แม่ค้าโอด! ดอกมะลิพุ่งโลละ 1,200 บาท รับวันแม่ ร้านพวงมาลัยต้องปรับขึ้นราคาขายอีกเกือบเท่าตัว

วันที่ 11 ส.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ การจำหน่ายพวงมาลัยดอกมะลิสด ในช่วงเทศกาลวันแม่ปีนี้ เป็นไปอย่างคึกคัก อย่างตลาดสดในเขตเทศบาล ตำบลหนองฉาง อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งเป็นจุดที่มีร้านขายพวงมาลัยมากที่สุด บรรดาร้านขายพวงมาลัยต่างพากันเร่งร้อยมาลัยกันจำนวนมาก เนื่องจากมีเยาวชน นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ให้ความสนใจมาเลือกซื้อและสั่งจองพวงมาลัยกันจำนวนมากในช่วงนี้ โดยเฉพาะพวงมาลัยดอกมะลิสดแบบคล้องมือ ซึ่งได้รับความนิยมใช้สำหรับกราบขอพรจากแม่ในวันแม่แห่งชาติเป็นประจำทุกปี

 

 

ทั้งนี้ราคาพวงมาลัยดอกมะลิสด ปรับราคาสูงขึ้นหลายเท่าตัว เนื่องจากราคาดอกมะลิสดที่ใช้ร้อยพวงมาลัยนั้น มีการปรับตัวสูงขึ้นถึง 2 เท่าตัว จากเดิมดอกมะลิอยู่ที่กิโลกรัมละ 200 - 250 บาท มีการปรับราคาขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 500 – 600 บาท เนื่องจากแหล่งปลูกมะลิใน อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี นั้นมีน้อยประกอบกับช่วงนี้เป็นฤดูฝนมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องส่งผลให้พบว่ามีศัตรูพืชทั้งหนอน และแมลงกัดกินดอกมะลิได้รับความเสียหาย เก็บดอกมะลิส่งขายร้านขายดอกไม้สดไม่เพียงพอต่อความต้องการ

พ่อค้า-แม่ค้าดอกไม้สด ต้องไปสั่งซื้อมาจากตลาดสะพานดำ จังหวัดนครสวรรค์ ที่รับต่อมาจากปากคลองตลาดกรุงเทพมหานครอีกทอดหนึ่ง จึงยิ่งทำให้มีต้นทุนสูงขึ้นไปอีกถึงกิโลกรัมละ 1,200 บาท เพื่อนำมาร้อยพวงมาลัยดอกมะลิสดจำหน่าย ในวันแม่แห่งชาติ และต้องปรับราคาพวงมาลัยดอกมะลิสดแพงขึ้นตามไปด้วย

 

 

โดยพวงมาลัยคล้องมือ หรือพวงมาลัยข้อมือนั้น มีราคาตั้งแต่ 40 บาท ไปจนถึงพวงละ 300 - 500 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดและความละเอียดในการร้อย ซึ่งแพงจากเดิมไปเฉลี่ยพวงละ 20 บาท ไปจนถึง 100 บาท และหากว่าจะขายราคาสูงกว่าเดิมไม่มาก ร้านดอกไม้สดต้องแก้ปัญหาลดดอกมะลิ ให้แต่ละพวงน้อยลง แม่ค้าต้องพากันเร่งร้อยพวงมาลัยดอกมะลิสด ให้เพียงพอต่อความต้องการ อีกทั้งราคาพวงดอกมะลิที่มีราคาแพง แม่ค้าร้านดอกไม้สดต้องแก้ปัญหาโดยไม่รับดอกมะลิมาร้อยพวงมาลัยเลย และจะใช้ดอกพุดมาร้อยพวงมาลัยแทน ทำให้มีราคาถูกลงมาอีก เพื่อใช้สำหรับไปกราบขอพรจากแม่ในวันแม่แห่งชาติในวันพรุ่งนี้กันอีกด้วย