รองผู้การฯ จ.ประจวบฯ ลงพื้นที่ตรวจผับ กรณีจ่าสิบเอก ทหารค่ายธนะรัชต์ ถูกยิงดับคาผับเถื่อนหัวหิน ล่าสุดพบ มือยิงเป็น กต.ตร.สภ.หัวหิน เข้ามอบตัวแล้ว

วันที่ 18 สิงหาคม 2567 เมื่อเวลา 04.00 น. ตร.สภ.หัวหิน ได้รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันเสียชีวิต และบาดเจ็บในผับซอย 80 กลางเมืองหัวหิน หลังจากรับแจ้ง ตำรวจ สภ.หัวหิน ชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างหัวหินธรรมสถาน เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ห่างจาก สภ.หัวหิน ไม่กี่ร้อยเมตร ไปถึงพบมีนักดื่มชายหญิงออกจากผับมาจับกลุ่มพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้านใน

สำหรับผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 คนในผับ ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย ถูกลูกหลงนำส่งรักษาตัวในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง และยังมีชายอีก 1 คน ถูกกระสุนปืนเฉี่ยวบริเวณแขนขวา ซึ่งเล่าว่า ตนเองอยู่ใกล้กับผู้เสียชีวิต ซึ่งถูกคนร้ายยิงในขณะที่ผู้เสียชีวิตลุกออกจากโต๊ะไป และน่าจะเดินไปชนกับหญิงสาวอีกโต๊ะหนึ่ง จากนั้นคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียชีวิตจากด้านหลัง 1 นัดจนล้มลง และตามเข้าไปยิงอีก 2-3 นัด หลังจากนั้นผู้ที่อยู่ในผับจึงวิ่งหลบและพากันวิ่งออกไปด้านนอก รวมทั้งคนร้ายที่ลงมือยิงด้วย อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เข้าไปเที่ยวต่างรู้จักว่าผู้เสียชีวิตเป็นทหาร มีนิสัยดี และเข้ามาเที่ยวกับเพื่อน

ทั้งนี้ บรรดานักท่องราตรีต่างรู้ดีว่า ผับแห่งนี้ส่วนใหญ่เปิดให้ดื่มกินจนถึงราวตีห้ามานานกว่า 6 เดือนแล้ว โดยด้านในมีบริการเครื่องดื่มสุรา เบียร์ และใช้ดีเจเปิดเพลง

ขณะเดียวกันหญิงสาวรายหนึ่งที่เข้ามาเที่ยวซึ่งอยู่ในช่วงที่เกิดเหตุก็บอกว่า ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2-3 นัด ช่วงนั้นก็มีผู้ที่อยู่ดื่มกินด้านในกว่า 50 คน มีการเปิดเพลงเมื่อได้ยิงเสียงปืนดังขึ้น จึงหลบก้มหัวลงและวิ่งออกมาด้านนอก ซึ่งเท่าที่ทราบที่ผับนี้ก็เปิดถึงตี 5

หลังเกิดเหตุไม่นาน เพื่อนผู้เสียชีวิตได้โทรศัพท์ไปแจ้งนางสุภรดา ซึ่งเป็นแม่ของจ่าสิบเอก โรจนภณ โรจน์พานิช หรือพั้น อายุ 31 ปี ผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นนายสิบการข่าวกรมนักเรียน โรงเรียนทหารราบ ศูนย์การทหารราบค่ายธนะรัชต์ ปราณบุรี ซึ่งคุณแม่ได้เดินทางมาหลังเกิดเหตุกับญาติ มารอตำรวจพิสูจน์หลักฐานที่เดินทางมาถึงเมื่อเวลา 09.00 น. เพื่อรอรับศพลูกชาย ซึ่งตนเองมีลูก 2 คน พั้นเป็นลูกคนโตมีน้องสาวอีก 1 คน ซึ่งพั้นเป็นคนเรียบร้อย มักจะช่วยเหลือคุณแม่ตลอด ทราบแต่ว่าเพื่อนชวนมาเที่ยวแล้วมาถูกยิง ไม่คิดว่าหัวหินซึ่งเป็นเมืองที่ปลอดภัยที่สุดจะมาเกิดเหตุการณ์ที่อุกอาจแบบนี้ คุณแม่รู้สึกเสียใจมากไม่นึกว่าจะรุนแรงขนาดนี้ ส่วนคนร้ายทราบว่าก็น่าจะรู้ดีว่าเป็นใคร เพราะมีภาพอยู่ในบรรดาเพื่อนที่บันทึกเอาไว้ และในโซเชียล ซึ่งเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ที่ผ่านมา ยังได้พบกับลูกชายเพราะเป็นวันเกิดเขา และยังอวยพรให้เขาอยู่เลยว่า ขอให้เขาเป็นเด็กดี ลูกเป็นคนไม่ค่อยพูด เป็นที่รักใคร่ของเพื่อนฝูง ไม่นึกว่าลูกจะมาจากไปในวันนี้

