เจ้าท่า สมุทรปราการ เข้าแจ้งความ "คิวพี" ด้านเจ้าตัวเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้วเดินทางกลับทันทีโดยไม่ให้สัมภาษณ์ เพียงแต่พยักหน้าตอบรับว่าได้ไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บแล้ว
วันที่ 20 สิงหาคม 2567 เมื่อเวลา 11.00 น. นายฉัตรชัย เวชสาร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาสมุทรปราการ มอบอำนาจให้นายคณาธิป ภู่พันธ์ศรี เจ้าพนักงานขนส่งชำนาญงาน สำนักงานเจ้าท่า สาขาสมุทรปราการ นำหลักฐานแจ้งความเอาผิด กับนายชินดนัย แซ่ลิ้ม หรือ คิวพี อายุ 21 ปี นักแสดงวัยรุ่น จากเหตุการณ์ขับเจ็ตสกีพุ่งชนเรือหางยาว จนทำให้มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย และเสียชีวิตอีก 2 ราย เหตุเกิดในแม่น้ำเจ้าพระยาตรงข้ามกับท่าน้ำวัดบางกระเจ้านอก ตำบลบางยอ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อเวลา 21.00 น. ของวันที่ 17 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยมี พ.ต.อ.ประเสริฐสุข เฮงสุวรรณ์ ผกก.สภ.พระประแดง พ.ต.ท. ชยุต ไหมหรือ รอง ผกก.(สอบสวน) พ.ต.ท.อิศรัฐ ตันสุ สว.(สอบสวน) รับหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษ และรับแจ้งความร้องทุกข์ ดำเนินคดีในข้อหาขับขี่โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สำหรับข้อกล่าวหากระทำผิดพระราชบัญญัติทางเรือในส่วนของกรมเจ้าท่านั้น มีความผิดฐานไม่มีใบอนุญาตนายท้ายเรือ และบรรทุกผู้โดยสารเกินที่กฎหมายกำหนด โดยกรมเจ้าท่าได้เปรียบเทียบปรับตามอัตราโทษสูงสุดคือ 10,000 บาท ซึ่งถือเป็นอันสิ้นสุดคดีแล้ว คงเหลือไว้แต่เพียงคดีอาญา ซึ่งจะมีการแจ้งข้อกล่าวหากับนายชินดนัย ในช่วงที่เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป
นายคณาธิป ภู่พันธ์ศรี เจ้าพนักงานขนส่งชำนาญการกรมเจ้าท่าสมุทรปราการ ได้เล่าให้ฟังว่า ตนเองได้รับมอบอำนาจจากผู้อำนวยการสำนักงานกรมเจ้าท่า สมุทรปราการ ซึ่งวันนี้มาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อผู้ขับขี่เรือ ในข้อหาไม่มีประกาศนียบัตรหรือว่าที่เขาเรียกว่าใบนายท้ายหรือใบขับขี่เรือ ก็แจ้งความต่อเจ้าพนักงานสอบสวน สภ.พระประแดง ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายซึ่งโทษของการที่ไม่มีใบประกาศนียบัตรฉบับนี้ มีโทษจำคุก 6 เดือน และปรับ 1,000 - 10,000 บาท ซึ่งตนได้ส่งหนังสือให้เจ้าพนักงานสอบสวน ก็รอเจ้าพนักงานสอบสวน สภ.พระประแดง อาจดำเนินการสอบ
ในส่วนของกรมเจ้าท่า สาขาสมุทรปราการ ได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด เนื่องจากเมื่อวันที่ 19 ตนได้เรียกนายชินดนัย กับเจ้าของเรือ มาให้ปากคำข้อเท็จจริงทั้งหมดในวันเกิดเหตุว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร โดยไล่ลำดับเวลา จากนั้นเมื่อสอบสวนเสร็จจึงรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมส่งพนักงานสอบสวนเรียบร้อยแล้ว รวมถึงบทบัญญัติข้อกฎหมายทั้งหมดของกรมเจ้าท่า ที่จะดำเนินคดีพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย โดยนายชินดนัยได้กระทำความผิดตามมาตรา 175 ผู้ใดใช้เรือผิดจากเงื่อนไขในข้อกำหนดใบอนุญาตต้องระวังโทษจำคุกตั้งแต่ 1,000 ถึง 10,000 บาท ทั้งนี้สำนักงานกรมเจ้าท่า สาขา จังหวัดสมุทรปราการ ได้ปรับโทษสูงสุดเป็นจำนวน 10,000 บาท และออกใบเสร็จให้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งใบอนุญาตให้ใช้เรือจำกัดเพียงแค่ผู้โดยสาร 1 ท่าน แต่วันเกิดเหตุ จากการสอบสวนเรือดังกล่าวโดยสารรวมทั้งหมด 3 ท่าน ซึ่งผิดเงื่อนไขจึงทำให้เกิดอันตราย จึงดำเนินคดีเปรียบเทียบปรับเรียบร้อย
