เดินทางถึงไทย คนแห่รับ "วิว กุลวุฒิ" แน่นสนามบิน เจ้าตัว เผยอยากกินบุฟเฟ่ต์ชาบูปิ้งย่าง - และพักผ่อนให้เต็มที่ เผยจากใจ "รู้สึกดี" หลังกลับถึงไทย

หลังจากที่คนไทยได้รับข่าวดี ในการแข่งขันโอลิมปิกครั้งที่ 33 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส หลัง "วิว" นายกุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักแบดมินตัน คว้าเหรียญเงิน แรกของของไทย และถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ วงการแบดมินตันไทยในรอบ 32 ปี อีกด้วย


วันนี้ น้องวิว กุลวุฒิ ได้เดินทางมาถึงประเทศไทยเมื่อเวลาประมาณ 05.53 น. โดยสายการบินไทยเที่ยวบินที่ TG 931 ขณะที่รอน้องวิวพร้อมทัพนักกีฬาไทย ออกมาเจอ คณะผู้ใหญ่ครอบครัวและประชาชนรวมถึงสื่อมวลชนที่มารอ แสดงความยินดีและต้อนรับกลับประเทศไทย ได้มารวมตัวกันอยู่บริเวณประตูทางออก พร้อมกับบรรเลงกลองยาว เสียงดังกระหึ่มจนได้รับความสนใจ และเป็นที่ตื่นตาของชาวต่างชาติที่อยู่ภายในสนามบิน

ต่อมาในเวลาประมาณ 06.35 น. น้องวิว พร้อมโค้ช และทัพนักกีฬา อาทิ เมย์ รัชนก , บิว ภูริพล และนักกีฬาอีกหลายคน เดินเข้ามาพบปะ ครอบครัว สมาชิกโรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ประชาชน และสื่อมวลชน

โดยภาพบรรยากาศขณะต้อนรับ ครอบครัวของน้องวิว ที่เดินทางมาไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ และน้องสาว ได้นำช่อดอกไม้เข้ามามอบให้ และได้หอมแก้ม พร้อมกับทักทาย พูดคุยกันอยู่สักพัก ก่อนน้องวิวจะได้โชว์เหรียญรางวัลโอลิมปิกให้กับทุกคนที่มาคอยต้อนรับได้ชม

วิว กุลวุฒิ เปิดใจครั้งแรกหลังเดินทางถึงประเทศไทยว่า ตอนนี้สิ่งที่อยากทำคืออยากพักมากๆ เนื่องจากการแข่งโอลิมปิกใช้เวลานาน และการเดินทางกลับไทยใช้เวลานาน จึงอยากหยุด พักผ่อน แล้วรอดูว่าตารางฝึกซ้อมต่อไปเป็นอย่างไร และอยากกินปิ้งย่าง และชาบู เพราะตอนที่อยู่ฝรั่งเศส ในหมู่บ้านนักกีฬา ไม่มีอาหารพวกนี้ ซึ่งน้องวิว เป็นคนชอบกินอาหารบุฟเฟต์ เมื่อกลับมาต้องไปกิน ไม่ชาบูก็เป็นบุฟเฟต์

ส่วนการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ วิวได้เรียนรู้มากขึ้น ยอมรับว่าในรอบชิงชนะเลิศ เป็นรองจริง จุดอ่อนคือเกมบุกของเราจะเห็นได้ว่ารอบชิงเกมรุกเราทำอะไรคู่ต่อสู้ไม่ได้เลย ประกอบกับคู่ต่อสู้เราแข็งแกร่ง สูง ยาว หลังจากนี้ต้องพัฒนาเกมบุกของตัวเองให้มากขึ้น

น้องวิว ยังบอกอีกว่า แม้ตอนนี้อันดับโลกจะขึ้นจากอันดับ 8 เป็นอันดับ 4 ของโลก การที่จะขึ้นเป็นมือ 1 ของโลก ก็อยากไปถึงฝันนั้นเหมือนกัน แต่เป้าหมายจริงๆ คือการคว้าเหรียญทองชิงแชมป์โลก เหรียญทองโอลิมปิก และเหรียญทองออล์ อิงแลนด์ 3 รายการนี้มากกว่า และได้พูดถึงรุ่นพี่ อย่างเมย์รัชนก อินทนนท์ว่า เป็นต้นแบบที่ดีให้กับน้องๆ รวมถึงตนด้วย ตนเชื่อว่าอีก 4 ปีข้างหน้าพี่เมย์อาจจะมีเหรียญโอลิมปิกเกมส์

