายและจิตใจที่เกิดขึ้นด้วย หลังจากนี้ตนเองจะเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการที่จะฟ้องร้องฝั่งคู่กรณีที่เป็นเจ้าหนี้ด้วย 

 

ขณะที่ พ.ต.อ. ธนูเพ็ชร ฉมาฤกษ์ ผกก.สภ.คลองด่าน ระบุว่า ในส่วนของหนี้สินที่เกิดขึ้นได้ให้ทั้งสองฝ่ายเจรจากันและฝ่ายของเจ้าหนี้ยอมยกหนี้ให้แล้ว ในทางคดีก็ว่ากันไปตามขวบนการของกฎหมาย เบื้องต้น แจ้งข้อหานางสาวพลอย ที่เป็นเจ้าหนี้คือ กู้ยืมเงินโดยเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตรา ทวงถามหนี้ในลักษณะข่มขู่การใช้ความรุนแรงหรือกระทำการอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกาย ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของลูกหนี้หรือผู้อื่น ทำร้ายรางกายผู้อื่นไม่ถึงกับเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ประกอบสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต

"เจ๊พลอย" เจ้าแม่เงินกู้ดอกโหด "ร้อยละร้อย" จ่ายช้าถูกกระทืบ