จากกรณีเมื่อเวลา 07.00 น. ของวันที่ 1 สิงหาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไทรน้อย ได้รับแจ้งเหตุชิงทรัพย์ในพื้นที่บริเวณถนนอนามัยลิ้มกุล หมู่ 3 ตำบลหนองเพรางาย อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี จึงได้เดินทางตรวจสอบพบผู้เสียหายคือ นายนิวัตร อายุ 59 ปี ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนพกสั้นแบบลูกโม่จี้ชิงทรัพย์ โดยทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปก็คือรถแท็กซี่ ราคาประมาณ 987,000 บาท เงินสดประมาณ 3,000 บาท เอกสารบัตรประจำตัวและสมุดบัญชีธนาคารอีกหลายเล่ม






ล่าสุดช่วงสายวันนี้ (2 ส.ค.67) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบรถแท็กซี่ของนายนิวัตร (ผู้เสียหาย) ถูกจอดทิ้งเอาไว้อยู่ริมกำแพงโรงงานแห่งหนึ่งในพื้นที่ ตำบลบางคูรัด อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี โดยเป็นรถแท็กซี่สีเขียว-เหลืองที่ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนจี้ชิงไปเมื่อช่วงเช้าวานนี้ (1 ส.ค.) จากพื้นที่ตำบลหนองเพรางาย อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี




โดยที่ตัวรถแท็กซี่นั้นมีร่องรอยของกระสุนปืนบริเวณขอบกระจกข้างที่นั่งฝั่งคนขับ ภายในพบเอกสารสำคัญของผู้เสียหาย เช่น สมุดบัญชีธนาคาร, สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน, สำเนาเล่มรถ, เงินสดจำนวน 1,000 บาท โดยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานก็ได้ตรวจสอบตัวรถแท็กซี่คันดังกล่าว เพื่อหาร่องรอยหรือหลักฐานที่จะนำไปสู่การจับกุมตัวคนร้าย




ต่อมาเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดในวันที่ 1 สิงหาคม 2567 ซึ่งเป็นภาพหลังจากเกิดเหตุ ในเวลา 06.41 น. และเวลา 07.08 น. โดยจะเห็นว่าคนร้ายได้มีการขับรถแท็กซี่ของผู้เสียหาย ไปตามเส้นทางต่าง ๆ โดยมุ่งหน้าไปยังพื้นที่อำเภอบางบัวทอง


ล่าสุด (2 สิงหาคม 2567) ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายนิวัตร (ผู้เสียหาย) ก็ได้บอกว่า หลังจากที่มีข้อมูลว่าตำรวจได้ตรวจพบรถแท็กซี่ของตนแล้วนั้นก็รู้สึกดีใจมากและหายกังวลไปได้เปราะหนึ่ง เพราะรถคันนี้ถือเป็นเครื่องมือทำมาหากินสำหรับตน ตนซื้อรถคันนี้มาราคาประมาณ 987,000 บาท และใช้งานรถคันนี้มานานกว่า 3 ปีครึ่งแล้ว ซึ่งตั้งแต่ตนทำอาชีพขับแท็กซี่มานาน ตนยังไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เลย ส่วนมากที่เจอก็จะเป็นเรื่องของการหนีไม่ยอมจ่ายค่าโดยสาร




โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้เวลาประมาณ 05.30 น. ได้มีชายคนหนึ่งยืนโบกรถอยู่ข้างทาง เมื่อตนจอดรับชายคนดังกล่าวก็ได้บอกว่าจะเรียกรถไปโรงพยาบาลและบอกว่าต้องไปรับผู้ป่วยที่นอนรออยู่ที่บ้านก่อน โดยชายคนดังกล่าวก็ได้ขึ้นรถมาและเป็นคนบอกทางกับตน ซึ่งระหว่างนั้นอีกฝ่ายก็ได้ชวนตนคุยไปเรื่อยจนพูดคุยถูกคอกัน ซึ่งรถก็ขับไปเรื่อย ๆ จนมิเตอร์ขึ้นถึง 250 บาท แล้วก็ยังไม่ถึงที่หมายสักที แล้วชายคนนั้นก็ถามตนว่า “ลุงไม่ปวดฉี่เหรอ” ตอนนั้นตนก็รู้สึกปวดฉี่จึงได้แวะข้างทาง แต่ชายผู้โดยสารก็ไม่ยอมลงจากรถ ตนจึงลงไปข้างทางคนเดียวแต่ยังไม่ทันจะได้ฉี่ ปรากฏว่าชาวบ้านแถวนั้นเดินผ่านมาพอดี ตนจึงรีบวิ่งไปขึ้นรถเพื่อจะไปแวะหาที่อื่น แต่ก้าวขาเข้ารถไปได้เพียงข้างเดียว คนร้ายที่นั่งอยู่เบาะหลังฝั่งผู้โดยสารก็ได้แสดงตัวพร้อมอาวุธปืนบอกให้ตนนำเงินและโทรศัพท์ยื่นให้เขา แต่ตนนั้นก็รีบตั้งสติและวิ่งหนีเอาตัวรอดทันที




ซึ่งระหว่างวิ่งออกมาก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด แต่ตนก็ไม่หันกลับไปมองและวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังจะส่งลูกไปโรงเรียน ซึ่งตนก็คิดว่าคนร้ายคงจะขับรถไปได้ไม่ไกล เนื่องจากรถแท็กซี่ของตนเป็นแบบเติมก๊าซ ซึ่งตอนนั้นก๊าซก็ใกล้จะหมดแล้วและวิ่งต่อได้อีกเพียงแค่ 10 กิโลเมตร อีกทั้งกุญแจรถก็ยังอยู่กับตน คนร้ายจึงไม่สามารถดับเครื่องรถได้หรือหากดับรถก็ไม่สามารถสตาร์ทรถได้ ส่วนเรื่องการติดตั้ง GPS ตนไม่ได้ติดตั้งระบบ GPS เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งสูง ในตอนนี้ตนจึงอยากขอให้ตำรวจช่วยเร่งติดตามตัวคนร้าย เพื่อที่คนร้ายจะได้ไม่ไปก่อเหตุแบบนี้กับใครอีก

 

ล่าโจร! ปืนจี้แท็กซี่ชิงเงิน 3 พัน รื้อเครื่องเสียงยกคัน