น้องวิว บอกว่า ขอบคุณทุกแรงเชียร์ ของคนไทยทุกคน กำลังใจที่ส่งมาในทุกช่องทาง น้องวิวได้เข้าไปอ่านแล้ว รู้สึกซาบซึ้งและดีใจมากพร้อมตอบคำถามของผู้สื่อข่าวออนไลน์ช่อง 8 หลังสัมภาษณ์ว่า หากให้สามคำในตอนนี้วิวจะให้คำว่าอะไรบ้าง โดยน้องวิวบอกว่า สำหรับสามคำที่ตนให้ได้ในตอนนี้คือคำว่า “รู้สึกดี“

 

 

ด้านนายภัททพล เงินศรีสุข หรือโค้ชเป้ เผยว่า ผลงานของวิวในโอลิมปิกเกมส์ครั้งแรก ตนยินดีและดีใจกับน้องวิว ที่ได้เหรียญเงิน อาจมีเสียดายบ้าง แต่ไม่ได้เสียใจ โดยในรอบชิงชนะเลิศกับ วิคเตอร์ อักเซลเซ่น มืออันดับ 2 ของโลกจากเดนมาร์ก ทุกคนก็อยากคว้าเหรียญทอง เพราะมองว่าเรามาถึงรอบชิงฯ แล้วก็ต้องหวัง

โค้ชเป้ ยังบอกอีกว่าตนอยากให้น้องได้เหรียญทอง น้องก็อยากได้ด้วย บางครั้งอาจจะมีบ้างที่กดดัน แต่แน่นอนว่านี่คือครั้งแรกในโอลิมปิกของเขา และเข้าไปถึงรอบนี้เลย ผมว่าเขาเองก็เสียใจนิดหน่อยที่แพ้ แต่ก็ไม่เป็นไร ครั้งแรก เขาก็มูฟออนได้เร็ว

ส่วนตอนที่ตน ได้ให้กำลังใจและคำแนะนำกับน้องวิว จนกลายเป็นไวรัลที่คนไทยให้ความชื่นชมเป็นอย่างมาก โค้ชเป้ บอกว่าคนรู้สึกดีใจและขอบคุณที่ทุกคนเห็นในความพยายามของตนและทุกอย่างที่ทนด้อยสอนและให้คำแนะนำ ตนทำจากใจจริง

 

 

นอกจากนี้ในการมาต้อนรับกลับประเทศไทยยังพบว่ามีแฟนคลับของน้องวิวเดินทางมาหลายคน โดยหนึ่งในแฟนคลับ ได้เปิดใจกับทางทีมข่าวออนไลน์ช่อง 8 ว่า ติดตามผลงานของน้องวิวมานานแล้ว ตั้งแต่ช่วงที่น้องวิวได้แชมป์โลก ตั้งแต่วันที่ทราบผลการแข่งขันว่าน้องวิวได้เหรียญเงินโอลิมปิก ตนรู้สึกดีใจ ถึงจะเป็นที่สองและได้เหรียญเงินตนก็ภูมิใจมาก เพราะนี่เป็นการแข่งขันครั้งแรกของน้องก็ทำได้ขนาดนี้ สุดท้ายแฟนคลับท่านนี้ ก็ได้ฝากข้อความถึงน้องวิวว่า ขอให้สู้ต่อไปอีก 4 ปีข้างหน้าต้องเป็นของเราอย่างแน่นอน ตนพร้อมเชียร์สุดใจ


ขณะที่น้องบิวเดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ แฟนคลับท่านนี้ ได้นำเสื้อทีมฟุตบอลลิเวอร์พูลที่น้องวิวรักและชอบมามอบให้โดยเสื้อตัวดังกล่าวได้มีการสกรีนชื่อ KULAVUT (กุลวุฒิ) หมายเลข 24 บนเสื้อด้วย โดยแฟนคลับคนนี้บอกกับ ทีมข่าวออนไลน์ช่อง 8 ว่า นี่เป็นหนึ่งใน 2 ตัวที่น้องวิวจะได้รับในวันนี้ตัวอีกตัวจะได้รับจากคุณสรยุทธ นี่เป็นสิ่งที่ตนภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก