จากกรณีมีหญิงคนหนึ่ง ออกมาร้องขอความช่วยเหลือจากสื่อโซเชียล พร้อมหลักฐานกล้องวงจรปิดขณะเกิดเหตุ หลังได้ไปซื้อทุเรียนที่ล้งแห่งหนึ่ง ในพื้นที่นายายอาม จังหวัดจันทบุรี เพื่อจะนำไปขายต่อ แต่ทุเรียนที่ซื้อมาเป็นทุเรียนอ่อนไม่ได้มาตรฐาน จึงโทร. ไปพูดคุยขอเครมทุเรียนบางส่วน แต่ทางเจ้าของล้งไม่คุย ไม่เครม พร้อมทั้งพกปืนมายิงหน้าล้ง บุกเข้ามาตามภาพในกล้องวงจรปิด ทางหญิง ผู้เสียหายจึงมาขอความช่วยเหลือกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะดูแล้วทำตัวเหนือกฎหมาย นั้น
ล่าสุด (2 สิงหาคม 2567) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางมาที่ สภ.นายายอาม จังหวัดจันทบุรี เพื่อพบผู้เสียหาย เมื่อมาถึงกับผู้เสียหาย ได้เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ผู้เสียหายได้มีการตกลงซื้อขายทุเรียนกับล้งหนึ่ง ไปประมาณ 400 กิโล มูลค่าประมาณ 50,000 บาท เพื่อไปขายให้กับทางลูกค้า แต่เมื่อทุเรียนไปถึงปลายทางที่สมุทรปราการ ปรากฏว่าทุเรียนมีปัญหาคือทุเรียนอ่อนประมาณ 170 กิโลกรัม จึงได้ส่งกลับให้กับทางผู้เสียหายเพื่อนำไปเคลม แต่พอผู้เสียหายนำไปเคลมกับเจ้าของแผงนั้น เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ตอนประมาณ 02.00 น. ทางเจ้าของแผงก็ยอมรับว่าทุเรียนอ่อนจริง จึงรับปากว่าจะจัดการเคลมสินค้าให้ แต่พอเรื่องผ่านไปเรื่องก็เงียบ จึงได้มีการติดต่อกลับไปสอบถามว่าจะเคลมให้ไหม เจ้าของแผงก็ได้บ่ายเบี่ยง
จนเมื่อคืนช่วงเวลา 20.30 น. ได้มีการพูดคุยทางโทรศัพท์ กับทางผู้ขายคือ นายใหม่ (นามสมมติ) และได้มีปากเสียงกัน และปลายสายได้มีการบอกว่าเดี๋ยวไปเจอกันที่แผง จากนั้นนายใหม่ก็ได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์มายังแผงของตนเองทันที หลังจากวางสายไม่เกิน 5 นาที แต่ตอนนั้นตนเองไม่ได้อยู่ที่แผงจึงได้เปิดกล้องวงจรปิด ก็พบว่า นายใหม่ได้ขี่รถพร้อมด้วยถือสิ่งของบางอย่างคล้ายอาวุธปืน เข้ามาโวยวายที่แผงของตนเอง พร้อมด้วยมีรถกระบะตามมาอีก 2 คัน ก่อนยืนคุยกันแล้วก็แยกย้ายกันออกไป ทางตนเองก็เลยรีบแจ้งความทันทีว่าไม่ปลอดภัย เนื่องจากผู้ก่อเหตุได้มีการกระทำอย่างอุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายใด ๆ
จากนั้นช่วงสายของวันนี้ (2 สิงหาคม) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรนายายอาม พร้อมด้วยชุดสืบฯ ได้เรียกตัวผู้เสียหายมาสอบปากคำ พร้อมตรวจสอบวงจรปิดและได้ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พร้อมที่จะเรียกตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี
และวันเดียวกันช่วงบ่าย นายใหม่ คู่กรณีที่อยู่ในภาพกล้องวงจรปิดได้เดินทางมายัง สภ.นายายอาม พบพนักงานสอบสวน โดยมีการเผยกับทีมข่าวว่า ทางผู้เสียหายไม่ได้มีการยื่นเรื่องเคลม แต่ยังมาโดนต่อว่าผ่านโทรศัพท์ และยังท้าตบตนเองจึงโมโหเลยออกมาหาจุดเกิดเหตุ ส่วนอาวุธที่ถือไปนั้น ยืนยันว่าไม่ใช่อาวุธปืน แต่คืออาวุธมีดพกเข้าไปเพื่อป้องกันตัว และยืนยันว่าไม่ได้จะเข้าไปก่อเหตุทำร้ายหรือโดนทำร้ายแต่อย่างใด เพียงแค่ต้องการเข้าไปเคลียร์เท่านั้น ว่าจะตบใครและจะตบตนเรื่องอะไร ส่วนกลุ่มที่ตามมานั้นเป็นนายจ้างตามมา เพื่อที่จะเข้ามาห้ามตนเองไม่ได้มาเพื่อก่อเหตุเท่านั้นเอง