ในขณะเดียวกัน แฟนของผู้เสียชีวิตซึ่งไปทำงานอยู่ที่จังหวัดชลบุรี หลังทราบข่าวว่าสามีตนเองถูกยิงเสียชีวิต จึงขับรถมายังที่เกิดทันทีในช่วงสาย และเมื่อพบกับแม่สามีต่างโผเข้ากอดและร้องไห้จนเป็นลม ทำให้ตำรวจและเจ้าที่มูลนิธิต้องช่วยกันปฐมพยาบาลและให้พักผ่อน

ต่อมา พ.ต.อ. กิตติเทพ ชมพูนุช รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุภาพในผับดังกล่าวกับตำรวจพิสูจน์หลักฐาน แพทย์โรงพยาบาลหัวหิน โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปด้านในผับที่เกิดเหตุ กล่าวเพียงว่า พบว่าผู้เสียชีวิตถูกยิง 3 นัดที่ศีรษะและลำตัว และฟังจากรายงานของสารวัตรสอบสวน สภ.หัวหิน

เบื้องต้นและรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว คงต้องให้พนักงานสอบสวนรวบรวมหลักฐานให้เสร็จสิ้นก่อนถึงจะออกหมายจับต่อไป โดยพบหัวกระสุนปืนขนาด 9 มม. 2 หัว และปลอกกระสุนขนาด 9 มม. 2 ปลอก ส่วนกรณีเรื่องผับเถื่อนแห่งนี้คงต้องรอการตรวจสอบ

โดยภายในซอย 80 แห่งนี้มีบาร์เบียร์ตลอด 2 ฝั่ง ถนนตั้งแต่หัวซอยยันท้ายซอย ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยิงกันในผับแห่งนี้ ส่วนใหญ่ตั้งคำถามว่า ทั้งฝ่ายปกครองอำเภอหัวหิน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หัวหิน ทำไมถึงปล่อยให้มีการเปิดผับเถื่อน เปิดเกินกันจนเช้ามานานกว่า 6 เดือนแล้ว รวมทั้งการพกพาอาวุธปืนที่เข้าไปในผับทั้งที่มีการ์ดอยู่ด้านหน้าประตู

หลังจากตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าไปตรวจสอบเสร็จแล้วในช่วงเวลา 11. 00 น. ที่ผ่านมา จึงให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างหัวหินธรรมสถานนำศพออกมาส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาลตำรวจ

โดยพนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน ได้เรียกเพื่อนผู้เสียชีวิตและผู้ที่บาดเจ็บที่แขนไปสอบสวนที่ สภ.หัวหิน รวมทั้งพยานต่างๆ โดยทางตำรวจตรวจสอบแล้วพบว่าผู้ลงมือก่อเหตุเป็นหนึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ (กต.ตร.) สภ.หัวหิน ซึ่งล่าสุดได้เดินทางมามอบตัวที่ สภ.หัวหิน แล้ว โดยผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 สั่งให้ดำเนินคดีถึงที่สุด รวมถึงเจ้าของผับและสั่งปิด 5 ปี