ในความผิดทางคดีของเรือหางยาว ซึ่งตนเองยังไม่ได้เจอเจ้าของ หรือเจ้าของอาจจะเสียชีวิตจึงยังไม่ได้เรียกสอบสวน ซึ่งถ้าหากตรวจพบว่าเรือไม่มีทะเบียนก็มีความผิดเช่นเดียวกัน และหากตรวจพบว่าผู้ขับเรือหางไม่มีใบนายท้ายเรือก็มีความผิดในแบบลักษณะเดียวกัน ขณะเดียวกันตนเองจะได้เรียกสอบพยานอีก 1 ปากที่รอดชีวิต ของเรือลำนั้น แต่หลังจากเสร็จงานศพเรียบร้อยแล้ว ตนเองจะเชิญบุคคลท่านนั้นมาสอบสวนหาสาเหตุเพิ่มเติม และจากนั้นกรมเจ้าท่าสาขาสมุทรปราการ จะเรียกสอบปากคำผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดให้ครบ นอกจากนี้ กรมเจ้าท่าสมุทรปราการจะเร่งรัดและรณรงค์เรื่องความปลอดภัยผู้ขับเรือข้ามฟาก ทั้งเรือเล็ก และเรือโดยสาร ให้สวมเสื้อชูชีพ โดยแนะนำให้มาสอบความรู้ใบประกาศนียบัตร พร้อมกับนำเรือให้มาจดทะเบียนอย่างถูกต้อง ทั้งจังหวัดในเขตความรับผิดชอบของจังหวัดสมุทรปราการ ส่วนที่เป็นเรือรับจ้างประจำ ที่ตนเองตรวจก็จะพบใบนายท้าย พร้อมกับทะเบียนเรือถูกต้อง ส่วนเรือที่เกิดเหตุค่อนข้างที่จะตรวจสอบยากเพราะเป็นประชาชน และเขาโทรเรียกให้บริการกันเองเนื่องจากเป็นประชาชน หลังจากเกิดเหตุจึงทราบว่า เรือลำดังกล่าวไม่มีทะเบียน แต่เท่าที่ตรวจสอบเรือทั่วไปในเขตพระประแดงที่รับจ้างมีทะเบียนทุกลำ
พ.ต.อ.ประเสริฐสุข เฮงสุวรรณ์ ผกก.สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า วันนี้ทางพนักงานสอบสวนของ สภ.พระประแดง ได้คุยกับตัวแทนของกรมเจ้าท่า ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และวันนี้ได้เข้ามาแจ้งความนายชินดนัย แซ่ลิ้ม หรือคิวพี ในกรณีที่ขับเรือโดยไม่มีประกาศนียบัตร หรือใบขับขี่เรือ ทางพนักงานสอบสวนคดี จึงเตรียมประมวลงานตามกฎหมาย และจะส่งขึ้นที่ศาลแขวง พร้อมข้อกล่าวหาในการกระทำความผิด ขับขี่โดยประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเชิญตัวคิวพี และได้นัดหมายกันแล้ว กำลังเตรียมเดินทางมา และได้รับการยืนยันจากผู้ปกครอง ในส่วนของการชดใช้ค่าเสียหาย ค่าเยียวยาให้กับฝ่ายญาติผู้เสียชีวิต จะมีการบวชชดใช้ให้กับผู้เสียชีวิต เพื่อเยียวยาทางจิตใจ
จากการสอบสวนทางด้าน คิวพี ได้มีท่าทีแสดงความเสียใจและรู้สึกผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเรื่องที่มีภาพว่าคิวพีมีการดื่มแอลกอฮอล์ด้วย จากการตรวจสอบยังไม่มีหลักฐานที่แสดงได้ว่าเป็นความจริง ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการเป่าแอลกอฮอล์ในวันที่เกิดเหตุแล้ว และพบว่า เป็น 0% และได้มีการไปตรวจสอบกับร้านค้าในวันที่เกิดเหตุที่ทางด้านคิวพีไปกิน พบว่าไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา ขับขี่โดยประมาท เป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งจะมีการนัดหมายเข้าพบอัยการและเข้าสู่กระบวนการอีกครั้ง ด้านคิวพี หลังจากรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ทางคิวพีและคุณพ่อได้เดินทางกลับทันที โดยไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน แต่จากการสอบถามคิวพี ว่าไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บหรือยัง ได้พยักหน้าตอบรับ ก่อนจะขึ้นรถเดินทางออกไป