เกิดอุบัติเหตุรถตู้ครอบครัวกลับจากเยี่ยมญาติวันแม่ ถูกรถพ่วงขนไม้ชนสนั่น โชคดีแค่เจ็บ 2 ราย

วันที่ 12 สิงหาคม 2567 มีรายงานว่า ร.ต.อ.อาทิตย์ บุตรละคร รองสารวัตรสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุ รถตู้ชนกับรถบรรทุกพ่วงมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณถนนเพชรเกษม ทางหลวงหมายเลข 4 ระหว่างหลักกิโลเมตร ที่ 311-312 หน้าโรงเรียนเทศบาลบ้านหนองบัว เขตเทศบาล อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ หลังได้รับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างประจวบฯ และบริษัทประกัน รีบเข้าตรวจสอบพร้อมให้การช่วยเหลือนำผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล




โดยที่เกิดเหตุพบว่า สภาพการจราจรบนถนนเพชรเกษม มีปริมาณรถที่หนาแน่นจำนวนมาก โดยเฉพาะเส้นทางขาเข้ากรุงเทพมหานคร เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดยาวติดต่อกันในวันแม่แห่งชาติ และในวันนี้มีปริมาณรถจำนวนมากที่ทยอยเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบผู้ได้รับบาดเจ็บที่โดยสารมากับรถตู้จำนวน 2 ราย บาดเจ็บเล็กน้อยจากการถูกกระจกบาด เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังให้การช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ส่วนผู้โดยสารที่เหลือได้พากันไปนั่งหลบแดดอยู่บริเวณโคนต้นไม้ข้างทาง เพื่อรอบริษัทประกันเข้ามาดำเนินการ




จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบเป็นรถตู้ครอบครัวขนาดประมาณ 13 ที่นั่ง สีน้ำเงิน สภาพรถด้านซ้ายได้รับความเสียหาย ประตูบุบ กระจกและไฟเลี้ยวแตก มีเศษชิ้นส่วนของกระจกกระจัดกระจายเกลื่อนภายในรถ และมีคราบเลือดอยู่ที่บริเวณเบาะนั่งของผู้โดยสาร โดยรถตู้จอดอยู่บริเวณไหล่ทางข้างซ้ายใกล้กับรถพ่วงคู่กรณี เป็นรถบรรทุกลากพ่วงขนาด 22 ล้อ บรรทุกไม้ยางพาราผ่าซีกมาเต็มคันรถ สภาพรถกันชนด้านหน้าหลุดออกจากตัวรถ และไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ




นายสันทัด คนขับรถตู้ เล่าว่า ตนเองกำลังเดินทางกลับจากพาครอบครัวไปเที่ยวเยี่ยมญาติที่บ้านในจังหวัดชุมพรเนื่องในวันแม่ มาด้วยกันทั้งหมด 7 คน เป็นเด็ก 2 คน และกำลังเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุตนขับวิ่งมาทางตรงเลนขวา ระหว่างนั้นได้มีรถบรรทุกลากพ่วงออกมาจากถนนซอยข้างวัดหนองบัว รถตู้ของตนเบรกไม่ทันจึงทำให้เกิดการเฉี่ยวชนกันขึ้น โชคดีได้รับบาดเจ็บแค่ 2 ราย และไม่มีใครได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนคนขับรถบรรทุกพ่วงอ้างว่ามีรถกระบะแซงด้านซ้ายปาดหน้าทำให้ต้องหักลบ จึงเกิดการเฉี่ยวชนกันขึ้น อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถ่ายภาพเก็บหลักฐาน และตรวจสอบในที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป