เกิดอุบัติเหตุหนุ่มไซต์งานด่วนพระราม 2 ดวงกุดขี่ จยย. ปาดหน้าแท็กซี่ ถูกชนร่างกระเด็นติดฝากระโปรงหลัง คาดเตรียมมาปิดการจราจร ด้านโซเฟอร์ อ้าง ขับไม่เร็วแต่เบรกไม่ทัน

เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 9 ส.ค. 2567 ร.ต.อ.มอ ระนา รอง สว.(สอบสวน) สน.แสมดำ รับแจ้งเหตุรถเฉี่ยวชนกันมีผู้เสียชีวิต บริเวณถนนพระราม 2 ระหว่างซอย 94-96 ใกล้กับหน้าปั๊มน้ำมัน ปตท. ฝั่งขาเข้า แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ จึงไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู โดยที่เกิดเหตุอยู่บนถนนพระราม 2 ในช่องทางหลัก แบ่งเป็นถนน 4 เลน เหตุเกิดบริเวณเลนซ้ายสุด พบรถแท็กซี่ สีเขียว-เหลือง สภาพฝากระโปรงหน้าพังยับเยิน กระจกหน้ารถฝั่งซ้ายมีรอยชนแตกละเอียด




ตรวจสอบบนฝากระโปรงท้ายรถพบศพนายบรรพต อายุ 20 ปี เป็นคนงานไซต์ก่อสร้างโครงการสะพานทางด่วน สภาพนอนหงายศรีษะทะลุกระจกท้ายรถ สวมเสื้อยืดสีดำ คลุมด้วยเสื้อกั๊กสะท้อนแสงสีเขียว นุ่งกางเกงขายาวสีดำ มีบาดแผลศรีษะและใบหน้า แขนขวา และขาขวาหัก 2 ท่อน คอหัก นอนเสียชีวิตอยู่ท้ายกระโปรงรถ ห่างออกไปประมาณ 10 เมตร พบรถจักรยานยนต์ผู้ตาย สภาพถูกชนพังยับทั้งคัน เบาะรถและป้ายทะเบียนหลุดกระจัดกระจาย ล้มคว่ำตะแคงอยู่กลางถนน เจ้าหน้าที่จึงเร่งปิดกั้นถนนป้องกันเกิดเหตุซ้ำ




สอบสวน นายบุญโฮม อายุ 56 ปี โชเฟอร์แท็กซี่คันเกิดเหตุ เล่าว่า ขณะตนกำลังขับไปส่งผู้โดยสารผู้หญิง 2 คนที่หมอชิต ขับรถตรงมาจากพันท้ายในเลนซ้ายสุด ซึ่งเป็นช่วงที่เริ่มมีการปิดช่องการจราจรในช่องทางหลัก และสังเกตุเห็นรถของคนงานเริ่มทยอยขับเข้ามาจากเลนขวาสุด โดยกั้นจุดแรกช่วงพันท้ายนรสิงห์ ก.ม.18 ขณะกำลังนั่งคุยกับผู้โดยสาร เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ จู่ ๆ รถรถจักรยานยนต์ผู้ตายขี่ตรงดิ่งเข้ามาที่เลนตน ทำให้ตนไม่ทันได้แตะเบรก เนื่องจากมันกระชั้นชิดจนกระทั่งชนรถผู้ตาย โดยเพื่อนผู้ตายบอกว่า ทางผู้ตายกำลังจะมาปิดกั้นถนนเพื่อสร้างสะพานในช่องเลนด่วน ซึ่งปกติตนใช้เส้นทางนี้และรู้ว่ามีการปิดกั้นถนนทุกวัน แต่วันนี้ก่อนเกิดเหตุพบว่ายังไม่มีการปิดถนนก็รู้สึกดีอยู่ชั่วครู่เพราะถนนโล่ง โดยไม่คิดว่าผู้ตายจะขี่รถพุ่งออกมาจนเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น




ทั้งนี้ยืนยันว่าคอยระวังตลอดและไม่ได้ขับเร็วแต่อย่างใด ซึ่งคิดว่าผู้ตายจะมาปิดถนนแต่ไม่คิดว่าจะขับออกมาในเลนนอก และไม่กั้นให้ครบทุกเลนทำให้มีรถบางส่วนขับเข้ามา ยอมรับว่าไม่อยากให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น เนื่องจากทรัพย์สินตนก็เสียหายและเสียใจกับผู้เสียชีวิตด้วย


เบื้องต้นพนักงานสอบสวนเตรียมตรวจสอบจากกล้อวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ และเชิญตัวคนขับรถแท็กซี่ไปสอบปากคำเพิ่มเติม ส่วนร่างผู้ตายมอบให้อาสามูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งชันสูตรเพิ่มเติมที่นิติเวช รพ.ศิริราช ก่อนประสานให้ญาตินำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป