จนท.เร่งเคลียร์เส้นทางค้าชายแดนไปช่องทางบ้านห้วยผึ้ง ต.ห้วยผา อ.เมือง ฯ หลังดินสไลด์ลงปิดทับเส้นทาง บ่อยครั้ง กระทบการขนส่งสินค้าอย่างหนัก ขณะที่ สนทช.เตือนรับมือฝนตกหนักในพื้นที่ทั้ง 7 อำเภอของจังหวัดแม่ฮ่องสอน

เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา นายสังคม คัดเชียงแสน นายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก อส.ที่ประจำป้อมยาม/จุดตรวจบ้านทรายขาว ต.ห้วยผา อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ว่า ได้เกิดดินภูเขาสไลด์ลงปิดทับเส้นทางระหว่างบ้านห้วยผึ้ง – ช่องทางจุดผ่อนปรนเพื่อการค้าห้วยผึ้ง เนื่องจากช่วง 18-20 สิงหาคม 2567 ได้เกิดฝนตกต่อเนื่อง ต้นไม้ล้ม และดินสไลด์ ทำให้รถยนต์ไม่สามารถสัญจรไป-มา ได้ โดยผู้ประกอบการค้าชายแดนได้สนับสนุน เครื่องจักร รถแบ็กโฮ เข้าดำเนินการ ปรับเกลี่ยดินสไลด์ เพื่อเปิดเส้นทาง และสามารถดำเนินการเปิดเส้นทางได้เมื่อเวลา 17.00 น. และยานพาหนะสามารถวิ่งผ่านได้เป็นปกติ

 

 

สำหรับเส้นทางสายดังกล่าวเป็นเส้นทางลำเลียงสินค้าจากแม่ฮ่องสอน ส่งออกไปยังประเทศเมียนมา และเป็นช่องทางการค้าหลักของจังหวัด ที่มีมูลค่าการค้าสูงที่สุด ในห้วงฤดูฝนเป็นต้นมา พบว่าในพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะช่องทางบ้านห้วยผึ้งมีฝนตกชุกมาก ทำให้ดินภูเขาสไลด์ลงปิดทับเส้นทาง มาแล้ว 6 ครั้ง

 

 

ทางด้านสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ได้ออกประกาศ ฉบับที่ 11/2567 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยทาง สทนช. ได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำตามฝนคาดการณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) และการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่มบริเวณพื้นที่ต้นน้ำ จากกรมทรัพยากรน้ำและกรมทรัพยากรธรณี พบว่า มีพื้นที่เสี่ยงต้องเฝ้าระวัง ในช่วงวันที่ 24 – 30 สิงหาคม 2567 ดังนี้

ในพื้นที่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก ทั้ง 7 อำเภอได้แก่ 1.อำเภอปาย 2.อำเภอปางมะผ้า 3.อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน 4.อำเภอขุนยวม 5.อำเภอแม่ลาน้อย 6.อำเภอแม่สะเรียง และ 7.อำเภอสบเมย

โดยได้เน้นให้เฝ้าระวังพื้นที่ลาดเชิงเขา พื้นที่ริมน้ำ และพื้นที่เกิดเหตุซ้ำซาก รวมถึงอำเภออื่นที่มีฝนสะสม/ โดย สทนช. จะดำเนินการทำแผนที่คาดการณ์รายวันและสามวัน จึงขอให้หน่วยงานในพื้นที่นำแผนที่คาดการณ์ไปประกอบในการเฝ้าระวัง)

 

 

ในการนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรดดำเนินการ ดังนี้

1. ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมอยู่เป็นประจำ หรือพื้นที่ชุมชนเมืองที่เคยเกิดน้ำท่วมขังระบายไม่ทัน (สภาพพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ควรเฝ้าระวังเมื่อเกิดฝนตกหนักสะสม 24 ชั่วโมง มากว่า 40 มิลลิเมตร ในพื้นที่ให้แจ้งเตือนศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อำเภอ และศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเมื่อเกิดฝนตกหนัก สะสม 24 ชั่วโมง เกิน 70 มิลลิเมตร ให้ชุดปฏิบัติการในระดับต่างๆ เข้าพื้นที่ทันที)

2. ติดตาม ตรวจสอบ ซ่อมแซม แนวคันบริเวณริมแม่น้ำและพนังกั้นน้ำ เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ อาคารชลศาสตร์ให้พร้อมใช้งาน และเร่งกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ

3. เตรียมแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก พร้อมวางแผนการบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม ปรับการบริหารจัดการน้ำในแหล่งเก็บกักน้ำขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดเล็ก น้ำในลำน้ำ รวมถึงเขื่อนระบายน้ำและประตูระบายน้ำ ให้สอดคล้องกันตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ

4. ประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำ และแจ้งเตือนล่วงหน้า ให้ประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ เตรียมพร้อมในการอพยพได้ทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์