"นายกฯอิ๊งค์" ยอมรับ "ทักษิณ" โชว์กึ๋นดิจิทัลวอลเล็ตอิงนโยบายเพื่อไทย ไม่ใช่แถลงนโยบาย ยอมรับเป็นไปได้แจกเงินสดกลุ่มเปราะบางก่อน ยันพ่อไม่ครอบงำ ลั่น มีความคิดเป็นของตัวเอง
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ภายหลังพบภาคเอกชนที่เห็นด้วยกับการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ให้กับกลุ่มเปราะบางก่อน ว่า วันนี้ยังไม่ได้ลงรายละเอียดในเรื่องนั้น แต่ภาคเอกชนที่มาในวันนี้บอกว่าพร้อมที่จะทำงานร่วมกัน ซึ่งมีทั้งสภาหอการค้าไทย และสภาหอการค้าไทย-จีน สภาอุตสาหกรรมไทย และสมาคมธนาคารไทย และวันนี้เนื่องจากตนยังไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้จึงเป็นการรับฟังความคิดเห็นจากเอกชนดังกล่าว ซึ่งเป็นการแชร์ประสบการณ์และปัญหาที่ติดขัด และมีการทำความเข้าใจกัน ซึ่งในการพบกันครั้งนี้มี นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง มาร่วมด้วย และได้คุยกันในรายละเอียดพอสมควร
ผู้สื่อข่าวถามว่าความชัดเจนของการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตเป็นอย่างไร เพราะที่ผ่านมายังไม่มีความชัดเจนจากภาครัฐบาล แต่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้พูดชัดในงาน Dinner Talk Vision for Thailand 2024 น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ทางรัฐบาลจะให้ความชัดเจนอีกทีตอนที่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งตนจะเป็นคนอ่านแถลงในวันนั้น ส่วนในเรื่องของนายทักษิณ นั้น เราได้คุยและปรึกษากันอยู่แล้ว และจริงๆมีหลายรูปแบบ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่เป็นห่วง ทั้งทางรัฐบาล ทุกคน รวมถึงนายทักษิณ คิดในทิศทางเดียวกันเศรษฐกิจต้องการ การกระตุ้นจริงๆ ถ้าเรารอระบบไปเรื่อยๆทั้งกระบวนการโดยไม่มีการปรับเลย ประชาชนก็จะเดือดร้อนนานขึ้น ฉะนั้นอะไรที่จะเป็นสิ่งแก้ปัญหาได้เร็วที่สุด นี่คือความตั้งใจ ส่วนกระบวนการและรายละเอียดต่างๆ เราจะสรุปในวันแถลงนโยบาย
เมื่อถามว่าพอจะพูดได้หรือไม่ ประชาชนทุกคนที่ตั้งความหวังไว้จะได้รับข่าวดี นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า "ตัวดิฉันมั่นใจว่าเป็นข่าวดีนะคะ"
เมื่อถามว่านายทักษิณพูดชัด กลุ่มเปราะบางจะได้ก่อนเป็นเงินสด นายกรัฐมนตรี กล่าวทันที ว่า "คุณทักษิณ เป็นคนพูดชัดทุกเรื่อง ฉะนั้นนี่ก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยเช่นกัน"
เมื่อถามว่าในวันนี้ไม่ว่านายทักษิณ จะพูดอะไรมาย่อมปฏิเสธไม่ได้ว่านั่นคือส่วนหนึ่งของนโยบาย พรรคเพื่อไทยหรือรัฐบาล น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า จริงๆแล้ว อย่างตอนที่ปรึกษากันหรืออะไรก็ตาม หรือการคิดนโยบายต่างๆ อย่างวันนี้ภาคเอกชนที่มาก็เป็นการขอคำปรึกษาและแนะนำต่างๆ เพราะเราต้องการทราบจริงๆว่าแต่ละภาคส่วนที่เรายืนกันคนละฝั่งคิดอย่างไร ซึ่งจากการที่ได้คุยกับทางสมาคมธนาคารไทย เราคิดว่าการเป็นเจ้าหนี้กับลูกหนี้เรายืนคนละฝั่งเราคิดอย่างไร ฉะนั้นในการแลกเปลี่ยนความเห็นถือเป็นเรื่องปกติ
"คุณทักษิณ ก็เป็นท่านหนึ่งที่เป็นผู้มีประสบการณ์ และเรื่องเศรษฐกิจท่านก็มีประสบการณ์มากและมีความรู้อย่างมาก ฉะนั้นการโยนไอเดียไปกลับซึ่งกันและกัน และเป็นพ่อของตัวดิฉันด้วย เราได้คุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน อันนั้นเป็นเรื่องปกติ และดิฉันเองคิดจริงๆว่ามันเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ ถ้าเราได้คุยกับหลายๆภาคส่วน หลายๆคนที่มีประสบการณ์ เพื่อให้นโยบายที่จะออกมาช่วยเหลือประชาชนดีที่สุดด้วย"
