"เท้ง ณัฐพงษ์" นำทัพ"พรรคประชาชน" รับกดดันเป็นแคนดิเดตนายกฯพร้อมพัฒนาตนเอง ลั่นสร้างรัฐบาลพรรคเดียวให้ได้
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวว่า การได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคประชาชน มีภารกิจที่จะสร้างรัฐบาลแห่งการเลือกตั้งปี 2570 ตั้งเป้าหมายขั้นต่ำชนะการเลือกตั้งเป็นรัฐบาลพรรคเดียวให้ได้ ส่วนที่มาของชื่อพรรค สะท้อนว่าพรรคเกิดจากแนวคิดที่ว่า อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน เพื่อสร้างประเทศให้ประชาชน และสีประจำพรรคเป็นการสืบสานของพรรคเดิมต่อไป ไม่เปลี่ยนแปลง
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงด้านทีมบริหารพรรค แต่ยืนยันว่าจะไม่เป็นการสร้างพรรคให้เป็นของใครคนนึ่ง ยืนยันมาตลอดว่า จะยังคงเสนอแก้ไขร่างแก้ไข ม.112 ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญ ก็ไม่ได้สั่งห้ามแก้ไข แต่ทั้งนี้ก็ไม่ประมาท ซึ่งต้องผลักดันแก้ไขกฎหมายในส่วนนี้ที่ปัจจุบันถือว่ายังมีปัญหาอยู่
สำหรับส่วนกรณี 44 สส.อดีตพรรคก้าวไกว ซึ่งอยู่ในการพิจารณาของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตามมาตรา 235 ในขณะนี้ ส่วนตัวไม่กังวล ซึ่งเพื่อน สส.พร้อมชี้แจงได้
นายณัฐพงษ์ กล่าวอีกว่า ตนต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลง ถ้าต้องเจรจากับขั้วอำนาจเดิมที่ต้องแลกด้วยการขัดต่ออุดมการณ์ของพรรคประชาชน เราก็ไม่เอาด้วย ยืนยันเดินหน้าทุกอย่างต่อไป แต่ต้องกลับมาศึกษาคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญให้ดี
ส่วนกรณีที่กำลังถูกเสนอชื่อเป็น แคนดิเดตชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ตนยอมรับว่า ขณะนี้ยังไม่ดีพร้อม แต่พร้อมจะพัฒนาตัวเอง เราพยายามทำการเมืองให้ดี ตนจะทำหน้าที่แทนทุกคนเพื่อให้เหมาะสมกับการถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ ซึ่งสิ่งที่ผมมีไม่แพ้คนอื่นคือ การพาทุกคนมาอยู่ตรงนี้ได้และจะนำพาพรรคให้ชนะการเลือกคตั้งให้ได้
"ผมเชื่อมั่นว่า จะพาพรรคชนะการเลือกตั้งครั้งหน้าได้ เพื่อเป็นรัฐบาลพรรคเดียว และพร้อมพัฒนาตนให้ดีขึ้น แต่หากมีคนที่ดีกว่าก็พร้อมหลีกทางให้เช่นกัน" นายณัฐพงษ์ กล่าว
ส่วนพรรคจะมีอายุสั้นหรือยาว ขึ้นอยู่กับกลุ่มขั้วนาจเก่าที่เขาใช้เครื่องมือมากดทับเรา ดังนั้นเราจะไม่ประมาทเพื่อให้พรรคอยู่ต่อไป ซึ่งต้องการแรงสนับสนุนจากประชาชนเป็นสำคัญ
ทั้งนี้การแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารพรรค 5 คน ไม่ได้เพื่อหลบเลี่ยงกฎหมายหากถูกยุบพรรคอีกครั้ง เป็นเพียงการทำตามเงื่อนไขของกฎหมาย ดังนั้นเราต้องการยอดบริจาค 10 ล้านบาท และหาสมาชิกพรรคเพิ่ม 1 อีกแสนคนภายใน 1 เดือนให้ได้
นายณัฐพงษ์ ยอมรับว่า ต้องแบกรับความกดดันในฐานะหัวหน้าพรรค ซึ่งนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้บอกกับตนว่า พร้อมให้คำแนะนำตลอด ส่วนนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และอดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ คนนี้ซัพพอร์ตอยู่ตลอดเวลา โดยนายธนาธร ได้ให้คำแนะนำว่า ถ้าจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ ตนต้องพัฒนาตัวเอง เห็นนโยบายอีกหลายด้าน และต้องทำงานหนักขึ้นกว่านี้ ดังนั้นตนยืนยันว่า หลังจากนี้จะพยายามสื่อสารกับประชาชนอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งสิ่งที่จะมีอิทธิพลกับผมคืออุดมการณ์ และทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล ทำงานอย่างหนัก ไม่ใช่ที่ตัวบุคคลแน่นอน