จากกรณีที่นางสุภาศรี อายุ 58 ปี เจ้าของบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้าน ย่านถนนรัตนาธิเบศร์ ต.ไทรม้า อ.เมือง จ.นนทบุรี ร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากเพจกล้าที่ก้าว เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ที่ผ่านมา หลังได้รับผลกระทบจากเสียงจากสุนัขของเพื่อนบ้านด้านซ้ายและด้านขวา ส่งเสียงเห่ารบกวนในเวลากลางวันและกลางคืน ไม่เป็นอันหลับนอน จนต้องเพิ่งยานอนหลับมาเป็นเวลา 3 ปี นั้น

เมื่อวานนี้ (31 กรกฎาคม) นางสุภาศรี บอกว่า ในเมื่อความเดือดร้อนของตน ส่งเรื่องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่าง ๆ นั้นไม่ได้รับการแก้ปัญหา ตนจึงต้องแก้ปัญหาเอง เพราะการที่ตนเองและครอบครัวต้องกินยานอนหลับในแต่ละวัน ซึ่งไม่ส่งผลดีต่อร่างกายจึงตัดสินใจติดป้ายประกาศขายบ้านหลังนี้ อยู่มานานเพื่อรักษาชีวิตคนในครอบครัวไว้ก่อน

โดยยอมขายต่อในราคาถูกแต่มีเงื่อนไขว่า คนที่จะซื้อบ้านต่อจากตนนั้น นอกจากจะเป็นคนพิการทางหูแล้ว ตนขอให้นำสุนัขตัวใหญ่ที่ชอบเห่าเสียงดังมาเลี้ยงอยู่ในบ้านด้วย และจะต้องเลี้ยงไว้ไม่ต่ำกว่า 5 ปี โดยจะเป็นข้อสัญญาผูกมัดเอาไว้ หากเมื่อไรที่ซื้อบ้านจากตนไปแล้วและเลี้ยงสุนัขไม่ถึงเวลาที่กำหนดไว้ให้ถือว่าสัญญาเป็นโมฆะในทันที เพราะตนต้องการให้รับรู้ว่าเสียงสุนัขที่เห่าตลอดเวลามันส่งผลกระทบต่อสภาพจิตขนาดไหน

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 1 ส.ค. 2567 ที่สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว พร้อมด้วย นางสุภาศรี ผู้ร้องเรียน ได้เดินทางเข้าพบ นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เพื่อร้องเรียนเรื่องสุนัขเพื่อนบ้านเห่ามานาน 10 ปี ร้องเรียนทุกข์หน่วยงานในจังหวัดนนทบุรี แต่ไม่มีหน่วยงานไหนจัดการได้ จึงเดินทางมายื่นเรื่องร้องเรียนที่กระทรวงสาธารณสุข ให้จัดการเรื่องผลกระทบต่อสุขภาพจิตประชาชน

จากนั้นเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขได้ตรวจสอบหลักฐาน โดยมีเอกสารคำร้องเรียนที่ยื่นต่อเทศบาลเมืองไทรม้า เอกสารคำค้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนนทบุรี แชตไลน์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางศรีเมือง และข้อมูลในการร้องเรียนผ่านระบบ Traffy Fondue รวมทั้งภาพจากช่องวงจรปิดที่บันทึกแต่ละช่วงเวลาที่สุนัขเห่าจำนวน มากกว่า 20 คลิป เอกสารภาพถ่ายหน่วยงานต่าง ๆ ที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ และเอกสารจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี เรื่องการวัดค่าเดซิเบล ซึ่งผลออกมาว่าเสียงเกินกว่ากฎหมายกำหนด เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมไว้เป็นหลักฐานทั้งหมด เบื้องต้นนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ได้เดินทางมาพบเหตุพอดีจึงได้กำชับให้ทางผู้ช่วยดำเนินการเรื่องนี้ และคาดว่าจะสามารถแก้ไขความเดือดร้อนให้ประชาชนได้

ล่าสุดทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่หมู่บ้านแห่งนี้ ซึ่งเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ โดยที่บ้านทั้ง 3 หลังอยู่ติดกันและได้พบกับนายปราโมช อายุ 53 ปี เป็นเจ้าของบ้านที่เลี้ยงสุนัข เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นต้องย้อนไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทางด้านนางสุภาศรีได้ไปร้องกับสื่อ ที่ว่าได้รับผลกระทบจากเสียงของสุนัขของบ้านตนและบ้านอีกหลังหนึ่งที่อยู่ขนาบข้างบ้านของนางสุภาศรี ซึ่งตอนนั้นก็มีเพจดังเพจหนึ่งได้เข้ามาช่วยเหลือนางสุภาศรี และได้นำคลิปสุนัขหลายตัวเดินอยู่บนถนนบริเวณหน้าบ้าน ซึ่งคลิปนั้นเป็นคลิปเก่าหลายปีมาแล้ว

ตอนนั้นตนเองได้ย้ายหมาออกไปอยู่ที่อื่นแล้ว เหลืออยู่ที่บ้านนี้เพียง 2 ตัวเท่านั้น และได้ปรับสภาพบ้าน จัดมุมที่ทำกรงสุนัขไว้ด้านข้างบ้านฝั่งที่ไม่ได้ติดกับบ้านของนางสุภาศรี แต่นางสุขศรีก็ยังไปแจ้งเทศบาลและหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้เข้ามาดูและตรวจสอบ ซึ่งตอนนั้นทางหน่วยงานได้แจ้งกับตนว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี แต่ด้วยขั้นตอนการตรวจสอบและให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดทางเทศบาลจึงขอสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี ให้มาวัดความดังของเสียงสุนัขด้วย ก็มีการดำเนินการตรวจสอบเรื่องเสียงตามปกติ (1 กรกฎาคม 2567)

และหลังจากที่ผลการวัดเสียงออกมา ซึ่งแจ้งว่าเกินกว่าที่กำหนด ตนเองได้นำมาตรวจสอบ ซึ่งพบว่าการคำนวนของทางหน่วยงานนั้นผิด ได้ผลลัพธ์ที่ไม่ตรงกัน จึงเดินทางไปทักท้วงทางด้านสาธารณสุขจังหวัด จนกระทั่งล่าสุดเมื่อวานนี้ (31 กรกฎาคม) ทางเพื่อนบ้านคู่กรณีได้ไปออกข่าวว่าต้องทนอยู่กับเสียงสุนัขเห่าหอนมานานแล้ว แต่เมื่อไปร้องเรียนใครก็ไม่มีใครให้ความช่วยเหลือ ถึงแม้ว่าผลที่ได้ออกมาจะเกินระดับที่กำหนด แต่ทางตนเองได้ตรวจสอบและลองคำนวณใหม่ซึ่งได้ผลลัพธ์ออกมาไม่เกินกำหนดตามกฎหมาย ซึ่งเท่าที่ดูทางคู่กรณีก็มิได้มาโจมตีตนเองแต่อย่างใด แต่เป็นการร้องเรียนไปทางหน่วยงานต่าง ๆ มากกว่า

โดยทางนายปราโมช กล่าวต่ออีกว่าโดยปกติแล้วสุนัขบ้านของตน จะเลี้ยงไว้อีกด้านหนึ่งที่ไม่ได้ติดกับบ้านของคู่กรณีมานานหลายปีแล้ว ตั้งแต่ครั้งแรกทีมีปัญหาประมาณปี 2561 และมีการทำรั้วเหล็กตรงกลางบ้านเพื่อไม่ให้สุนัขวิ่งผ่านไปยังพื้นที่ฝั่งที่ติดกับบ้านของนางสุภาศรี แต่สิ่งที่ทำให้นางสุภาศรีอาจจะไม่พอใจคงเป็นการที่สุนัขเวลาเห็นคนแปลกหน้า หรือใครมาส่งของที่บริเวณหน้าบ้านจะเห่า ซึ่งทุก ๆ ครั้งอะไรที่ตนเองสามารถแก้ไขให้ได้และไม่กระทบกับเพื่อนบ้านก็จะรีบทำทุกครั้ง แต่ไม่ว่าจะแก้ไขยังไงคู่กรณีก็ยังไม่พอใจ แล้วเท่าที่ตนทราบคู่กรณีก็มีพฤติกรรมไปร้องเรียนนิติอยู่เสมอ เมื่อมีเพื่อนบ้านทำเสียงอะไรดังหรือมีสุนัขจากซอยอื่นเดินเข้ามาอุจจาระบริเวณซอยนี้ก็จะมีปัญหาทันที หรือบ้านไหนเสียงดังก็จะโดนร้องเรียนไปที่นิติเสมอ แม้กระทั่งการเปิดประตูบ้านและเลื่อนราวตากผ้าถ้ามีเสียงเล็ดลอดออกไป ทางคู่กรณีก็จะดำเนินการร้องเรียนทันที

ส่วนเหตุการณ์ล่าสุดที่ทางคู่กรณีได้ติดป้ายขายบ้าน ตนเองเพิ่งได้เห็นเมื่อวานนี้ โดยการขายบ้านนั้นเป็นสิทธิ์ของเจ้าของบ้านอยู่แล้วตัวเองไม่ก้าวล่วง แต่การที่ไปออกข่าว ว่าขอความช่วยเหลือก็ไม่มีใครมาช่วย แต่ในความเป็นจริงมีหน่วยงานเข้ามาตรวจสอบเรียบร้อยหมดแล้ว แต่ที่เรื่องยังเงียบอยู่เพราะผลตรวจเสียงที่ตนเองได้รับนั้นไม่ตรงกับความเป็นจริงที่ตนตนเองได้ตรวจสอบ จึงยื่นเรื่องกลับไปทำให้ตอนนี้เรื่องผลอยู่ในระหว่างดำเนินการซึ่งต้องใช้เวลาซักระยะอาจจะทำให้คู่กรณีไม่พอใจ

สุดท้ายนี้อยากบอกว่า เรื่องราวหรือปัญหาทุกอย่างสามารถพูดคุยกันได้ยิ่งเฉพาะเป็นบ้านใกล้เรือนเคียง คอยพึ่งพาอาศัยกัน ซึ่งการที่ทะเลาะกันไม่ได้เป็นประโยชน์อะไรเลย ซึ่งทุกอย่างเราต้องอยู่บนหลักการในความเป็นการที่สุนัขเห่าเป็นเรื่องธรรมชาติ และสุนัขของตนก็ไม่ได้เห่าตลอดเวลาตามที่คู่กรณีบอก

จากนั้นนายปราโมชได้พาทีมข่าวเดินไปดูที่กรงสุนัข ซึ่งทำอย่างดีและปิดมิดชิดภายในกรงมีสุนัขพันธุ์ไทย 2 ตัว ทีมข่าวลองเดินไปใกล้สุนัขก็เห่าตามปกติ แต่เมื่อทีมข่าวเดินถอยออกมาจากกรงสุนัขและเดินอยู่จุดอื่นของบ้าน สุนัขก็จะเงียบและไม่เห่าต่อ อาจทำให้เห็นว่า สุนัขของนายปราโมชส่งเสียงเห่าในกรณีที่มองเห็นคนแปลกหน้า สิ่งใดผิดปกติตั้งแต่ทีมข่าวเดินเข้าบ้านไปได้นั่งพูดคุย สุนัขไม่ส่งเสียงเห่าเลยจนกระทั่งเดินเข้าไปใกล้กรง และทีมข่าวยังเห็นอีกว่าบริเวณทางเดินตรงกลางบ้านมีการติดตั้งกรงเหล็กแบบยืดหดได้ เพื่อป้องกันไม่ให้สุนัขวิ่งไปยังฝั่งที่ติดกับบ้านของคู่กรณี เพราะกลัวจะไปรบกวนและทำให้มีปัญหากันอีก

นอกจากนี้ ทีมข่าวลองจำลองเดินบริเวณบ้านที่เกิดเรื่อง และใช้แอปฯ วัดระดับเสียงว่ากี่เดซิเบล ซึ่งขณะเดินผ่านบ้านทั้ง 3 หลัง ไม่มีเสียงของสุนัขเห่าเลย และความดังของเสียงโดยรอบไม่เกิน 50 เดซิเบล ซึ่งเป็นเสียงที่ไม่เกินตามมาตรฐานที่อยู่อาศัยแต่อย่างใด