ช้างพลายล้มป่วย หลังบุกกินปุ๋ยทุเรียนในสวนของชาวบ้านที่ อ.ธารโต จ.ยะลา เจ้าของสวนมาพบ แจ้งเจ้าหน้าที่ ทีมสัตว์แพทย์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 สงขลา เร่งช่วยเหลือเฝ้าอาการตลอด 24 ชั่วโมง

วันที่ 7 สิงหาคม 2567 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติบางลาง (หน่วยพิทักษ์วังไทร) ร่วมด้วย เจ้าหน้าที่สายตรวจปราบปรามฯ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 สาขาปัตตานี เจ้าหน้าที่ อช.บางลาง (หน่วยพิทักษ์วังไทร) นายสัตวแพทย์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 สงขลา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฉก.ตชด.44 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชปข.5 หน่วยข่าวกรองทางทหาร กองพลทหารราบที่ 15(หน่วย ขกท. พล.ร.15) ผู้นำหมู่บ้าน หมู่ที่ 4 ต.แม่หวาด อ.ธารโต จะ.ยะลา ร่วมกันตรวจสอบกรณีได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ อช.บางลาง (หน่วยพิทักษ์วังไทร) พบช้างป่า 1 ตัว ล้มป่วยอยู่ในสวนทุเรียนของชาวบ้านในพื้นที่ ม.4 ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา

จากการเข้าพื้นที่ พบช้างป่าเพศผู้จำนวน 1 ตัว ล้มป่วยอยู่ภายในสวนของนายซิลลี่ ซึ่งเป็นคนที่พบเจอช้างล้มป่วย และเล่าว่า ตนได้ยินเสียงช้างและได้ออกมาดู พบช้างได้ออกมาจากป่าเทือกเขาสันกาลาคีรีซึ่งเป็นป่ารอยต่อประเทศมาเลเซีย และในเวลากลางคืนมีช้างป่าจำนวน 8 ตัว เข้ามาในสวน พอรุ่งเช้าพบร่องรอยของช้างที่เข้ามากินลูกทุเรียนในสวน และสภาพบ้านที่กำลังสร้างถูกรื้อพัง ก่อนที่ช้างจะลากกระสอบถุงปุ๋ยทุเรียนไปกิน ประมาณ 5 กระสอบ จนเป็นเหตุให้ช้างตัวดังกล่าวล้มป่วยลง

จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่า เป็นช้างเพศผู้ มีอายุประมาณ 10-12 ปี มีเส้นวงรอบเท้าหน้า 111.5 ซม เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานกับทีมสัตวแพทย์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 สงขลา เข้ามารักษาอาการช้างโดยการให้น้ำเกลือ ให้ยาขับถ่าย พร้อมยาบำรุง และติดตามอาการช้างต่อไป โดยให้เจ้าหน้าที่ อช.บางลาง(หน่วยพิทักษ์วังไทร) ยังคงเฝ้าช้างอยู่ในพื้นที่ตลอด 24 ชม.

ล่าสุด ช้างตัวดังกล่าวเริ่มมีอาการดีขึ้น มีการขยับใบหูได้ แต่ยังไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้