เมื่อถามว่าถ้าประชาชนอยากได้ความชัดเจนจากนายกฯตัวจริง จะเป็นไปตามนั้นหรือไม่ว่ากลุ่มแรกที่จะได้รับเงินสดคือกลุ่มเปราะบาง น.ส.แพทองธาร ได้หันไปถาม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ที่ยืนอยู่ด้านหลังว่า อยากช่วยตอบหรือไม่ หรือว่าเดี๋ยวรอตอบตามขั้นตอนดีกว่า ก่อนที่น.ส.แพทองธาร จะหันมากล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "มันค่อนข้างจะเป็นไปได้ที่จะเป็นอย่างนั้น แต่ความชัดเจนต้องรอวันแถลงนโยบาย อันนี้อย่าเพิ่งถามตนมากเดี๋ยวผิดกฎ เพราะเข้ามาบางทียังไม่ค่อยแน่ใจว่ากฎอันไหนที่สามารถพูดได้มากน้อยแค่ไหน แต่นักข่าวก็จะถามล่วงหน้า หากอะไรที่สามารถตอบได้จะพยายามตอบเต็มที่ แต่ถ้าอะไรที่ผิดกฎขออนุญาตกั๊กไว้เล็กน้อย"
เมื่อถามว่าจากการแสดงวิสัยทัศน์ของนายทักษิณ มองกันว่าเป็นการแถลงนโยบายรัฐบาลไปแล้ว น.ส.แพทองธาร กล่าวปฏิเสธว่า อันนี้ไม่ใช่เลย ไม่ใช่แน่นอน เพราะหนึ่งนายทักษิณไม่ได้มีตำแหน่งใดในรัฐบาล สองเรื่องนี้นายทักษิณทราบมาสักพักแล้วว่า จะได้ออกรายการนี้ และเตรียมการพูดคุยบนเวทีนี้มาสักพัก ถ้าใครได้ติดตาม ท่านจะพูดว่าได้เตรียมมาเยอะกว่านี้ด้วยซ้ำ ซึ่งจริงๆท่านหาข้อมูลจากคนต่างประเทศด้วย และข้อมูลจากตนที่ได้แลกเปลี่ยนกัน ฉะนั้นไม่ใช่การแถลงนโยบายแน่นอน แต่เป็นการพูดถึงวิสัยทัศน์ของท่าน โดยที่บางเรื่องอิงนโยบายของพรรคเพื่อไทยปนกัน
เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ที่บอกว่าอิงกับนโยบายของพรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เรียกว่ารัฐบาลดีกว่าเอาอย่างนี้ เพราะกำลังวิเคราะห์ในเรื่องของเศรษฐกิจของประเทศไทย ฉะนั้นนโยบายที่กำลังดำเนินอยู่ต้องถูกพูดถึงอันนี้เป็นเรื่องที่ปกติมากๆ
เมื่อถามว่า ในเมื่อนายทักษิณ มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์และมองการณ์ไกล ดูจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศ เพื่อเลี่ยงข้อครหาการครอบงำ มีแนวคิดจะให้มีตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งเพื่อช่วยเหลืองานหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า "จริงๆแล้วเหมือนกับการได้พูดไปก่อนหน้านี้ ต้องระวังเรื่องกฎหมายหรือกฎต่างๆอย่างมากมาย เพราะจริงๆเชื่อเหลือเกินว่าวิสัยทัศน์ ของนายทักษิณ จะเป็นประโยชน์ให้กับประเทศชาติ แต่มันคือไม่ใช่การครอบงำ เพราะจริงๆแล้วนอกจากนายทักษิณแล้ว ยังมีคนเก่งๆมากมายเช่นกัน แต่ทุกคนจะไม่มองว่าเป็นการครอบงำ เพราะคนท่านนั้นอาจจะไม่เคยอยู่ในการเมือง ฉะนั้นเลยไม่เป็นการครอบงำ แต่พอดีนายทักษิณ เคยเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นพ่อของนายกรัฐมนตรี ฉะนั้นอาจจะมองเป็นการครอบงำ มันจะมีเส้นบางๆ"
เมื่อถามว่า ไม่ใช่เป็นการครอบงำแต่เป็นการครอบครอง เรียกว่าเป็นการครอบครองแต่ไม่ได้ครอบงำได้หรือไม่ น.ส.แพทองธาร หัวเราะพร้อมกล่าวว่า "ตอนที่ท่านพูดใช่หรือไม่ เป็นการแซวกันเล่น เพราะจริงๆในบ้านก็สนิทกันอยู่แล้ว ฉะนั้นเป็นสิ่งที่พูดเล่นไม่มีการครอบงำแน่นอน เพราะตัวดิฉันเองก็มีความคิดเป็นของตัวเอง และค่อนข้างเป็นคนชัดเจนพอสมควร"