ฝากขัง "เอส-อาร์ท" 2 พี่น้อง ผลิตสุราเถื่อนให้ "เจ๊ปู" ผลิตยาดองมรณะจนมีคนตาย รับแล้วเปลี่ยนเจ้าสั่งซื้อเอทานอล แต่ยังยืนยันไม่รู้มีสารพิษเมทานอลปนเปื้อน ล่าสุดศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว

วันที่ 31 สิงหาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าที่ สน.มีนบุรี ภายหลังเมื่อวานนี้ตำรวจควบคุมตัว นายสุรศักดิ์ หรือ เอส และนายสุรชัย หรือ อาร์ท สองพี่น้องผู้ต้องหาร่วมกันผลิตสุราเถื่อน ส่งให้เจ๊ปูไปผลิตยาดองขายจนมีประชาชนเสียชีวิตหลายราย โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา ภรรยาของนายสุรชัย หรือ อาร์ท เดินทางเข้าติดต่อขอเยี่ยมผู้ต้องหา โดยไม่ได้พูดคุยอะไรกับสื่อมวลชนที่พยายามสอบถาม






ต่อมา เวลา 09.30 น. เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายเอส และนายอาร์ท ออกจากห้องควบคุมผู้ต้องหา นำไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ห้องศูนย์ปฏิบัติการสืบสวนสอบสวน คดีผู้ได้รับสารพิษเมทานอล ซึ่งระหว่างที่ควบคุมตัวไป ผู้สื่อข่าวก็พยายามสอบถามทั้ง 2 คนอีกครั้ง ว่ายังยืนยันเหมือนเดิมหรือไม่ แต่ทั้งคู่ไม่ตอบอะไร เดินก้มหน้าอย่างเดียว




พ.ต.อ.อิสระ ณ พัทลุง รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 ระบุว่า จากการสอบปากคำในทีแรก ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ยังคงปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ได้ให้การในข้อเท็จจริงว่าได้ไปซื้อเอทิลแอลกอฮอล์ (เอทานอล) มาผลิตสุราส่งให้กับเจ๊ปู ต่อมาเมื่อเช้านี้ ผู้ต้องหาบอกว่าอยากจะให้การเพิ่มเติม ซึ่งตำรวจเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี จึงประสานทนายความจะทำสภาทนายความมาร่วมสอบ ซึ่งผู้ต้องหายังไม่ได้รับสารภาพข้อกล่าวหา แต่ให้การในข้อเท็จจริงเพิ่มเติม หลังจากนี้จะส่งตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลมีนบุรี โดยพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก และเกรงว่าผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน




ขณะที่มีรายงานว่า จากการสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้ต้องหาได้รับแล้วว่า มีการเปลี่ยนเจ้าในการสั่งซื้อ “เอทานอล” จริง โดยไปซื้อเจ้าที่มีราคาถูกกว่าอยู่ในพื้นที่ปริมณฑล แต่ยังคงยืนยันว่าซื้อสาร “เอทานอล” ไม่ใช่ “เมทานอล” ซึ่งชุดสืบสวนจะติดตามขยายผลประเด็นนี้ต่อไป


ต่อมา เวลา 11.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนไปขึ้นรถเพื่อส่งตัวฝากขังศาลมีนบุรี ระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงประเด็นต่าง ๆ แต่ผู้ต้องหาปฏิเสธที่จะตอบคำถามใด ๆ พูดเพียงสั้นๆ ว่า “ขอโทษ และเสียใจ”

ศาลไม่ให้ประกันตัว พี่น้อง "ยาดองมรณะ"
โดยในคำร้องฝากขัง พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนไม่เสร็จสิ้น เนื่องจากต้องสอบสวนพยานอีก 6 ปาก และรอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหาและประวัติต้องโทษของผู้ต้องหา ขอให้ศาลออกหมายขังผู้ต้องหาไว้ระหว่างการสอบสวนมีกำหนด 12 วัน ตั้งแต่ 31 ส.ค. – 11 ก.ย. 2567

และในท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้าน ในกรณีผู้ต้องหาขอให้ปล่อยชั่วคราว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี

ต่อมา ศาลอาญามีนบุรี พิจารณาคำร้องฝากขังแล้ว มีคำสั่งอนุญาตฝากขังได้ ภายหลัง ไม่มีข้อมูลว่าผู้ต้องหาทั้งสองยื่นประกันตัว โดยศาลอาญามีนบุรี ออกหมายขังผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ไปยังเรือนจำพิเศษมีนบุรี