เรียกสอบเจ้าของร้านเคมีภัณฑ์เพิ่ม ตำรวจยังติดใจคำให้การขายเอทานอลให้ 2 พี่น้องผลิตเหล้าเถื่อนจริงหรือไม่ ล่าสุดพบคลัสเตอร์เพิ่ม 3 จุด รวมเป็น 21 จุด

วันที่ 4 กันยายน 2567 มีรายงานว่า พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้ร่วมประชุมถึงความคืบหน้าคดี “เหล้าเถื่อน” ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 8 รายก่อนหน้านี้




โดย พล.ต.ท.อัคราเดช เปิดเผยหลังการประชุมว่า วันนี้เป็นการประชุมถึงความคืบหน้าของสำนวนการสอบสวนในการลักลอบจำหน่ายสุรายาดอง ในพื้นที่ บก.น. 2-3-4 ซึ่งในส่วนของนครบาลได้ตั้งคณะทำงานไว้แล้ว โดยมี พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ เป็นประธานคณะทำงาน ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ไปขยายผลร้านเคมีภัณฑ์ที่จำหน่ายสารเคมีให้กับ 2 ผู้ต้องหา (เอส , อาร์ท) นำไปผลิตเหล้าเถื่อน




โดยที่ผ่านมาทาง บก.น.3 ได้มีการเชิญเจ้าของร้านเคมีภัณฑ์แห่งที่ 2 ที่อยู่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ มาให้ข้อมูลแล้ว เบื้องต้นจะมีการตรวจสอบใบอนุญาตเปิดกิจการ , ใบอนุญาตการซื้อขายเคมีภัณฑ์ รวมทั้งเอกสารการซื้อขายในวันเกิดเหตุ ซึ่งตำรวจเองยังไม่ปักใจเชื่อตามคำกล่าวอ้างของเจ้าของร้านที่ระบุว่าได้ขายเอทานอลให้ผู้ต้องหา ซึ่งส่วนนี้ต้องตรวจสอบอย่างละเอียด ส่วนการที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย (เอส อาร์ท) ได้ให้การว่าได้สั่งซื้อเอทานอลถือว่าเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาในคำให้การ แต่ตำรวจก็ไม่ได้ปักใจเชื่อเนื่องจากมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยัน ว่าพบสารเมทานอลในเลือดของผู้ป่วยและผู้เสียชีวิต และยังพบพยานหลักฐานเป็นสารเมทานอลในบรรจุภัณฑ์ที่เกิดเหตุ




ดังนั้นตำรวจจึงสอบสวนถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดโดยละเอียด ถ้าพบใครมีความผิดจะดำเนินการโดยไม่มีข้อละเว้น นอกจากนี้ในการสอบสวน เบื้องต้นมีผู้บาดเจ็บ 36 ราย และเสียชีวิต 8 ราย โดยแต่เดิมมีซุ้มยาดองเพียง 18 จุด และได้มีการขยายผลเพิ่มพบอีก 3 จุด รวมเป็น 21 จุด ที่เพิ่มมาใหม่คือ สุวินทวงศ์ 1 , รามอิทรา 99 , หทัยราษฎร์ 50


อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าสำนวนคดีทั้งหมดมีความคืบหน้าไปกว่า 90% และเตรียมส่งสำนวนให้พนักงานอัยการสั่งฟ้องได้ภายในต้นเดือนพฤศจิกายนนี้