ยอดผู้ป่วยซุ้มยาดองที่ผสมเหล้าเถื่อนเพิ่มเป็น 27 คน ในจำนวนนี้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย ตะลึงผลตรวจพบเมทานอลสูงถึง 100,000 ppm ทั้งที่มาตรฐานต้องไม่เกิน 1,000 ppm
วันที่ 26 ส.ค. 2567 นายแพทย์ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ พร้อมด้วยนายแพทย์เกรียงไกร นามไธสง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางชัน ตำรวจ บก.น.3 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันประชุมติดตามความคืบหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี กรณีพบผู้ป่วยเป็นพิษเฉียบพลัน จากการดื่มสุราเถื่อนผสมเมทานอลหลายรายในพื้นที่เขตคลองสามวา และเขตมีนบุรี
นายแพทย์ไพโรจน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 08.00 น. มีผู้ป่วยรวมทั้งสิ้น 27 ราย เสียชีวิตแล้ว 2 ราย เหลือรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลต่างๆ 25 ราย โดยรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี 16 ราย โรงพยาบาลนวมินทร์ 9 จํานวน 6 ราย โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รามคําแหง 1 ราย โรงพยาบาลนวมินทร์ 1 ราย และโรงพยาบาลราชวิถี 1 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยสีแดง 13 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ สีเขียว 9 ราย และสีเหลือง 3 ราย ต้องรับการฟอกไต 18 ราย ซึ่งยังคงมีผู้ป่วยเดินทางเข้ามาอย่างต่องเนื่อง โดยจะมีการสรุปผลข้อมูลทุกวันให้ประชาชนทราบ ในเวลา 08.00 น. และ 18.00 น.
สำหรับเมื่อวานที่ผ่านม าทางกรมควบคุมโรคได้ลงพื้นที่ไปสอบสวนโรคในจุดสําคัญ เช่น ภายในซอยหทัยราษฎร์ 33 พบว่ามีผู้ที่ดื่มสุราเถื่อนเข้าไปอีกจํานวน 2-3 ราย แต่ยังไม่เข้ามาพบแพทย์ ในส่วนของผู้ป่วยที่เสี่ยงตาบอดนั้น ตอนนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ เพราะมีการใส่ท่อช่วยหายใจจึงยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะมองเห็นได้เหมือนเดิมหรือไม่
สําหรับเมทานอลเป็นแอลกอฮอล์ที่ใช้ในการจุดไฟทางอุตสาหกรรมซึ่งใช้เป็นตัวทําลาย ส่วนการกลั่นสุราก็สามารถพบได้แต่ต้องไม่เกิน 1,000 ppm แต่จากการตรวจสอบที่กรมสรรพสามิตเจอเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีเมทานอลสูงถึง 100,000 ppm ซี่งร้านที่จําหน่ายทั้ง 18 ซุ้ม คาดว่าอาจจะไม่ทราบเพราะรับมาอีกทอดหนึ่ง โดยจุดที่รับมาทางตํารวจได้สอบสวนพบว่ารับวัตถุดิบมาอีกทีหนึ่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างขยายผลเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา โดยเฉลี่ยปีหนึ่งพบว่าจะมีผู้ป่วยประมาณ 50-100 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสุราธรรมชาติที่ชาวบ้านต้มกลั่นกันเอง ส่วนผลของส่วนประกอบอย่างละเอียดของสุราเถื่อนอยู่ระหว่างการตรวจสอบของศูนย์พิษวิทยาโรงพยาบาลรามาธิบดี ซึ่งผลน่าจะออกมาใน 1-2 วัน
ทั้งนี้ นายแพทย์ไพโรจน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ฝากเตือนไปยังประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่ดื่มสุราเถื่อน 18 จุด พื้นที่ เขตมีนบุรี คลองสามวา หนองจอก ลาดกระบัง ประเวศ และคันนายาว ว่า หากมีอาการ วิงเวียนศรีษะ คลื่นไส้หรืออาเจียนและสายตาพร่ามัว ให้เข้ารับการตรวจได้ที่โรงพยาบาลใกล้เคียงทันที ซึ่งผู้ป่วยที่กินไปบางคนจะออกฤทธิ์ช้าในเวลา 48 ชั่วโมง