อิทธิพลพายุยางิถล่มนครพนม แค่ 20 นาที ทำต้นไม้ใหญ่อายุ 100 ปี หักโค่นทับเก๋งพังยับทั้งคัน คนขับรอดตายหวุดหวิด
วันที่ 6 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดนครพนม เกิดเหตุระทึกจากอิทธิพลของพายุยางิหลังขึ้นฝั่งที่ประเทศเวียดนาม และส่งผลกระทบมายัง สปป.ลาว พายุฝนและลมกระโชกรุนแรงเข้าถล่มพื้นที่จังหวัดนครพนม นาน 20 นาที ตั้งแต่เวลา 11.10 น. แรงลมส่งผลให้ต้นไม้ใหญ่ 2 ต้น ได้แก่ ต้นอินทรีย์อายุ 100 ปี และต้นหางนกยูงอายุ 50 ปี หักโค่นทับรถเก๋งที่จอดอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง บนถนนสุนทรวิจิตร ทำให้รถได้รับความเสียหายหนัก
ผู้ประสบเหตุคือ น.ส.กฤษณา อายุ 43 ปี ชาวจังหวัดขอนแก่น เล่าว่า ตนขับรถเก๋ง เลขทะเบียน 3711 ซึ่งยืมของญาติขับมาจากเชียงใหม่เพื่อมาเยี่ยมย่าทวดที่ อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ระหว่างที่จอดรถเพื่อส่งแฟนไปซื้อของในตัวเมือง และตนได้จอดรถใต้ต้นไม้ใหญ่และยืนโทรศัพท์ริมฝั่งโขง ก่อนที่ท้องฟ้าจะมืดครึ้มและพายุฝนฟ้าคะนองจะพัดกระหน่ำ จากนั้นตนรีบวิ่งขึ้นไปในรถเพื่อหลบพายุ แต่ไม่นานนักได้ยินเสียงต้นไม้หักโค่นทับตัวรถ โคนต้นไม้ล้มลงกึ่งกลางระหว่างเบาะคนขับและเบาะผู้โดยสาร ทำให้หลังคารถยุบและกระจกแตก โชคดีที่รอดตายหวุดหวิด จากนั้นมีพลเมืองดี 2 คนมาช่วยเหลือตนออกจากรถ
น.ส.กฤษณา ยังบอกอีกว่า นี่เป็นครั้งที่สองที่ตนเองรอดตายหวุดหวิด ก่อนหน้านี้เคยประสบอุบัติเหตุรถแหกโค้งที่จังหวัดแพร่เมื่อปีที่แล้ว แต่ไม่บาดเจ็บเลย จึงเชื่อว่าการทำบุญช่วยเหลือพ่อแม่และสัตว์จรจัดอาจเป็นเหตุให้เธอรอดตายได้อีกครั้ง
ขณะที่ นายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเมืองนครพนม สั่งการให้เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองนครพนม เข้าปิดกั้นการจราจรบริเวณถนนสุนทรวิจิตร และนำรถกระเช้าพร้อมเลื่อยยนต์เข้ามาตัดกิ่งและเก็บต้นไม้ที่โค่น ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จึงสามารถเคลียร์พื้นที่ได้เสร็จสิ้น